พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่องค์ “โรงเหล็ก” สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ ของเสี่ยประเสริฐ เจ้าของโรงเหล็ก ย่านสุขาภิบาล.
เริ่มเข้าสู่ซัมเมอร์กันแล้ว ซึ่งปีนี้มาทั้งความร้อนและฝุ่น PM ๒.๕ ขอให้ท่านผู้ชมที่อยู่กรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆระวังเวลาออกไปกลาง แจ้งควรใส่หน้ากากแบบกันทั้งเชื้อ Covid และ PM
เข้าไปสนามไปดูพระเครื่องคลายร้อนตามที่แฟนคลับขอดูพระงามๆที่หายไปนาน องค์แรก พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ ที่ได้ฉายาว่า องค์โรงเหล็ก เพราะเจ้าของคือ เสี่ยประเสริฐ เจ้าของโรงเหล็ก ย่านสุขาภิบาล กรุงเทพฯ
ชื่อนี้ก็เป็นนักนิยมสะสมพระเครื่องตัวจริง แต่เก็บ ตัวเงียบ จนได้เห็นพระที่บอกถึงรสนิยมและวิสัยทัศน์ จึงสะสม พระเครื่องชั้นยอด องค์เยี่ยม มีชื่อเสียง พระดีมีอนาคต องค์แชมป์ “องค์ครู” ที่มักอยู่กับ “รังใหญ่” หมดแล้ว--ดังนั้น กว่าจะได้แต่ละองค์จึงต้องใช้เวลาติดตาม รอนานม้ากกว่าจะได้ และแน่นอนราคาก็สูงสนั่นลั่นวงการ
องค์นี้มีตำนานว่า เดิมเป็นพระของเจ้าสัวปากน้ำโพ นิยม อสุนี ณ อยุธยา นักนิยมพระเครื่องคนดังระดับตำนานวงการพระ ซึ่งเป็นนักสะสมแถวหน้าสุดแห่งยุค จนที่บ้านต้องทำ ห้องนิรภัยเก็บ เพราะแค่ตู้นิรภัย ไม่พอใส่พระงามๆ
รวมทั้งพระสมเด็จองค์นี้ ที่ร่ำลือว่ามีความงามอลังการ ลงรักน้ำเกลี้ยง ปิดทองงดงาม ทำให้พิมพ์องค์พระที่สมบูรณ์คมชัดทุกอณู ยิ่งดูโดดเด่นเหมือนมีรัศมี
เนื้อพระละเอียด นุ่มหนึกแน่น มวลสารครบสูตร ด้านหลังปาดเรียบ มีรอยปริ รอยปูไต่ เม็ดมวลสาร ก้อนขาว เกล็ดแดง ก้านดำ มีให้พิจารณา “ครบเครื่อง” จนบอกกันว่าหาองค์สู้เทียบชั้นได้ยาก
จึงเข้าทาง เสี่ยประเสริฐ ซึ่งตาถึง ใจถึง เงินถึง จึงบุกไปเจรจาถึงบ้านในเมืองนครสวรรค์จนจบด้วยราคาเงินสด ๑๔ ล้าน จากนั้นก็นำพระกลับไปจำวัด จำศีล นิ่งสนิทอยู่ในครอบครอง
...
และตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๐ ถึงปีนี้ พ.ศ.๒๕๖๖ มีเศรษฐีและเซียนใหญ่ไปเจรจาสู่ขอตลอดๆ ให้ราคาสูงขึ้นเป็นลำดับ ล่าสุดได้ยินว่ามีผู้เสนอถึง ๔๐ ล้าน--แต่ “เสี่ยเสริฐ” ยังไม่รับนิมนต์
ตามที่เคยบอกว่าปีนี้จะ ลดเพดาน ลงมา พาดู พระดี ราคาเบาะๆ กันมั่ง ก็ขอเชิญชมองค์ที่สอง เป็น พระระฆังหลังฆ้อน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ม.ร.ว.เจริญ อิศรางกูร) แห่งสำนักวัดระฆังฯ กรุงเทพฯ
ท่านเกิดในรัชสมัย ร.๔ พออายุ ๗ ปี บิดานำไปถวายตัวเป็นศิษย์ พระสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัต) สมัยเป็นพระมหาเปรียญ ที่วัดระฆังฯ
ท่านได้เรียนพระปริยัติธรรมกับพระอาจารย์หลายรูป รวมถึง ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และ สมเด็จพระวันรัต (แดง) วัดสุทัศน์
ท่านบรรพชาเป็นสามเณร และเมื่ออายุครบบวช ร.๔ ทรงรับเป็นนาคหลวง บวชให้ ณ วัดพระศรีรัตน ศาสดาราม ท่านแตกฉานพระปริยัติธรรม สอบได้เปรียญ ๕ ประโยค
จึงได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เรื่อยๆ จน พ.ศ.๒๔๖๕ เป็นชั้นสมเด็จ ที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าอาวาสวัดระฆังฯ
ช่วงปลายอายุ ท่านได้สร้างพระสืบทอดวิชาพระอาจารย์ โดยส่งแผ่นโลหะไปให้พระเถระ พระเกจิฯ ผู้มีชื่อเสียงลงจารอักขระเลขยันต์พระคาถา เสกกำกับ ส่งกลับมาเข้าพิธีเททองหล่อสร้าง พระสมเด็จปรกโพธิ์ ด้วย เนื้อโลหะผสม เป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งปางสมาธิเหนือฐานบัว รอบพระเศียรเป็นตุ่มซุ้มปรกโพธิ์
ประกอบพิธี ๒ วาระ ครั้งแรก ที่พระอุโบสถ เป็นพระสีเข้ม ครั้งที่ ๒ ที่กุฏิ หอพระกลางน้ำ ริมเจ้าพระยา เนื้อพระสีอ่อนกว่า และมีขี้เบ้าจับแน่นในซอกส่วนลึก เพราะเป็นพระเทหล่อเป็นแผง มีก้านช่อติดกัน
พระทุกองค์จึงมีรอยตัดช่อแต่งตะไบและ รอยค้อนทุบ เป็นที่มาของชื่อ พระระฆังหลังฆ้อน ได้รับความนิยมสูง เป็น ๑ ในพระเครื่องสกุลวัดระฆังฯที่สร้างไว้โดยพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ระดับ “สมเด็จ”
ปัจจุบันทั้งสองรุ่นได้รับความนิยมเหมือนกัน พระแท้ดูง่าย สภาพสมบูรณ์สวยเดิม อย่างองค์นี้ราคาอยู่ที่หลักหมื่นต้น-กลาง มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ด้านคุ้มครองป้องกันภัย เป็นพระดี พระดัง สำนักวัดระฆังฯ ราคาเบา
...
ลำดับสาม คือ เหรียญ ๒๕ พุทธศตวรรษ พ.ศ.๒๕๐๐ เนื้อทองคำ ซึ่งรัฐบาลไทยสมัยนายกฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม มอบหมายให้ พุทธสมาคม ดำเนินการจัดสร้าง เป็นที่ระลึกในปีกึ่งพุทธกาล ประกอบพิธี ณ มณฑลพิธีท้องสนาม หลวง
จัดเป็นพิธีจัดสร้างพระใหญ่ระดับประเทศที่ยังไม่มีพิธีไหนจัดได้อลังการตูม ตามเท่า เพราะนิมนต์พระเกจิฯทั่วประเทศ เดินทางมาทั้งทางรถ ทางเรือ ทางอากาศเข้าร่วมพิธี
มีทั้ง พระพุทธรูปบูชา พระเนื้อผง เหรียญปั๊ม ฯลฯ รูปแบบเป็นองค์จำลอง หลวงพ่อพระศรีศากยะทศพลญาณ องค์พระประธานพุทธมณฑลเนื้อเหรียญมี ทองคำ นาก เงิน ดีบุก
เสกแล้วออกให้สาธุชนร่วมทำบุญบูชา ซึ่งเพราะเป็น พระดี พิธีหลวง คนไทยจึงมีศรัทธาไปบูชากันพรึ่บ กล่าวกันว่าในยุคนั้นแทบทุกบ้านต้องมีพระดีพิธีสำคัญนี้ จึงหาดูได้ง่ายๆ
ต่างจากปัจจุบันที่เริ่มจะได้รับความนิยม เป็นพระหายาก ถึงยากมาก สำหรับเนื้อพิเศษ ทองคำ นาก เงิน ที่มีจำนวนสร้างน้อย อย่างเหรียญนี้ ของ เสี่ยแม็ก ช้าง เผือก ที่เป็น เนื้อทองคำ สภาพสมบูรณ์สวยเดิมแบบนี้ ราคาหลักล้านมานานแล้ว
...
