เข้าสนามพระวันนี้ ก็เห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่หน้าตาแช่มชื่นขึ้น และพูดเหมือนๆกันว่า พอได้ นายกรัฐมนตรี แล้วจะได้เดินหน้าทำงานกันเสียที เพราะรอเงกมาสามเดือนจนหลายอย่างติดขัดชะงักไปไม่เป็น
ส่วน ครม.ชุดนายกฯเศรษฐา ที่คาดว่าจะตั้งได้ไม่เกินเดือนหน้าจะทำงานดีไม่ดียังไง ก็อีกเรื่องนึง ขอให้มีตัวก่อนเถอะ เพราะยังมี ก้าวไกล ที่ทุกคนเชื่อว่าจะสกัดความไม่ถูกต้อง ตามจิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ปล่อยให้ทำง่ายๆ งาบเงิบๆ โดยมีประชาชนทั้งประเทศ (รวมทั้ง สีกาอ่าง) เป็นแนวร่วม เพราะทุกคนก็อยากกำจัดการคอร์รัปชัน การเอาเปรียบทั้งนั้น
- เข้าตลาดพระเครื่อง เรื่องสบายใจกันต่อ รายการแรกคือ พระสมเด็จ (สองคลอง) พิมพ์ใหญ่ กรุวัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ของ เสี่ยภโวทัย ศุภวิรัชบัญชา พระสมเด็จ “สองคลอง” หมายถึง พระสมเด็จพิมพ์วัดระฆังฯ เนื้อวัดระฆังฯ แต่ค้นพบอยู่รวมกับ พระสมเด็จบางขุนพรหม พระสมเด็จเกศไชโย และอื่นๆ ในกรุองค์พระเจดีย์วัดใหม่ อมตรสตอนเปิดกรุเป็นทางการ พ.ศ.๒๕๐๐ เข้าใจกันว่าเป็นพระที่ สมเด็จโตฯ นำองค์พระที่ท่านสร้างสำเร็จจากวัดระฆังฯ มาร่วมบรรจุเป็นการนำฤกษ์ ในคราวรับนิมนต์นาย “เสมียนตราด้วง” เป็นประธาน สร้างพระพิมพ์สมเด็จ บรรจุองค์พระเจดีย์ สืบอายุพระพุทธ ศาสนา....
...
ซึ่งเมื่อรับนิมนต์ท่านได้มอบ แม่พิมพ์พระสมเด็จ และเนื้อมวลสาร ผงพุทธคุณ ๕ ประการ ให้มาสำหรับสร้างพระ และวันเดินทางไปเป็นประธานในพิธีบรรจุพระพิมพ์ในองค์พระเจดีย์ซึ่งท่านคงได้นำ พระสมเด็จวัดระฆังฯ มาบรรจุไว้ด้วย เปรียบได้เป็น “ลายเซ็น” กำกับไว้ในพิธี พอเปิดกรุจึงได้พบมีพระนี้ขึ้นจากกรุ นิยมเรียกเป็น “พระสองคลอง” แต่หมายถึง พระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์วัดระฆังฯ เนื้อวัดระฆังฯ ซึ่งมีสภาพคราบกรุอย่าง พระสมเด็จบางขุนพรหม จับแน่นเข้าผิวเนื้อ เป็นหลักฐานชัดเจนว่าสมเด็จฯโต ท่านได้นำพระมาบรรจุไว้จริง แต่ก็มีจำนวนน้อยนับองค์ได้ องค์นี้เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น และเป็นองค์ที่วงการยอมรับเป็น “พระสองคลอง” องค์แรกๆ ซึ่งสายตรง “พระสมเด็จ” เสียดายกันมากว่า ถ้าพระองค์นี้ไม่มีคราบกรุที่มีเหลือให้เห็นอย่างบางเบา ก็จะเป็น พระวัดระฆังฯ ฝั่งเดียว เพียวๆ และต้องได้เป็น ๑ ใน ๑๐ พระสมเด็จวัดระฆังฯ องค์งามสุด ของแผ่นดินแน่นอน--แต่เป็น พระสองคลอง ที่งามสุดๆ ก็ไม่ด้อยกว่านัก
- องค์ต่อมาเป็น พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เกศบัวตูม วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ องค์นี้เป็นอีกพิมพ์ของพระสมเด็จบางขุนพรหม ที่มีเหมือน “วัดระฆังฯ” แต่พิมพ์ทรง องค์พระ มีความแตกต่างกันชัดเจน ที่ขนาดองค์ย่อมกว่า เส้นศิลป์บางกว่า เนื้อมวลสารที่เป็นเนื้อแก่ปูน มวลสารน้อย เป็นเอกลักษณ์พระกรุองค์พระเจดีย์วัดใหม่อมตรสฝั่งเดียว พิมพ์พระ คล้ายๆของวัดระฆังฯ แต่มีความแตกต่าง ดูรู้ไม่ยาก เนื้อพระแก่ปูนเปลือกหอย ผสมมวลสารบางเบา ต่างกับเนื้อพระวัดระฆังฯชัดเจน ซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็น ๑ ใน ๓ “พระสมเด็จ” ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต....
องค์นี้ ของ เสี่ยโจ๊ก ลำพูน เป็นพิมพ์ที่มีน้อย หาพบยาก โดยเฉพาะองค์สภาพสมบูรณ์ สวยเดิมๆแบบนี้ ที่ปัจจุบัน พอ พระพิมพ์เกศบัวตูม วัดระฆังฯ ที่อดีตก็เจอน้อยกว่าน้อยอยู่แล้ว จนเกือบกลายเป็นพิมพ์พระในตำนาน จึงทำให้ พระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์นี้ มีราคาสูงขึ้นเป็นทวีคูณ
- ถัดไปเป็น พระรอด พิมพ์เล็ก กรุวัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ แท้ ดูง่าย ของ เสี่ยศุภชัย สายัณห์ ซึ่งเป็นพระดีมีคุณภาพ ที่ซื้อง่าย ขายคล่อง
...
- ต่อด้วย เหรียญจตุรพิธพรชัย เนื้อเงิน พ.ศ.๒๕๑๘ พระพุทธรักขิต (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลยก์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ๑ ในเหรียญยอดนิยมพระเกจิฯแถวหน้าของเมืองสุพรณฯ ที่มีพบสร้างไว้เพียง ๑๒ เหรียญ และเหรียญนี้ของ เสี่ยบอมบ์ สุพรรณ เป็น ๑ ใน ๓ เหรียญที่มีพบเป็น ลายมือหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ลงเหล็กจารอักขระลายมือกำกับไว้--สภาพงามสมบูรณ์เต็มๆแบบนี้ ราคาสูงถึงหลักแสน
- ส่วน เหรียญแซยิด เนื้อทองคำ พระนันทวิริยาภรณ์ (เจ้าคุณอ่าง สิริจันโท) วัดใหญ่สว่างอารมณ์ อ.ปากเกร็ด นนทบุรี ของ ศิวกร อนันต์ศิริขจร ท่านมีวิชาอาคมเข้มขลัง เป็นหมายเลข ๑ ในภาคกลางยุคปัจจุบัน ที่พระเกจิฯร่วมยุคยกย่องว่าเปรียบได้กับตำราวิชาอาคมเล่มใหญ่ เพราะได้รับสรรพวิชาจาก หลวงพ่อกุหลาบ เช่น ตำราการทำผงพุทธคุณ ตะกรุด ผ้ายันต์ ตำรับหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ซึ่ง หลวงพ่อกุหลาบ ได้รับมาจาก หลวงปู่กลิ่น ท่านได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิฯผู้มีครูดีที่สุด เพราะได้สืบทอดตำรา สร้างหนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน และเรียนวิชากับ หลวงพ่อต่วน วัดละหาร หลวงพ่อช่วง วัดบางแพรกใต้ ฯลฯ เป็นศิษย์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงคาราม รับหน้าที่ลงเหล็กจารลายมืออักขระเลขยันต์หลังพระปรกใบมะขาม และยังเป็นศิษย์ พระอาจารย์กราน วัดห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี ได้วิชาลงอักขระเลขยันต์ ปลัดขิก กับ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง เรียน วิชาเสือสมิง กับ หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส....
