สนามพระวิภาวดี ของท่านผู้ชมยังอยู่ในธีมการเมือง หลังได้เห็นหน้า ครม.แพทองธาร ๑ กันแล้ว ถูกใจหรือยี้ใครก็ได้แค่เม้าท์กระหน่ำ แต่ก็ทำอะไรมิได้ เพราะพวกเราไม่ใช่คนจัดตั้ง และต้องยอมรับ แม้จะไม่เต็มใจรับว่าการจะให้ รัฐบาล อยู่อย่าง สตรอง มีเสถียรภาพมั่นคงได้ จำเป็นต้องอาศัยทั้งพระเดชพระคุณ จึงได้เห็นหน้ารัฐมนตรีหลายคนที่มาเพราะเหตุนั้น--ก็รอดูการทำงานไปก่อน ถ้าทำได้ดีไม่มี เรื่อง “แดก” ก็ไม่โดนแฉ
โฉบไปตลาดพระเครื่องของเรา องค์แรกที่มาต้อนรับ ครม. นายกฯอิ๊งค์ คือ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานคู่ กรุเก่า วัดใหม่อมตรส เขตพระนคร กรุงเทพฯ พิมพ์นิยมสุดท้ายในสกุลพระสมเด็จบางขุนพรหม ของ เสี่ยแอร์ พระสมเด็จ
เป็นพระสภาพสมบูรณ์สวยเยี่ยมเดิมๆ เด่นสุดที่พิมพ์พระซึ่งสมบูรณ์ เส้นศิลป์คมชัดติดเต็มเสมอทั่วองค์ เนื้อมวลสารเข้มข้นครบสูตรแบบที่เรียกว่า “เนื้อจัด” ผิวเนื้อขาวสะอาดเนียนตา มีคราบฝ้ารากรุ “น้ำตาล” จับแน่นเข้าเนื้อเพียงบางเบา บอกยี่ห้อ “พระกรุเก่า” อย่างชัดเจน
เสียดายนิดนึงที่ฟอร์มทรงดูฝืนธรรมชาติ ตอนตัดขอบคงมีเจตนาให้ได้รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า “ชิ้นฟัก” มากไป ทำให้ขอบองค์พระด้านหน้า ดูขัดตากับเส้นบังคับพิมพ์ไปนิดหน่อย แต่ไม่เสียหายเพราะได้ความงามขององค์รวมที่สมบูรณ์เต็มร้อยไร้รอยสัมผัส กับผิวด้านหลังที่เพอร์เฟกต์ บอกชัดความเป็นมาตรฐาน “พระบางขุนพรหม” มาเติมเต็มความเป็นพระแท้ ดูง่าย ระดับแชมป์ “องค์ครู” ของพิมพ์ที่หาพบยากสุดๆ แบบที่โบราณ บอกว่าหาอยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร
...
องค์ที่สองของ เสี่ยบาส แช่มช้อย คือ พระวัดพลับ พิมพ์สมาธิใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ซึ่งได้ชื่อเป็น ต้นตำรับพระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณผสมปูนเปลือกหอย ที่มีอายุตามประวัติการสร้างมาก่อน “พระสมเด็จ วัดระฆังฯ” เป็นพระพิมพ์ที่เชื่อได้ว่า สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) สร้างบรรจุไว้ครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระราชทานเลื่อนฐานาสมณศักดิ์จาก “พระญาณสังวร” ขึ้นเป็น “สมเด็จพระญาณสังวร” ดังนั้น พระพิมพ์ที่ท่านสร้างก็น่าจะเรียกเป็น “พระสมเด็จ” ตามที่ เสี่ยบาส เจ้าของพระบอกมาได้ ตามอย่าง “พระสมเด็จ วัดระฆังฯ ของสมเด็จฯโต” ที่เป็นศิษย์สร้างไว้ครั้งได้สถาปนาเป็น สมเด็จพระพุฒาจารย์--ต่างกันที่เป็น พระสร้างแจก กับ พระสร้างบรรจุกรุ
