พระสมเด็จจิตรลดา พ.ศ.๒๕๑๐ ร.๙ ของ ส.ก.กฤษฏ์ คงวุฒิปัญญา.
เข้าสู่ สนามพระวิภาวดี ด้วยคำสอนง่ายๆ ของ หลวงพ่อพุทธทาส ว่า "ถ้าวันนี้ถูกต้อง ก็ไม่ต้องกลัวพรุ่งนี้"--ถูก ก็คือทำสิ่งที่ดีที่ถูกที่ควร ถ้าวันนี้ทำถูกผลวันต่อไปก็ต้องดี เพราะทำดีย่อมได้ดี
พระเครื่ององค์แรกของเดือน ๑๑ คือ พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๖ ชั้น อกตัน วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณรูปทรงสี่เหลี่ยมแบบชิ้นฟัก ที่ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สร้างสำเร็จเป็นองค์พระที่วัดระฆังฯ นำมาบรรจุในองค์พระหลวงพ่อโต พอองค์พระพังทลาย ก็มีองค์พระพิมพ์ที่บรรจุไว้ไหลออกมากองรอบองค์พระ
ชาวบ้านจึงนำติดไม้ติดมือกลับบ้านกันมาก กว่าทางวัดจะทำการบันทึกประวัติ พระก็แทบหมดจากวัดแล้ว เหลือพิมพ์พระที่มีมากให้ทำบันทึกเพียง ๓ แบบคือ ๑.พิมพ์ใหญ่นิยมฐาน ๗ ชั้น ๒.พิมพ์เล็ก ๖ ชั้น อกตัน ๓.พิมพ์เล็ก ๖ ชั้นอกตลอด กับยังมีพระอีกหลายพิมพ์ที่เหลือพบจำนวนน้อย
...
จากคำบอกเล่าและตัวอย่างองค์พระ ที่ชาวบ้านยืนยันว่าได้ไปจากวัดไชโย ยังมีอีกหลายพิมพ์ มีทั้งชนิดฐาน ๓ ชั้น ฐาน ๕ ชั้น ๖ ชั้น แต่จำนวนน้อย ไม่มากพอเป็นหลักฐานให้เชื่อได้ว่าเป็น พระกรุวัดไชโย
องค์ของ เสี่ยแม็ค ช้างเผือก เป็นพระ ๑ ใน ๓ พิมพ์นิยมมาตรฐาน งามสมบูรณ์เดิมๆ เนื้อพระสีขาวนวลแห้งแน่นแกร่ง แบบ “เนื้อกระดูก” เป็นเนื้อนิยมสุด แบบนี้ราคาขึ้นสูงถึงหลักล้านมานานโข
องค์ที่สองเป็น พระรอด พิมพ์ใหญ่ วัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน พระพิมพ์นิยมอันดับ ๑ ในสกุลพระรอด ของ มร.อึ๊ง ก๊อก เส็ง เป็นพระแท้ดูง่าย เด่นที่ฟอร์มองค์ ซึ่งเป็นมาตรฐานนิยมสูงสุด
สองข้างมีปีกเนื้อปลิ้นจากเส้นขอบพิมพ์สองข้างพองาม อย่างพระองค์แชมป์ พิมพ์องค์พระติดชัดลึกเสมอกันแบบ “สุดพิมพ์” ซุ้มใบโพธิ์พลิ้วไหวเป็นธรรมชาติ ตามลักษณะพุทธศิลป์สมัยหริภุญไชย
เนื้อพระละเอียดหนึกนุ่ม แน่นตามตำรา เสียดายตรงพระพักตร์มีเนื้อยุบหายไปนิด ม่ายงั้นจะได้ชื่อเป็น พระแชมป์องค์ครู อีกองค์
องค์ที่สาม เป็น พระพิมพ์ยืนประทานพร กรุเจดีย์เล็ก วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม กรุงเทพฯ พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณ ผสมปูนขาว ค้นพบในกรุพระเจดีย์องค์เล็ก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๖ จากพระเจดีย์บรรจุอัฐิประจำตระกูล ธนโกเศศ ของ นายเสมียนตราด้วง ผู้ดำเนินการสร้างพระกรุสมเด็จบางขุนพรหม บรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์ใหญ่
ตอนแรกเชื่อกันว่าเป็นพระที่ สมเด็จฯโต สร้างบรรจุไว้ พร้อมพระกรุเจดีย์ใหญ่ เพราะเนื้อพระ สภาพคราบกรุและพระบางพิมพ์ อย่างพิมพ์ฐานคู่ มีรูปทรงเส้นศิลป์คล้ายกัน
...