ตามมาด้วย เหรียญธงชาติ เนื้อเงินลงยา หลวงพ่อเดิม พุทธสโร วัดหนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ๑ ในเหรียญรุ่นที่ได้รับความนิยมสูง หายากมากๆ โดยเฉพาะเหรียญสภาพสมบูรณ์ ลงยาสีธงชาติยังเดิมๆอยู่เต็ม อย่างเหรียญนี้ของ เสี่ยโอลาฟ กิตติศิริสวัสดิ์ ที่ราคากลางอยู่ที่หลักแสนกลาง
อีกสำนักเป็น เหรียญรุ่นแรก พ.ศ. ๒๕๑๔ เนื้อทองแดง กะไหล่ทองพระครูเนกขัม มาภินันท์ (หลวงพ่อวัดดอนตัน) อ.ท่าวังผา จ.น่าน เหรียญพระเกจิฯ ยอดนิยมอันดับ ๑ ของเมืองน่าน สร้างเป็นเหรียญที่ระลึกคราวหลวงพ่อได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่ พระครูเนกขัมมาภินันท์
สร้างแบบ เหรียญปั๊ม หูในตัว รูปทรงพัดยศ ด้านหน้ากลางเหรียญในวงกลม เป็นรูปจำลององค์ท่าน ด้านหลังเป็นรูปแบบยันต์ ๔ อักขระขอมล้านนา เนื้อเหรียญเป็น ทองแดงกะไหล่ทอง
...
เหรียญนี้ ของ หงษ์หยก ชญาพัฒน์ เป็นเหรียญแชมป์องค์จริงที่มีความสมบูรณ์สวยระยับ จับตา เพราะความคมชัดของแม่พิมพ์กับกะไหล่ทองเดิมๆแบบเต็มร้อย ที่ยังหาเหรียญเทียบเคียงไม่เจอ
อีกเหรียญเป็น เหรียญหน้าวัว รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๑๓ หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
ย้อนเวลาหาอดีตสมัย หลวงปู่แหวน มีชีวิต ท่านได้รับความเคารพนับถือศรัทธายกย่องจากสาธุชนว่าเป็น พระอร หันต์แห่งเมืองเหนือ ด้วยวัตร ปฏิบัติที่เคร่งครัดเป็น “พระแท้” มีชื่อเสียงสูงสุดในบรรดาพระเถระเกจิอาจารย์ในยุคนั้น
เรียกได้ว่าถนนทุกสายมุ่งสู่วัดดอยแม่ปั๋ง เสาะหาพระเครื่องของขลังของท่าน ซึ่งมีคนพบเรื่องราวเล่าลือถึงอิทธิปาฏิหาริย์อัศจรรย์กันทั่วแผ่นดิน
ตลอดอายุท่านอนุญาตให้คณะศิษย์จัดสร้างพระเครื่องวัตถุมงคลไว้หลายแบบ หลายรุ่น ล้วนได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะ เหรียญหน้าวัว แบบนี้ ของ เสี่ยบอย เชียงใหม่ ที่สร้างเป็น เหรียญรุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๓
ปัจจุบันเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมสูง หายากสุด ในสกุลเหรียญหลวงปู่แหวน ซึ่งสภาพสมบูรณ์ สวยแชมป์แบบนี้ ราคาในพื้นที่อยู่ที่หลักหมื่นปลายถึงหลักแสน ถ้าออกนอกพื้นที่ก็เขยิบอีก