แต่มีเสียงค้านของนักนิยมพระเครื่องว่าอาจเป็นพระที่ “หลวงตาจัน” พระลูกวัดชาวเขมรสร้างไว้ ทำให้ความนิยมในการเรียกขานพระสกุลนี้ เป็นเพียง “พระวัดพลับ” มาตั้งแต่ค้นพบถึงปัจจุบัน แม้จะมีน้ำหนักความเชื่อไปทางเป็น พระ ที่ สมเด็จสร้าง แต่ก็นิยมใช้นามตามโบราณ เป็น “พระวัดพลับ” เพราะปัจจุบันคนให้ความสำคัญกับเรื่องผู้สร้างน้อยลง ขอเพียงเป็นพระแท้ ดูง่าย พิมพ์นิยมแถวหน้า สภาพสมบูรณ์องค์งามๆ เดิมๆ อย่างองค์นี้ราคาก็ไปยืนที่หลักแสนกลางถึงปลาย ใกล้ล้านเต็มทีแล้ว
รายการที่สามคือ เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ตัดชิดเล็ก เนื้อฝาบาตร พระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข เกสโร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท พระพิมพ์เนื้อโลหะเทหล่อโบราณ รูปทรงสี่เหลี่ยม “ชิ้นฟัก” ขนาดเล็กเป็นเอกลักษณ์
ด้านหน้าเป็นพิมพ์องค์พระนั่งปางสมาธิเหนือฐานสูง พุทธศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์ ฝีมือช่าง “ชั้นครู” ด้านหลังเรียบ มักมีลาย มือจารอักขระยันต์กำกับ มีรายละเอียดแตกต่างในพิมพ์พระ แยกได้เป็นพิมพ์นิยมมาตรฐาน อาทิ พิมพ์ข้างรัศมี ข้างอุณาโลม และพิมพ์ตัดชิดใหญ่-เล็ก มีพบทั้งเนื้อชินตะกั่ว เนื้อทองแดง เนื้อโลหะผสม ฝาบาตร อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยจั้ม สิงห์บุรี ซึ่งพบน้อยมาก หายากสุดๆ สภาพสมบูรณ์สวยแชมป์ มีคราบไคลสนิมโลหะ บอกอายุความเก่าเดิมๆ แบบนี้ราคาหลักล้านต้นถึงกลางแล้ว
...
ถัดไปเป็น รูปเหมือนปั๊ม หลังเตารีดเข่ากว้าง หลังเต็ม เนื้อทองระฆังฯ เสาร์ ๕ พ.ศ.๒๕๑๖ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ อมตะพระเกจิฯผู้ได้ชื่อว่ามีวิชาอาคมเข้มขลัง เป็นที่พึ่งพาของสาธุชน ต่อจาก “หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ” ตลอดอายุท่านสร้างพระเครื่องของขลังออกตามวาระสำคัญมากมาย หลายรุ่น ล้วนมีชื่อเสียงได้รับความนิยมสูงสุดแห่งยุค ๑ ในนั้นเป็นรูปเหมือนปั๊ม หลังเตารีดเข่ากว้าง หลังเต็มเนื้อทองระฆังฯ พิธีเสาร์ ๕ ที่สร้างออกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๖ เป็นพระเครื่องรุ่นดังสร้างชื่อ ได้รับความนิยมสูงต่อเนื่องถึงปัจจุบัน เหรียญสภาพแชมป์สมบูรณ์สวยกริ๊บเดิมๆ แบบเหรียญนี้ ของ “ผู้พันกัณ” น.ท.กัณฑภณ ศุกระรงคะ รน. ราคาอยู่ที่หลักแสนปลาย ขึ้นหลักล้านได้
...
อีกสำนักเป็น เหรียญเสมา ๘ รอบ พ.ศ. ๒๕๑๘ โค้ดนะ เนื้อทองแดง พระครูภาวนาภิรัต (หลวงปู่ทิม อิสริโก) วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง อมตะพระเกจิฯเมืองระยอง สมัยท่านมีชีวิตอยู่มีชื่อเสียงเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาอาคมเข้มขลัง เป็นที่เคารพศรัทธา สาธุชนทั่วสารทิศจึงเดินทางไปนมัสการ ทำบุญบูชาพระเครื่องวัตถุมงคลที่ท่านสร้างถึงวัดทุกวัน โดยเฉพาะรุ่นที่สร้างระยะแรกๆ อย่างเหรียญนี้ ของ เสี่ยบอมเบย์ สุพรรณ สร้างออกเป็นที่ระลึก ในวาระอายุครบ ๘ รอบ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘ เนื้อทองแดง ที่มีประสบการณ์แคล้วคลาดถึงคงกระพันชาตรีสูง เป็นเหรียญดังสร้างชื่อ ที่ปัจจุบันมีราคาสูงถึงหลักแสน
...
วันนี้ สนามพระของเรามีเหรียญมายึดไปเกือบหมด เพราะอีกรายการคือ เหรียญเหนือดวง ๒ นำฤกษ์ เนื้อเงิน หมายเลข ๑ หลวงปู่เจ้าคุณศิลา สิริจันโท วัดพระธาตุหมื่นหิน อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเพลานี้เป็นเหรียญพระเกจิฯยอดนิยมดังสุด ๑ เดียวแห่งยุค ที่สาธุชนต้องการทั้งแผ่นดิน แต่มีผู้ได้เป็นเจ้าของเพียง ๑ เดียว คือ “เสี่ยเพชร” อิทธิ ชวลิตธำรง นักนิยมสะสมพระเครื่องคนดัง ที่ระยะนี้เพลาๆการแสวงหาพระหลักยอดนิยมองค์แชมป์ๆที่ชอบมาก มาเล่น พระใหม่ ที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยมสูงสุดแห่งยุค ตามเทรนด์แบบคนมีวิสัยทัศน์ เลือกเล่นเฉพาะรุ่นที่มีประวัติการสร้างชัดเจน ในวาระสำคัญที่เห็นอนาคตชัดแจ่ม แบบเล่นเผื่อลูกหลาน อย่าง เหรียญเหนือดวง รุ่น ๒ ชุดนำฤกษ์ เนื้อเงินหมายเลข ๑ มีโค้ดพร้อมลายมือจารอักขระกำกับ เหรียญนี้ที่ฟังว่าได้มาเป็นชุดครบเนื้อ ในราคาหลักล้านปลายๆ โอ้มายก้อด
อีกสำนักเป็นเครื่องรางของขลังของ พระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม พุทธสโร) วัดหนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ คือ สิงห์ ๓ ขวัญ งาแกะรูปหัวใจ ท่านเป็นอมตะพระเกจิฯที่คนยกย่องเป็น “เทพเจ้าของชาวเมืองปากน้ำโพ” เพราะสมัยท่านมีชีวิตอยู่มีเมตตา ใช้วิชาพุทธาคมช่วยเหลือสาธุชนให้พ้นทุกข์ พ้นภัย พ้นความลำบากยากแค้นแบบไม่เลือกชั้นวรรณะ และสร้างวัดบูรณะพระอารามด้วยรายได้จากการสร้างพระเครื่องของขลังออกให้ทำบุญบูชา ซึ่งทุกรุ่น ทุกชนิด มีชื่อเสียง ได้รับความนิยมสูง เพราะมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตา มหานิยม มหาอำนาจ โชคลาภ อย่างสูง
เช่น รูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก เหรียญรุ่นแรก มีดหมอเทพศาสตรา ผ้ายันต์รอยมือ-รอยเท้า ตะกรุด และงาแกะรูปแบบต่างๆ อย่าง สิงห์ ๓ ขวัญ ของ เสี่ยเต้ พระประทาน ที่แกะอยู่ในฟอร์มทรงรูปหัวใจ ฝีมือช่างชั้นเยี่ยม ที่มีสร้างน้อย หาพบยากมากๆ ปัจจุบันสภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ แบบนี้ อยู่ที่หลักแสนแน่นอน