ต่อมามีการพิสูจน์ทราบถึงความแตกต่างของเนื้อมวลสาร และนักนิยมพระเกิดความเห็นว่าน่าจะเป็นพระที่สร้างไว้โดย หลวงปู่ภู หรือเจ้าอาวาสในยุคถัดมา
จนบัดนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่พระกรุนี้ ที่มีพิมพ์นิยมมาตรฐานรวม ๖ พิมพ์ คือ ๑.พิมพ์ฐานคู่ ๒.พิมพ์สามเหลี่ยมหน้าหมอน ๓.พิมพ์ยืนปางประทานพร ๔.พิมพ์องค์พระเจดีย์ ๕.พิมพ์ไสยาสน์ ๖.พิมพ์สมาธิข้างดอกไม้ ก็ได้รับความนิยม เป็นพระราคาหลักแสนมานาน
ยิ่งเป็นพระพิมพ์พิเศษ พบน้อยหายาก สภาพงามเยี่ยม อย่างองค์นี้ของ เสี่ยธีรวิชย์ เวศกิจกุล ราคาสูงขึ้นถึงหลักล้านแล้ว
อีกรายการ เป็น พระสมเด็จจิตรลดา พ.ศ.๒๕๑๐ พระเครื่องฝีพระหัตถ์ ร.๙ เพียงหนึ่งเดียว ที่ทรงจัดสร้างเพื่อพระราชทานข้าราชบริพาร และทหารที่ร่วมรบสงครามเวียดนาม เพื่อเป็นการบำรุง ขวัญ กำลังใจ ในการทำหน้าที่
เริ่มจากออกแบบพิมพ์พระเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ด้านหน้าเป็นองค์จำลององค์หลวงพ่อจิตรลดา นั่งปางสมาธิ เหนือฐานบัวบาน ๙ กลีบ ชั้นบน ๕ กลีบ ชั้นล่าง ๔ กลีบ ด้วยเนื้อผงพุทธคุณ ผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ส่วนพระองค์
และมวลสารสำคัญ ที่กระทรวงมหาดไทยรวบรวมจากทั่วประเทศมาผสมประสานด้วยเนื้อเรซิน กดพิมพ์เป็นองค์พระ ตัดขอบข้าง เจียด้วยเครื่อง ด้านหลังปาดเรียบ ได้เป็นองค์พระสีดำ น้ำตาล เขียว (ขี้ม้า) พระราชทานตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๘-๒๕๑๓ มอบใบประกาศ ลงพระนามกำกับลายมือสด จำนวนรวมราว ๓ พันองค์
องค์นี้ของ ส.ก.กฤษฏ์ คงวุฒิปัญญา เป็นพระสร้างปี พ.ศ.๒๕๑๐ สภาพสมบูรณ์สวยเดิม ที่ปัจจุบันจะหาพระแท้ องค์งามแบบนี้ยาก เพราะเชื่อถือศรัทธากันว่าเป็นพระพิมพ์ที่มีสิริมงคลสูงสุดของแผ่นดิน ตามที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช บัญญัตินามเรียกว่า “พระกำลังแผ่นดิน” ซึ่งมาจากพระนาม ภูมิ (แผ่นดิน) พล (พลัง)
...
ต่อไปเป็น พระพิมพ์สะดุ้งมาร ซุ้มเว้า เนื้อดิน พระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่บุญ ขันธโชติ) วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม อีก ๑ พระพิมพ์มาตรฐาน ในสกุล “พระเครื่องหลวงปู่บุญ” ที่ได้รับความนิยมมาก
พบทั้ง เนื้อผงยาวาสนา เนื้อผงพุทธคุณ และ เนื้อดินเผา อย่างองค์นี้ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง ที่เป็นพระสภาพสมบูรณ์สวยเดิม ในอดีตมีพบเห็นมาก แต่ปัจจุบันหายากพอกับเนื้ออื่น--ยิ่งเป็นองค์งามเยี่ยมหลังจารอักขระลายมือคมจัดชัดแจ๋วแบบนี้จะหาที่ไหน
...
ตามมาด้วย พระปิดตาเนื้อผงพุทธคุณ พิมพ์พระสังกัจจายน์ หลวงปู่พ่อเฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี พระอมตะเกจิฯผู้ได้รับการยกย่องจากพระเกจิฯผู้มีชื่อเสียงชั้นศิษย์ยุคหลัง เรียกท่านว่า “พ่อเฒ่ายิ้ม” เพราะท่านได้ชื่อว่าเป็นพระอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาของพระเกจิฯผู้มีชื่อเสียงสูงแห่งลุ่มน้ำแม่กลองเกือบทุกองค์
อาทิ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว หลวงปู่ดี วัดเหนือ เป็นพระเกจิฯที่มีวิชาอาคมพลังจิตแก่กล้า เป็นเจ้าของตำรับวิชาสร้างพระเครื่องของขลังมากมาย
ที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยม อาทิ ตะกรุดปราบทาสามหาระงับ (มหาปราบ) ตะกรุดลูกอม “โลก ธาตุ” พระปิดตาเนื้อผงพุทธคุณพิมพ์ต่างๆ เช่น พิมพ์ชะลูดหน้าเดียว-สองหน้า
