สูตรลับตำรับยา... “แก้เส้นตึง” “แก้ปวดข้อเข่า” เสมอเหมือนเป็นตำรา “ยาผีบอก” ที่ถูกส่งต่อผ่านกันมาเป็นทอดๆ โดยที่ไม่มีใครจะรู้ได้เลยว่าต้นทางจริงๆนั้นมาจากที่ใดกันแน่
หลายคนได้รับได้รู้ก็เอาไปทำตามปรากฏว่าได้ผลทันตา อาการที่เป็นมาเรื้อรังเนิ่นนาน ไม่ว่าจะเป็นอาการเส้นที่ตึงรัดเมื่อได้ทายานี้แล้วก็กลับหย่อนหายคลายทุกข์นั้นลงไปได้ หรือแม้แต่ข้อเข่าที่ตึงปวดเมื่อได้ลองทายานี้แล้วก็คลายลงไปได้ในบัดดลจนน่าตกใจเช่นเดียวกัน
สูตรตำรายาที่ว่านี้นั้นใช้มะกรูดเป็นลูกๆหั่นครึ่งพอดีโหลหมักตามสมควร จากนั้นนำเหล้าขาวมาเทให้ท่วมเนื้อมะกรูดแล้วปิดฝาให้แน่น ทิ้งไว้เป็นเวลา 3 เดือนขึ้นไป ตามคำบอกกล่าวระบุว่า...ยิ่งทิ้งไว้นานเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นผลดีมากขึ้นเท่านั้น เวลานำมาใช้ก็เอาแต่น้ำมาทาตรงจุดที่ปวด หรือตามแนวเส้นที่ตึง
ไม่นาน...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ อาการปวดที่ว่าหนักหนานั้นก็กลับบรรเทาหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ได้จริงๆ
กรณียาผีบอกข้างต้นนี้ มาจากประสบการณ์ส่วนตัวคนใกล้ตัว ที่บอกต่อส่งผ่านกันมาจากเพื่อนสู่เพื่อนแล้วก็ใช้กันมานานกว่า 8 ปีแล้ว ยืนยันว่ายังใช้อยู่เรื่อยๆเมื่อปวด แล้วก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรที่ไม่ดีเลย
...
หลายๆคนคงพอจะรู้คำว่า “ยาผีบอก” ก็คือยาที่ได้มาจากการฝัน หรือการทรงเจ้าเข้าทรง โดยที่มาเข้าฝันหรือบอกกล่าวนั้นมาบอกสูตรตำรับให้ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับรู้นำไปใช้ปรุงเพื่อรักษาตัวเพื่อเป็นการเอาบุญหนุนเสริม ทว่าเมื่อผู้นำไปใช้แล้วหายจากโรคภัยไข้เจ็บก็ต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าของตำรับยา
“ยาผีบอก”...ตามศรัทธา ความเชื่อจึงมักจะมีเจ้าของ “ผู้ใช้” ที่ดีควรที่จะต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ตามกำลังศรัทธา
เรื่องราวเกี่ยวกับยาผีบอกใครเชื่อไม่เชื่ออย่างไรก็ให้รู้เอาไว้อย่างน้อยๆก็เพื่อประดับความรู้ อาจจำเป็นเวลาคับขันไม่มีทางเลือกอื่น อย่างน้อยๆถ้าทำแล้วไม่เกิดโทษภัยอันตรายก็ลองกันได้ไม่เสียหายแต่ประการใด เพราะตำรับยาส่วนใหญ่ที่เห็นก็มักจะใช้สมุนไพร ใช้พืชผักจากธรรมชาติไม่ได้ใช้สารเคมีใดๆผสมเลย
@@@@@@
ตัวอย่างยาผีบอกตำรับอื่นๆ อาทิ พอกแผล ใช้...ดอกชบาแดง ใบชบาแดง ทองสามย่าน ใบตำลึง ใบผักปริง หางตะเข้ การปรุงให้นำตัวยาอย่างละเท่าๆกันตำแล้วคลุกเคล้ากับสุรา ใช้พอกหรือทาก็ได้
แก้ลมพิษ...ถูกบุ้งคัน ให้เอาใบตำลึงมาตำหรือขยี้ให้แหลกแล้วเอาไปคลุกกับสุราขาวหรือเหล้า 28 ดีกรี ใช้ทาตรงที่เป็นลมพิษหรือถูกบุ้งคัน อาการจะหายทุเลา นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณแก้ปวดแผลต่างๆ โดยเฉพาะแผลที่ปวดแสบปวดร้อนตำรับยานี้ก็ยิ่งถูกกัน
ทำให้เป็นหนุ่มเป็นสาว...ตามตำรากล่าวไว้ว่า สิทธิการิยะ หญิง...ชายท่านใดที่มีอายุล่วงเข้า 40 ปีหรือเลยไป โบราณท่านว่าเข้าวัยกลางคนร่างกายที่เคยกระชุ่มกระชวยเต็มไปด้วยพละกำลังวังชาก็ถดถอยอ่อนแอลงไปเป็นลำดับ ท่านให้เจียดยาสมุนไพรดังนี้
...ทิ้งถ่อน ตะโกนา บอระเพ็ด เมล็ดข่อย แห้วหมู พริกไทย มะตูมอ่อน โสม หนักอย่างละ 1 บาท บดให้ละเอียดคลุกกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนเท่าเม็ดถั่วลิสง รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 เวลา...ก่อนนอนกับตื่นนอนทุกวัน เพิ่มพลังดีนักแล
อายุวัฒนะ...สิทธิการิยะ ยาอายุวัฒนะขนานนี้ท่านให้เอา สมอไทย 5 ผล ลงด้วยพระเจ้า 5 พระองค์ (นะ โม พุท ธา ยะ)...เมล็ดใน
สลอด (กินลง) 7 เม็ด ลงด้วยหัวใจพระธรรมเจ็ดคัมภีร์ (สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ)...แห้วหมู 3 หัว ลงด้วย (มะ อะ อุ)...บอระเพ็ด ยาว 3 องคุลี ตัด 3 ท่อน ลงด้วย (อิ สวา สุ)...
...
หัวเข้าค่า 4 หัว ลงด้วย (ทุ สะ นิ มะ)...ใบโคนดินสอ 32 ใบ ลงด้วย (อาการ 32)...ยาดำหนัก 1 บาท...สำหรับวิธีปรุงนั้นให้เอาตัวยาทั้ง 7 สิ่ง ใส่ในถ้วย 7 ใบ เอาน้ำผึ้งแท้ใส่ลงแช่ให้ท่วมตัวยาแล้วเสกด้วยคาถาว่า “เสกขา ธัมมา อะเสกขา ธัมมา เนวะเสกขานา เสกขา ธัมมา”
และ...ให้เริ่มทำยานี้ในวันเสาร์แช่ไว้จนครบ 7 วัน เอาตัวยาออกมาผสมกับน้ำผึ้งที่แช่ใบโคนดินสอเก็บเอาไว้เป็นกระสายน้ำผึ้งที่แช่ยาอื่นๆ นำเอาไปเททิ้งในที่ไม่โสโครก เอายาที่ทำเป็นผงแล้วมาผสมกับน้ำผึ้งที่แช่ใบโคนดินสอ เวลาจะกินให้ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเม็ดพุทธรักษา...ต้องเริ่มกินในวันพฤหัสบดี
วันแรกกินเพียงเม็ดเดียว วันต่อไปวันศุกร์กิน 2 เม็ด วันที่สาม...วันเสาร์กิน 3 เม็ด แล้วหยุดดูกำลังเสียก่อน ถ้ากำลังน้อย...ถ่ายมากให้ลดลงกินวันละ 3 เม็ดตลอด กล่าวไว้อีกด้วยว่า...ยานี้ท่านว่ากินไปได้ 15 วัน โรคภัยในตัวจะหายสิ้น มีกำลังดีมาก กินไป 1 เดือนเสียงจะกังวานไพเราะ
กินไป 1 เดือนครึ่งจะคงกระพันชาตรีในตัว กินจนถึง 2 เดือนตัวจะเบาเดินเหินคล่องแคล่วปานลมพายุ กินถึง 3 เดือนมีปัญญากว่าคนทั้งหลาย กินถึง 4 เดือนปรารถนาสิ่งใดได้สมหวัง
...
@@@@@@
นพ.วิวัฒน์ วิริยกิจจา ได้กล่าวสรุปถึงเรื่อง “ยาผีบอก” ไว้ในนิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 291 ระบุว่า การใช้ยาผีบอกนั้นขอให้ใช้วิจารณญาณให้ดีและหาข้อมูลให้รอบคอบ อย่าแนะนำคนอื่นไปเรื่อย...เป็นการทำร้ายคนอื่นโดยไม่ตั้งใจ จะเป็นอกุศลกรรม จะมีผลต่อคนกระทำต่อไปในอนาคต
“คนที่จะใช้ยาผีบอก ควรพิจารณาว่าสะอาด ปลอดภัย คุ้มค่าหรือไม่ มีผลจริงหรือไม่ คนที่จะแนะนำคนอื่นควรพิจารณาให้แน่ใจว่าคนเราที่แนะนำให้บริโภคอะไรกันแน่ การแนะนำของเราขัดขวางการรักษาเดิมหรือไม่ ควรหยุดบริโภคสิ่งที่เราแนะนำเมื่อใด ข้อพิจารณาการบริโภค...”
ทั้งหมดเหล่านี้...ขอให้อยู่ในเหตุในผล เราก็จะมี “สุขภาพดี” ขึ้นไปเรื่อยๆ
กระนั้นแล้วความเชื่อในเรื่องราวของ “ยาผีบอก” นั้นก็ยังมีความเกี่ยวโยงกับ “คัมภีร์โบราณ” ที่บันทึกไว้ในใบลาน จารึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรตั้งแต่โบร่ำโบราณไม่ได้อ้างผู้บันทึก หากแต่บอกเล่าผ่านต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นและได้มีการปฏิบัติตามกันมาแล้วได้ผล ทำให้สร้างความศรัทธาสืบต่อๆกันมาถึงปัจจุบัน
...
หากแต่ว่าบางตำรายาก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลจะต้องวินิจฉัยอ้างอิงตามความเป็นจริง หาความรู้เพิ่มเติมด้านตัวยาที่นำมาเป็นส่วนประกอบ ด้วยอาจส่ง “ผลเสีย” กับ “ผู้ใช้” ขึ้นมาได้
“ศรัทธา” นำมาซึ่ง “ปาฏิหาริย์” เชื่อไม่เชื่ออย่างไรโปรดอย่าได้ “ลบหลู่”.
รัก-ยม