“รถยนต์ไฟฟ้า” กำลังเริ่มเป็นที่ต้องการจากผู้บริโภครถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งยังคงเป็นคำถามว่ารถยนต์ไฟฟ้าแต่ละประเภทมีการทำงานแบบไหน รุ่นใดบ้าง เรามีคำตอบ

ความนิยมสำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า (EV Vehicle) มีเพิ่มมากขึ้นในทุกปี จากตัวเลขยอดการสั่งซื้อในช่วงที่ผ่านมา โดยมีจุดประสงค์หลัก คือ การช่วยลดภาระค่าน้ำมัน รวมถึงช่วยลดมลพิษทางอากาศที่ทำลายสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อโลกในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีการพัฒนาที่ต่อเนื่อง ทั้งระบบฟังก์ชันภายใน การขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้าในด้านต่างๆ ที่เยอะกว่าเดิม ทำให้คนเชื่อกันว่าในอีกไม่ถึง 10 ปี ข้างหน้ารถยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นยานพาหนะหลักที่ใช้กันทั่วโลก

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ไทยรัฐออนไลน์ ขอแนะนำประเภทต่างๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน

รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด HEV (Hybrid Electric Vehicle)

รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด จะขับเคลื่อนระหว่างเครื่องยนต์สันดาป และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดนี้ จะไม่มีตัวเสียบชาร์จพลังงาน รถยนต์จะขับเคลื่อนโดยเชื้อเพลิงน้ำมัน ระหว่างที่ขับเคลื่อนเพื่อสะสมพลังงาน ระบบรถยนต์จะนำพลังงานนั้นไปแปลงเป็นระบบไฟฟ้าเพื่อมาสลับใช้งานเพื่อประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยมลพิษ

จุดสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดนั้นอยู่ที่การไม่ต้องหาสถานีชาร์จไฟฟ้า เนื่องมาจากการให้บริการที่ยังไม่เพียงพอต่อผู้บริโภค จึงยังเป็นที่นิยมอยู่ แต่ถูกคาดการณ์ไว้ว่าเมื่อการบริการของรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมสมบูรณ์ รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดน่าจะได้รับความนิยมน้อยลง

รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด ราคาเบื้องต้น : 600,000 บาท - 3,000,000 บาท

รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle)

...

รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน ขับเคลื่อนระหว่างเครื่องยนต์สันดาป และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน แตกต่างออกไปตรงที่สามารถเสียบชาร์จไฟฟ้าได้ แต่การทำงานยังคงเหมือนกับ รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดทั่วไป เพียงแต่รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอินถูกพัฒนามาเพื่อให้เปลี่ยนโหมดมาขับเคลื่อนรถยนต์โดยไม่ต้องใช้น้ำมันได้ ซึ่งอัตราการชาร์จไฟฟ้าเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 4 - 5 ชั่วโมง สามารถขับเคลื่อนได้ในระยะทาง 20 - 50 กิโลเมตร

ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน ยังคงเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอยู่มากในประเทศไทยเป็นอันดับที่ 2 เป็นรองเพียงแค่ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ BEV เท่านั้น

รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน ราคาเบื้องต้น : 1,300,000 บาท - 5,000,000 บาท

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ BEV (Battery Electric Vehicle)

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ ขับเคลื่อนได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงที่สะสมอยู่ในแบตเตอรี่เท่านั้น โดยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่จะไม่มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแต่อย่างใด รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ต้องเสียบชาร์จเพื่อนำพลังงานเข้าเท่านั้น ใช้เวลาอยู่ที่ 2 - 4 ชั่วโมง หรือ 6 - 8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับแต่ละชนิดของหัวชาร์จ ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้หลังจากชาร์จไฟฟ้าเต็มแล้วสามารถขับเคลื่อนได้ในระยะทาง 300 - 500 กิโลเมตรเลยทีเดียว

ในเวลานี้ รถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ปัจจุบันยอดสั่งซื้อ และยอดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ทั่วโลกมีรวมทั้งสิ้น 10 ล้านคันทั่วโลก และมีจำนวนเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ ราคาเบื้องต้น : 300,000 บาท - 3,000,000 บาท

รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน หรือ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง FCEV (Fuel Cell Electric Vehicle)

รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 2000 ซึ่งมีรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนที่จัดจำหน่ายแล้วอยู่น้อย และมีสถานบริการเติมไฮโดรเจนเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น โดยระบบการทำงานของรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนนั้นจะเป็นการส่งไฮโดรเจนเหลว และอากาศที่มีออกซิเจนเข้ามาสู่แผงวงจนเพื่อเก็บพลังงานไว้ในแบตเตอรี่ ก่อนจะหล่อเลี้ยงออกมาเป็นพลังงานขับเคลื่อนของรถยนต์

รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน ในปัจจุบันยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก และมีผลิตรถยนต์นี้ออกมาเพียงไม่กี่รุ่น ซึ่งรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนนั้นถูกมองว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานบริสุทธิ์ที่สุด และยังคงเป็นความท้าทายในวงการรถยนต์แห่งอนาคต เพื่อพัฒนาต่ออยู่อย่างเสมอ

รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน ราคาเบื้องต้น : ยังไม่มีขายในประเทศไทย

ความแตกต่างของรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 4 แบบ
ความแตกต่างของรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 4 แบบ

ทางด้านสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ระบุว่า ภายในปี 2030 ประเทศไทยต้องมีสถานีชาร์จ 567 สถานี โดยในปัจจุบัน ไทยมีสถานีชาร์จทั่วประเทศ 158 สถานี ดังนั้นแล้วถ้าหากผู้บริโภคเริ่มทยอยซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น บริการสถานีชาร์จก็มีโอกาสที่จะเติบโตเร็วขึ้น

...

นอกจากนี้แล้ว ยังมีกระแสตอบรับจากการที่มีผู้คนเริ่มรณรงค์เรื่องมลภาวะในสิ่งแวดล้อม ทำให้คาดการณ์ว่าในปี 2023 นี้ ที่งานมอเตอร์โชว์ในวันที่ 22 มีนาคม 2566 อาจได้เห็นผู้คนแสดงความสนใจพลังงานสะอาดจากรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น