รายการสุดท้ายคือ รูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๖๖ ผูกพัทธสีมา พระครูวินัยธรอนุวัตร วัดเหนือ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ พระเกจิฯพุทธาคมเข้มขลังยุคปัจจุบัน เพราะเป็นพระผู้มีปฏิปทาวัตรปฏิบัติเป็น “พระแท้” เป็นศิษย์ผู้รับสืบทอดตำราเรียนวิชาสายพระอาจารย์ใหญ่เมืองนครสวรรค์ อาทิ หลวงปู่เทศ วัดสระทะเล หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่อบุญมี วัดวาปีรัตนาราม หลวงพ่อสนม วัดพระปรางค์เหลือง หลวงปู่พัฒน์ วัดธารทหาร หลวงพ่อกำจัด วัดป่าสัก ฯลฯ ด้านปริยัติธรรมก็สอบได้เปรียญ ๔ ประโยค เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๓ เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดวังตะเคียนทอง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๑ เป็น เจ้าคณะตำบลวังพิกุล พ.ศ.๒๕๖๕ มีสาธุชนเคารพศรัทธาทั่วสารทิศมาเป็นศิษย์ นิยมเรียกท่านว่า “พระอาจารย์มหาอมรเมโธ” ท่านสร้างวัตถุมงคลออกตามวาระสำคัญ ก็ไม่เคยพอกับความต้องการ ทั้งเหรียญเสมารุ่นแรก รูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก รูปเหมือนหล่อโบราณ เหรียญรูปไข่หลังยันต์ช้าง รูปหล่อฤๅษี เพชรฉลูกัณฑ์ หุ่นพยนต์ (อ.ลอย) ล้วนได้รับความนิยมสูง
อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยเต้ วรชัย เป็น รูปหล่อปั๊ม รุ่นแรก สร้างออกงานผูกพัทธสีมา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๖ มีเนื้อเงิน ๑๐๐ องค์ เนื้อทองแดง ๒,๐๐๐ องค์ กำลังเป็นที่นิยมของนักนิยมพระเครื่องผู้มองการณ์ไกล
มาถึงเรื่องปิดท้าย สไตล์สนามพระวิภาวดี ที่มีเรื่องมาเล่าให้ยิ้มกันได้เรื่อยๆ คราวนี้เกิดในร้านอาหารริมหาดเมืองชลฯ ซึ่งมีลูกค้าแน่นร้านทุกวัน หนึ่งในนั้นเป็นชาวต่างชาติขาประจำ ซึ่งมีครอบครัวอยู่เมืองไทย เจ้าของร้านก็ไปนั่งคุยอย่างคุ้นเคย ตอนหนึ่งฝรั่งถามว่า มีเคล็ดลับอะไรในการทำธุรกิจร้านอาหารให้สำเร็จ มีลูกค้าเต็มร้านทุกวัน เจ้าของร้านตอบว่า คงบรรยากาศร้านดี ทำอาหารอร่อย คุณฝรั่งถามต่อว่า ร้านอื่นก็ทำอาหารอร่อย บรรยากาศก็ดี ไม่เห็นมีลูกค้ามากอย่างร้านนี้ มีเคล็ดลับอะไรปิดบังไหม เจ้าของร้านก็เลยหันหน้าไปทางหิ้งพระประจำร้าน ยกมือพนมบอกว่า งั้นคงเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปพระเกจิฯ เมตตาช่วยเรียกลูกค้าให้มั้ง แต่ฝรั่งช่างสงสัยก็ยังถามอีกว่า พระมีความศักดิ์สิทธิ์ ช่วยเรียกลูกค้าได้จริงๆเหรอ คราวนี้เจ้าของร้านคิดว่าขืนตอบคงยาวไม่จบแน่ จึงตอบส่งๆว่า น่าจะมีจริง แต่ถ้าไม่เชื่อยูก็ต้องไปบวช หาพระอาจารย์เรียนวิชา จะได้รู้จริงๆ ว่าพระศักดิ์สิทธิ์ ฝรั่งช่างซัก จึงบอก OK--ลูกค้าที่นั่งฟังจึงคุยกันว่า ฝรั่งกลัวเมียไทย จะได้บวชไหม เพราะต้องขออนุมัติเมียก่อน และคำพูดเมียย่อมศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์เหนืออื่นใด เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง
คลิกอ่านคอลัมน์ “สนามพระ” เพิ่มเติม