ต่อด้วย พระมงคลเกษม ๒ เนื้อผงพุทธคุณ พ.ศ.๒๕๑๗ หลวงพ่อเกษม สำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง พระผู้ได้ชื่อเป็น “พระอริยเจ้าแห่งล้านนา” ด้วยวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด ปฏิบัติมุ่งปรินิพพานขั้นอุกฤษฏ์ ไม่ยึดติดในลาภสักการะ
ท่านจึงสละตำแหน่งเจ้าอาวาสไปสันโดษอยู่ป่าช้า ทำสมาธิภาวนา เล่ากันว่าท่านปฏิบัติอยู่กลางแดดกลางฝน ตลอดฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูฝน อาบน้ำปีละครั้ง ฉันอาหารสามวันมื้อ แต่สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากกลิ่นกาย ผิวพรรณผุดผ่อง มีน้ำมีนวล และได้สร้างพระเครื่องของขลังด้วยพลังจิตอธิษฐาน มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เลื่องลือ
คือ พระมงคลเกษม ๒ ที่สร้างตามแบบ พระมงคลเกษม ๑ ซึ่งออกแบบแม่พิมพ์โดย นายช่างเกษม มงคลเจริญ จำนวน ๔,๙๙๙ องค์ พอออกให้ทำบุญบูชาพระไม่พอต้องจัดทำแบบพิมพ์ จัดสร้างเพิ่มเป็นรุ่น ๒ อีก ๑๐,๐๐๐ องค์ ด้วยมวลสารเดิม เพิ่มเติมข้าวก้นบาตร เส้นเกศา
ทำให้มีจุดพิจารณาเป็นพระเนื้อไม่แน่น ชำรุดหลุดร่วงง่าย แต่ก็มีผู้ทำบุญบูชาจนหมด องค์นี้ของ เสี่ยโหน่ง กาดเมฆ เป็นพระสภาพสมบูรณ์สวยเดิม ราคาอยู่ที่หลักหมื่นกลางถึงปลาย
มาถึงเรื่องปิดท้ายในห้างสรรพสินค้าหรู ริมเจ้าพระยา ซึ่ง เสี่ยหนุ่ม นักนิยมพระเครื่อง เจ้าของธุรกิจรถหรูและแบรนด์เนม นัดพบเพื่อนเจ้าของร้านพระในศูนย์การค้า นั่งส่องพระดีกันอยู่พักใหญ่ก็ชวนกันออกไปเดินเล่น
พอสวนทางกับสาวสวยไซส์เอส ทรงอึ๋ม แต่งตัวเซ็กซี่สะดุดตา เสี่ยหนุ่ม จึงมองเหลียวหลัง จนเพื่อนเซียนพระสะกิดว่า เขาเป็นสาวเป็นนางนายมองตามเหลียวหลังเน้นๆจริงจังแบบนี้เสียมารยาท เดี๋ยวโดนด่าร็อก
เสี่ยหนุ่ม หัวเราะ บอกว่า ด่าก็ยอม แต่ที่จริงเรามอง พระ ที่ห้อยอยู่ตรงหน้าอกนะ และมองแว้บเดียวไม่น่าเกลียด ไม่โดนด่าหรอก
เพื่อนเซียนพระถามว่า มองแว้บเดียว แล้วรู้หรือว่าเป็นพระอะไร เสี่ยหนุ่ม ยิ้มแป้น ตอบมั่นใจว่า รู้เซ่ะ เป็น พระนางพญา อกนูน พิมพ์ใหญ่ เนื้อเนียนเบียดกันแน่น รับรองว่าแท้แน่ ไม่มีศัลยกรรม ไม่เสริมซิลิโคนเลย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง