ดูผิวเผิน ด้านหน้า พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ทุกเส้นสายลายพิมพ์ ทุกจุดตำหนิ เนื้อหาผิวฝ้าคราบไคล รวมรอยยุบรอยแยก ตามธรรมชาติครบครัน พลิกด้านหลัง ฝ้ารักสีแดงแกมน้ำตาลหนา มีรอยเลี่ยมเป็นรูปหัวใจ สึกจนเห็นเนื้อในสีขาว หลุมร่อง และเม็ดมวลสาร ระดับความซึ้งปานกลาง...

โดยภาพรวมๆ ดูได้แล้วว่าเป็นสมเด็จวัดระฆังแท้

แต่...ยังมีแต่สะดุดตาโครมใหญ่ ขอบสี่ด้านมีรอยขัดมุมหยาบๆ ชัดถนัดตามาก

คนรักพระสมเด็จที่มีประสบการณ์ เห็นรอยขัดลบความคมของขอบ ข้อแรก ก็นึกถึง พระเก๊ฝีมือชั้นเลว...ต้องการขัดมุมให้กลมมน หลอกตาให้เห็นเป็นความเก่า ลอกเลียนให้เป็นพระสึกช้ำตามธรรมชาติ

เฉพาะรอยใช้สึกรูปหัวใจ...จำได้ว่าราวปี 2530/2533 มีพระเก๊สภาพคล้าย...วางขายเรียงรายในแผงริมบาทวิถีด้านหลังสวนจตุจักร เข้าแว่นแล้ว ก็เห็นรูปหัวใจ ถูกล้างด้วยสารเคมี ออกจากทั้งแผ่นหลังที่ฉาบด้วยแผ่นสีผึ้ง

ถึงวันนี้พระเก๊ชุดนี้ อายุกว่า 30 ปี สภาพเนื้อหาผิวฝ้าเริ่มกลมกลืน แต่คราบสีผึ้งก็เป็นตัวฟ้อง

แต่กรณีพระเก๊ฉาบสีผึ้ง ก็เกิดไปคล้าย พระแท้ที่ถูกเลี่ยมทอง ช่างมักใช้แผ่นสีผึ้งแปะด้านหลังและขอบข้าง ป้องกันการกระทบเนื้อพระ และช่วยให้รีดแผ่นทองที่เลี่ยมให้เรียบ...

แผ่นสีผึ้งที่เลี่ยมในพระแท้...ผ่านการใช้นานๆ สีผึ้งก็ซึมเข้าเนื้อพระ ดูเป็นพระเก๊ไป ก็น่าเสียดาย

หันมาพิจารณาด้านหลัง องค์ในคอลัมน์ รอยสึกช้ำที่กินลึกเว้าเข้ากลาง...ยืนยันเป็นกรณีพระที่ถูกเปิดหลังใช้นานหลายสิบปีจริงๆ ยิ่งก้อนขาว ชิ้นรักคล้ำในหลุมร่อง รวมทั้งริ้วรอยสัญลักษณ์หลังสมเด็จวัดระฆัง...ก็เป็นสิ่งช่วยย้ำความเป็นพระแท้

มองไปที่รอยขัดริมขอบสี่ด้าน อีกที รอยขัดหยาบ...ทำให้พอมโนไปด้านดี เป็นกรณีที่ช่างขัดมุมคมออก เพราะเอาพระเข้ากรอบไม่ได้... กรณีนี้เกิดมีในช่วงเวลาที่พระยังไม่แพง ก่อนและหลัง 2500 ไม่กี่ปี

...

ยังพอมีให้เห็นกันอยู่บ้าง พระขุนแผนบ้านกร่าง พระนางพญา ฯลฯ...ช่างเลี่ยมขัดมุมคมๆแหลมๆออก เพื่อเอาให้เข้าเลี่ยม...ที่ตอนวัด วัดกันไว้หยาบๆ

ดูในแง่ความสมบูรณ์ การขัดมุม ถือว่าเสียหาย ภาษาการตลาดเสียราคา แต่ถ้าดูในแง่เหตุผล...การขัดมุมแบบนี้ มักเกิดกับพระที่เอาไปเลี่ยม เมื่อ 50-70 ปีที่แล้ว...

คนเป็นพระใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา...ช่วงเวลานั้น พระปลอมฝีมือ ที่ใกล้เคียงทั้งเนื้อหาและพิมพ์ ยังไม่ทันได้ทำกันออกมา

หากพิจารณาได้ถึงระดับนี้ พระสมเด็จขัดมุมองค์นี้ ก็ตัดสินใจได้ไม่ยากเกินไป

นอกจากกรณีของ “รอยขัด” ที่เกิดขึ้นได้ ยังมีกรณีของ รอยขูด รอยขีด ซึ่งถือว่าผิดธรรมชาติ

ในช่วงเวลาของความนิยมพระเครื่องช่วงแรกๆ...ยังไม่มีทินเนอร์ หรือน้ำยาลอกสี...

กรณีของพระลงรักปิดทอง...การลอกรักแบบโบราณ ขยำข้าวสุกให้ละเอียด พอกองค์พระไว้จนข้าวบูดเน่า แล้วเอาเทียนลนไฟให้ร้อน ทาบรักทองให้หลุดล่อน...ยังทำกันได้ผลยาก

พระสมเด็จหลายองค์ ถูกลอกแบบดิบๆ ด้วยการใช้ของมีคมขูด...ผลก็คือปรากฏรอยขนแมว ...คนรุ่นใหม่ดูแล้วคาใจ...แต่ก็มีข้อดี นี่คือข้อพิจารณา ว่าเป็นพระสมเด็จรุ่นก่อน...ก่อนมีพระปลอมฝีมือดี

หากพิมพ์ถูก เนื้อใช่ ธรรมชาติก็ช่วย...ก็ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น นี่ถือเป็นอีกหนึ่งชุดวิชา ถ้าไม่รักกันจริง ไม่บอกให้รู้ นะเออ!

พลายชุมพล