และ พระปิดตาอุ้มท้อง พิมพ์พระสังกัจจายน์ แบบองค์นี้ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี ซึ่งเป็นพิมพ์นิยมที่มีพบทั้งแบบเคลือบรักและไม่เคลือบ แบบองค์นี้ ที่หาพบได้เวรี่ยากสุดๆ
องค์ที่ ๗ เป็น พระปิดตา พิมพ์เม็ดกระบก เนื้อผงคลุกรัก วัดท่าลาดเหนือ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จัดสร้างโดย หลวงพ่อบ๊วย เจ้าอาวาสรูปที่ ๔ ศิษย์ผู้สืบทอดวิชาสร้าง พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก ตำรับหลวงปู่จีน ผู้สร้างวัด เจ้าตำรับวิชา สร้างพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก
ท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๔ มีชื่อเสียงเป็นพระเกจิฯร่วมสมัยกับ พระ ครูญาณฯ วัดสัมปทวน และหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
พิมพ์พระปิดตา ของท่านจะคล้าย พระปิดตาหลวงปู่จีน เนื้อพระก็สูตรเดียวกัน อายุการสร้างแม้จะต่างกันมาก แต่ถึงปัจจุบันก็มีอายุเหยียบ ๑๐๐ ปีแล้ว ทำให้มีความสับสนในการเล่นหาพระท่าน เป็นพระปิดตาหลวงปู่จีนกันมาก
ถ้าชอบต้องพิจารณาอย่างละเอียดให้รอบคอบรู้ชัด อย่างองค์นี้ของ เฮียตี๋ วิคตอรี่ เบเกอรี่ ที่เป็นพระสภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ ที่เวลานี้ได้รับความนิยม ด้วยอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ยิ่งหย่อน และก็หายากแล้วเหมือนกัน
ต่อไปเป็น พระกริ่งแก้วปฏิมากร เนื้อทองคำ พ.ศ.๒๕๑๔ หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง พระสร้างชื่อยุคแรกๆที่ หลวงพ่อเกษม อนุญาตให้คณะศิษย์จัดสร้างอธิษฐานจิต และปลุกเสกด้วยองค์ท่านเอง
มีเนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ เป็นพระกริ่งที่มีชื่อเสียง ได้รับความนิยมสูงอยู่แถวหน้าของเมืองลำปาง โดยเฉพาะ เนื้อทองคำ ที่สร้างพิเศษตามจำนวนผู้ที่สั่งจอง อย่างองค์นี้ของ เสี่ยทวีพัฒน์ เชาว์กิจค้า องค์งามๆ สภาพสวยเดิมๆแบบนี้ ราคาหลายแสน
มาถึงเรื่องปิดท้ายสไตล์สนามพระ ซึ่งเล่าถึง เสี่ยอภิเดช หนุ่มใหญ่วัย ๔๕ เจ้าของฟาร์มเลี้ยงปลาทะเล ที่เพชรบุรี แม้มีเมียมีลูก ๒ คนแล้ว และเมียก็ดุมากด้วย แต่ยังไม่วายเจ้าชู้ ชอบเที่ยวเจาะแจ๊ะไปทั่ว
แต่เมียก็จับได้ทุกครั้ง จึงมีเรื่องทุบตีทะเลาะกันบ้านแตกบ่อยๆ ซึ่ง เสี่ยอภิเดช ก็ไม่ค่อยกล้าตอแย เพราะตัวเองเป็นฝ่ายผิด แต่ความที่ยังอยากแร่ด จึงหาทางออกด้วยวิธีพึ่งวิชาอาคม เลยปรึกษาเพื่อนหา อาจารย์สักยันต์ ด้านแคล้วคลาดคงกระพัน และป้องกันเมียจับได้ แต่ก็ไม่วายจะเน้นด้านเมตตามหาเสน่ห์ จนตัวลายพรืดลายพร้อย
เมื่อวันออกพรรษาที่เพิ่งผ่านมา หลังจากอดเหล้า หยุดเที่ยว ทำตัวเจ้าชู้มานาน ก็ชวนเพื่อนไปเที่ยวผับ ปล่อยผี และจีบสาวได้ ก็ควงไปกินข้าวในตลาดโต้รุ่ง แต่เกิดดวงซวยเมียมาเจอเข้าจะจะ เลยเอาไม้ไล่ตีจนหัวแตก เพื่อนต้องพาไปหาหมอเย็บแผลเกือบ ๑๐ เข็ม
หลายวันผ่านไป พอแผลเกือบหาย เพื่อนที่มาเยี่ยมก็แนะนำว่า เมียดุแบบนี้ต้องเลิกเจ้าชู้จะดีฝ่า เดี๋ยวพลาดไปอาจถึงตายได้นะ
แต่ เสี่ยอภิเดช ส่ายหน้าดิก เอานิ้วจุ๊ปาก กระซิบกระซาบบอกเพื่อน เลิกได้ไงเสียเชิงขุนแผนหมด คราวนี้ขอเพียงเพื่อนช่วยหาพระดีๆ ดังๆ ที่มีอานุภาพด้านแคล้วคลาดคงกระพัน หรือล่องหนหายตัวได้ยิ่งดี ให้ใช้คล้องคอบูชาสักองค์
เพราะลำพัง อาจารย์สักยันต์ คงช่วยไม่ไหว เพราะเที่ยวปั๊บ เมียเจอปุ๊บ แบบนี้ไม่เอาแล้ว เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง