การตกแต่งและประดับต้นคริสต์มาสในเทศกาลแห่งความสุขนี้ ไม่มีกฎตายตัวที่ห้ามหรือต้องแขวนอะไรเป็นพิเศษ แต่เนื่องจากเทศกาลคริสต์มาสมีประวัติและที่มาเกี่ยวกับการรับของขวัญจากซานตาคลอสก็เกิดเป็นความนิยมตามความเชื่อ ด้วยการแขวนถุงเท้าเพื่อรอรับของขวัญสุดพิเศษ โดยผู้ที่นำของขวัญมาใส่อาจจะเป็นคุณพ่อหรือคุณแม่ของเด็กๆ นั่นเอง
ของประดับต้นคริสต์มาส มีอะไรบ้าง
ในต่างประเทศ การประดับประดาต้นคริสต์มาส เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม หรือก่อนหน้านั้น เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่เทศกาลแห่งความสุข ร้านค้าต่างๆ ตกแต่งหน้าร้านด้วยต้นคริสต์มาส เพื่อต้อนรับลูกค้า พร้อมกับป้ายที่แขวนรับเทศกาลปีใหม่ไปพร้อมๆ กัน สิ่งที่นิยมประดับต้นคริสต์มาส ได้แก่
...
1. ต้นคริสต์มาส
นับแต่อดีต ชาวคริสต์นิยมใช้ต้นสนเป็นต้นคริสต์มาส เพราะมีความหมายเกี่ยวข้องกับต้นไม้บนสวรรค์ที่เอวากับอาดัมไปเด็ดผลไม้มากิน จนเป็นต้นกำเนิดของมนุษย์ อย่างไรก็ดี ต้นสนเป็นต้นไม้ที่พบมากในประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ แต่ปัจจุบันเพื่อความสะดวกก็ใช้เป็นต้นไม้พลาสติกเพื่อเก็บไว้ใช้ในปีถัดไปได้
ต้นคริสต์มาส (Poinsettia Tree) เป็นต้นไม้ที่นำมาประดับบ้าน แต่ไม่ได้ถูกประดับไฟแบบต้นสน เป็นตำนานความเชื่อของชาวคริสต์ เกิดจากหญิงสาวชาวไร่ผู้ยากไร้ผู้กังวลถึงของขวัญที่จะนำไปมอบให้พระแม่มารี นางฟ้าจึงมอบเมล็ดพันธุ์ให้เธอไปเพาะ เมื่อถึงเทศกาลคริสต์มาส เมล็ดพันธุ์ได้เติบโต และมีใบยอดและดอกสีแดงเลือดหมูสดใส นับแต่นั้นมาต้นคริสต์มาส (Poinsettia Tree) กลายเป็นต้นไม้ที่นิยมประดับประดาโบสถ์และบ้านในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ในอดีตมีการสร้างต้นคริสต์มาสด้วยการนำเทียนมาวางเรียงต่อกันเป็นรูปทรงพีระมิด แต่ปัจจุบันได้มีการนำดวงไฟมาประดับบนต้นคริสต์มาสแทน เพื่อความสะดวก
ดาวบนต้นคริสต์มาส มีที่มาอยู่ 2 ตำนานความเชื่อ ตำนานแรกเรียกว่าดาวของดาวิด (Star of David) เป็นสัญลักษณ์ที่นิยมในตะวันออกกลาง เชื่อว่ามีอำนาจพิเศษเพื่อขับไล่ภูตผีปิศาจ อันเป็นความเชื่อเดิมตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลในกลุ่มยาวยิว ตำนานที่สอง เชื่อว่าในอดีตช่วงเวลาที่พระเยซูประสูติ โหราจารย์ได้มองเห็นดวงดาวที่สุกไสวบนท้องฟ้า จึงออกเดินทางตามหาดาวดวงนั้น จนไปพบสถานที่ประสูติของพระเยซูที่เมืองเบธเลเฮม จึงเป็นสัญลักษณ์ของการเสด็จลงมาประสูติบนโลกมนุษย์ของพระเยซู เรียกดาวดวงนี้ว่า Star of Bethlehem
...
แต่ละบ้านจะประดับประดาหน้าประตู ด้วยพวงมาลัยคริสต์มาส หรือเรียกว่า หรีดคริสต์มาส เพื่อระลึกถึงมงกุฎหนามบนศีรษะของพระเยซู และเชื่อว่าสัญลักษณ์นี้ปกป้องบ้านเรือนจากพลังชั่วร้าย และนำโชคดีมาให้ผู้ประดับอีกด้วย
นอกจากนี้ยังพบใบและลูกต้นฮอลลี่ (Holly Tree) นำมาทำเป็นพวงมาลัยต้นคริสต์มาส หรือนำมาทำต้นคริสต์มาส ด้วยลักษณะของลูกฮอลลี่มีสีแดง และมีพิษ เป็นสัญลักษณ์ของเลือดของพระเยซูที่ไหลหยดจากไม้กางเขน สีแดง และสีเขียว ของฮอลลี่ เป็นสัญลักษณ์ของความรักและศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า
ดอกกุหลาบบนต้นคริสต์มาส มีลักษณะเป็นสีขาวและมีสีชมพูบนปลายกลีบ (รู้จักกันในชื่อ Helleborus Niger Christmas Rose) มาจากตำนานที่เล่าต่อกันมาว่า ช่วงที่พระเยซูประสูติ มีโหราจารย์ 3 ท่านเดินทางมาพบพระเยซู ทุกคนนำของขวัญมาถวาย หญิงเลี้ยงแกะคนหนึ่งซึ่งกำลังดูแลแกะอยู่หน้าประตูถ้ำ ได้เห็นของขวัญที่ทุกคนนำมาถวาย รู้สึกตื้นตันไม่มีอะไรจะมอบให้ นางฟ้าจึงบันดาลดอกไม้นี้ให้ผุดขึ้นมาจากหิมะใกล้เท้าของเธอ สื่อถึงความรักที่บริสุทธิ์ เพื่อมอบแก่พระเยซู
ก่อนถึงวันคริสต์มาส คืนวันที่ 24 ธันวาคม ตามตำนานเล่าว่ามีเสียงกระดิ่งดังกังวานในคืนวันคริสต์มาสอีฟ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองพระเยซูประสูติ สัญลักษณ์ของการตีระฆังในคืนวันคริสต์มาสจึงหมายถึงการลดพลังงานความมืด ปัจจุบันหมายถึงการป่าวประกาศว่าใกล้ถึงเทศกาลรื่นเริง และจำลองนำระฆังมาประดับต้นคริสต์มาสเรื่อยมา
...
นอกจากนี้ยังนิยมประดับ กล่องของขวัญ, ริบบิ้น, ถุงเท้า และตุ๊กตาซานตาคลอส เพื่อความสวยงาม ตามตำนาน เรื่องเล่าของแต่ละท้องถิ่น ดังนั้นการประดับต้นคริสต์มาสจึงถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสิ้นปี เตรียมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของชาวคริสต์ และผู้คนทั่วโลก
คลิกดูสินค้าตกแต่งต้นคริสต์มาส ราคาประหยัด ได้ที่นี่
ที่มา : เว็บไซต์มหาวิทยาลัยมหิดล