...
นอกนั้น ยังเรียนกับ หลวงปู่เหรียญ วัดบางระหงษ์ หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ จ.ชัยนาท สายหลวงปู่ศุข ส่วนด้านปริยัติธรรม ก็สอบได้ถึง ปธ.๓ และยังได้รับวิชาแพทย์แผนโบราณจาก อ.รอด ดาบยาว ฆราวาสจอมขมังเวทในยุค และรับมอบตำรา มีดหมอ ไม้เท้า เหล็กจาร ของ หลวงพ่อสุ่น ด้วย ท่านได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ แต่ศิษย์เรียกติดปากว่า “เจ้าคุณอ่าง” ตลอดอายุท่านได้จัดสร้างพระเครื่องของขลังในวาระสำคัญตามตำรับวิชาที่ท่านเรียนสำเร็จ ได้รับความนิยมเป็นวัตถุมงคลพระเกจิฯยอดนิยมเบอร์ต้น ล่าสุดสร้าง เหรียญปั๊ม รูปเหมือน รุ่น “เจริญสุข” ในวาระงานบุญฉลองอายุวัฒนะมงคล ๖ รอบเนื้อทองคำ เนื้อเงิน นวโลหะ ทองแดงรมดำ ซึ่งมีผู้สั่งจองทุกเนื้อหมดก่อนทำเสร็จ....
...
- ถัดไปไม่ค่อยเห็นเป็น ล็อกเกตสี่เหลี่ยมฉากขาว พ.ศ.๒๕๒๑ หลังอุดผงใบ ลานตอกโค้ด ประทับยันต์ตรีนิสิงเห หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ หายากมากเพราะเป็นล็อกเกตรูปถ่ายรุ่นแรก ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ชิ้นนี้ ของ เสี่ยมาร์ค ดอนเมือง
- ตามมาด้วย พระขุนแผนกุมารทอง (นอนโลง) รุ่น ๒ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม พระพิมพ์เนื้อดินเผา ที่สร้างชื่อเสียง หลวงพ่อเต๋ ด้วยอานุภาพอิทธิฤทธิ์ ด้านคุ้มครองป้องกันภัย เตือนให้แคล้วคลาดจากภัยก่อนถึงตัว ด้านเมตตามหาลาภ มหาเสน่ห์ ก็โดดเด่นแบบว่าจีบเป็นจบ แค่สบตาก็คร่ำครวญหาเช้าเย็น เชื่อว่าเป็นอานุภาพของดินโป่ง ๗ ป่า กับดิน ๗ ป่าช้า ที่หลวงพ่อนำมาผสมมวลสาร ทรงคุณตามตำรับวิชา สร้างเป็นองค์พระพิมพ์ขุนแผน แบบองค์นี้ ของ เสี่ยอัครวินท์ ภู่ธีรอาภา ที่สร้างขึ้นเป็นรุ่น ๒ ปัจจุบันราคาหลักหมื่นปลายขึ้นหลักแสน สำหรับแชมป์แบบนี้
- สุดท้ายเป็น พระใหม่ แต่ไม่มีให้เช่า เพราะมีไว้แจกตำรวจ เป็นขวัญกำลังใจ คือ เหรียญนาคปรก หลวงปู่แผ้ว รุ่น จเรตำรวจแห่งชาติ ที่ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้รับอนุญาตจากหลวงปู่ ซึ่งเกิด พ.ศ.๒๔๖๖ จัดสร้างเมื่อ พ.ค.๒๕๖๕ ตอนนั้นวงการพระก็ขานรับเกรียว เพราะ หลวงปู่แผ้ว ปวโร (พระราชมงคลวชิราคม) เจ้าอาวาสวัดประชาราษฎร์บำรุง (วัดรางหมัน) เป็นพระเกจิฯที่มีพุทธาคมแก่กล้า จนได้รับยกย่องเป็น เทพเจ้าแห่งกำแพงแสน ท่านบวชเมื่ออายุ ๓๐ ศึกษาทั้งปริยัติธรรมและอาคม เมตตา ช่วย เหลือทุกคนจนเป็นที่เคารพของศิษยานุศิษย์ทั้งประเทศ วัตถุมงคลที่ท่านสร้าง เสก จึงได้รับความศรัทธาอย่างสูง....
เหรียญนาคปรก หลวงปู่แผ้ว จัดสร้างสวย หาไม่ได้ง่าย ส่วนใหญ่แจกตำรวจ จะมีก็เพื่อนชมรมพระเครื่อง วปอ.๕๓ ที่มี เจ้าสัวสุรินทร์ โกรพินธานนท์ เป็นโต้โผ นัดดูพระแจกพระกันประจำ เพราะปลอดภัยกว่าเอาสีกาหน้าตาดีไปแจก ล่าสุดข้าราชการ เจ้าหน้าที่ขององค์การสวนยาง ภาคอีสาน ก็ดีอกดีใจ เพราะได้รับ เหรียญหลวงปู่แผ้ว รุ่นนี้ ซึ่ง บิ๊กหิน–วิสนุ มอบให้น้องชาย สีกาอ่าง คือ ผอ.โอ่ง–ชนุมชัย โกศลกุล ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย นครราชสีมา ไปแจกในงานวันเลี้ยงครบเกษียณของหน่วยงาน ซึ่งจัดที่สวนสัตว์นครราชสีมา และที่กำลังชะเง้อคอรอแจก คือ เหรียญรูปเหมือน รุ่นอายุยืน ที่ จเรหิน เพิ่งไปจัดสร้างเมื่อเดือน มิ.ย. ในโอกาสที่ปีนี้หลวงปู่มีอายุ ๑๐๑ ปี ซึ่งท่านเมตตาเสกให้เอง มาถึงเรื่องปิดท้าย ที่เกิดขึ้นในร้านกาแฟบ้านน้ำมนต์ ของ เสี่ยเต่า เจ้าของร้านเต่าพระเครื่อง บนศูนย์พระพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน....
ซึ่งมีสมาชิกนักนิยมพระน้อยใหญ่เป็นขาประจำ ๗-๘ คน ไปชุมนุมคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ในวงการพระ และส่องพระ ตรวจสอบแลกเปลี่ยนความรู้กัน อาทิตย์ก่อน ซึ่งเป็นวันหยุดยาว ขาประจำทุกคนมาพร้อมหน้าสนทนากันเพลิน พอใกล้ค่ำ เสี่ยเต่า เจ้าที่นึกได้ว่ามีขาประจำรุ่นหนุ่มคนหนึ่งยังไม่มาจึงโทรศัพท์ตามตัว ก็ได้ยินเสียงตอบว่ายังอยู่ที่ร้านในศูนย์อยู่เลย เสี่ยเต่า หันไปมองฟ้าเห็นมืดแล้วก็ถามว่า มืดแล้วยังมีลูกค้าเอาพระมาให้ดูอีกหรือ ระวังนะดูพระมืดๆ จะพลาดได้ ก็มีเสียงตอบอึกอักอย่างมีพิรุธว่า ผมไม่ได้อยู่ดูพระที่ร้านแล้วครับ แล้วสารภาพว่า เห็นเด็กเสิร์ฟมาใหม่ในร้านกาแฟหน้าตาสวยดี เลยไปส่องนางซะหน่อย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง