สวัสดีท่านผู้ชม วันนี้เนื้อหาค่อน ข้างมาก แต่สัมปทานเท่าเดิม เราเริ่มกันเลย ด้วย พระรอด พิมพ์เล็ก วัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน ของ เสี่ยโต้ (ปิโตรเลียม) เวียงจันทร์...พระสภาพสมบูรณ์ แท้ดูง่าย สวยพองาม ผิวพระมีริ้วรอยสัมผัสใช้จนลบเลือน จึงเปิดเห็นเนื้อในที่ละเอียดแน่น สะอาด เนียน ไม่มีอะไรปน ฟอร์มพระถูกสเปก พิมพ์พระชัดลึก จุดตำหนิถูกต้อง สรุปว่าส่องแล้วสบายใจทุกมุม....

พระรอด พิมพ์เล็ก วัดมหาวัน ของเสี่ยโต้ (ปิโตรเลียม) เวียงจันทร์
พระรอด พิมพ์เล็ก วัดมหาวัน ของเสี่ยโต้ (ปิโตรเลียม) เวียงจันทร์

  • ตามมาด้วยสุดยอดพระปิดตา อีกพิมพ์ของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ อ.เมือง จ.ชลบุรี คือ พิมพ์ยอดบายศรี จัดสร้างด้วยเนื้อผง แล้วคลุกรักจุ่มรัก....อันว่าพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว ก็โคตรจะหายากเย็นอยู่แล้ว พิมพ์นี้ยิ่งสุดยอดหายาก เพราะเป็นพระที่สร้างในยุคแรกๆ แบบสร้างไปแจกไป สำหรับใช้ติดยอดเครื่องไหว้บายศรี ในพิธีสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น พิธีพุทธาภิเษก พิธีงานบุญสำคัญตามประเพณี....ลักษณะเป็นพระพิมพ์ปิดตา เนื้อผงคลุกรัก ปั้นแกะเป็นองค์พระปิดตา มีพบทั้งที่เป็น ๓ หน้า ๔ หน้า ใต้ฐานเป็นรูกลวง อย่างองค์นี้ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี....กล่าวกันว่า ใครได้เจอพระแท้ดูง่าย สภาพงามสมบูรณ์ ที่หาพบยากเป็นที่สุด แสดงว่าต้องมีบุญบารมีมาก -- และที่สำคัญต้องมีตังค์มาก

...

พระปิดตายอดบายศรี เนื้อผงคลุกรักจุ่มรัก หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ฯ ของ สถิต ราชบุรี
พระปิดตายอดบายศรี เนื้อผงคลุกรักจุ่มรัก หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ฯ ของ สถิต ราชบุรี

  • องค์ที่สองก็เป็นพระกรุ-พระเก่า ซึ่งเลื่องลือในอานุภาพ คุ้มครองป้องกันภัย บันดาลความสุข โชคลาภ คือ พระร่วงนั่ง หลังลิ่ม ซึ่งพบที่กรุวัดช้างล้อม ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย กรุแรก....เป็นพระนั่ง ปางมารวิชัย พุทธศิลป์สมัยอู่ทอง (หน้าแก่) ด้านหลังองค์พระมีเอกลักษณ์เป็นแอ่งลึกคล้ายลิ่ม จึงเรียก “หลังลิ่ม” เนื้อพระเป็นโลหะผสมชินเงิน มีสนิมดำจับผิวส่วนใหญ่ ซอกพระกรซ้ายจะทะลุไม่มีเนื้อ....ต่อมาพบอีกที่กรุแก่งสารจิต แต่องค์พระมีปรอทขาวจับผิว ครั้งหลังสุดพบที่กรุเขาพนมเพลิง เป็นพระพิมพ์เดียวกัน เนื้อเหมือนกัน.....ปัจจุบันเป็นพระยอดนิยม ราคาหลักแสนที่หายาก โดยเฉพาะองค์สวยเดิมๆ สภาพสมบูรณ์แบบองค์นี้ของ เสี่ยแมน ศรีสมบูรณ์

พระร่วงนั่ง หลังลิ่ม กรุวัดช้างล้อม ของแมน ศรีสมบูรณ์
พระร่วงนั่ง หลังลิ่ม กรุวัดช้างล้อม ของแมน ศรีสมบูรณ์

  • อีกสำนักก็เป็นพระปิดตาคือ พระปิดตามหายันต์ (ยันต์ยุ่ง) เนื้อสัมฤทธิ์ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ บางขุนเทียน กทม. ซึ่งเป็น ๑ใน ๕ พระปิดตาเกจิอาจารย์ เนื้อโลหะ ยอดนิยม....ในอดีตเรียกว่า พระปิดตายันต์ยุ่ง แต่ระยะหลังมีเสียงค้านว่าฟังไม่เป็นมงคล จึงมีนักนิยมพระปิดตาสายตรงยุคเก่าแนะนำให้เรียกเป็นพระปิดตามหายันต์ ซึ่งฟังดูดี แต่ก็ยังติดปากเรียกยันต์ยุ่งกันอยู่ แต่ไม่ว่าจะเรียกยังไง ราคาก็แพงขึ้นๆ องค์งามๆสภาพเดิมๆ แบบองค์นี้ของ เสี่ยสมหวัง เวียงจันทร์ ฟังว่าหลายล้านแร้ว

พระปิดตามหายันต์ เนื้อสัมฤทธิ์ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ ของ สมหวัง เวียงจันทร์
พระปิดตามหายันต์ เนื้อสัมฤทธิ์ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ ของ สมหวัง เวียงจันทร์

...

  • ไปดูเหรียญกัน รายการแรกเป็น เหรียญพระอุปัชฌาย์คง รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๘๔ วัดบางกะพ้อม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ๑ ใน ๕ เหรียญเบญจภาคีพระเกจิอาจารย์ยอดนิยม....หลวงพ่อคง มีชื่อเสียงเป็น ๑ ใน ๔ สุดยอดหลวงพ่อผู้มีวิชาพุทธาคมเข้มขลัง ในยุคสงครามอินโดจีน ซึ่งเรียกเป็นชุดว่า จาด จง คง อี๋ เพราะพระเครื่องของขลังที่ท่านสร้างมอบศิษย์ทหารใช้บูชาติดตัวไปรบในสงครามอินโดจีน ต่อเนื่องสงครามโลกครั้งที่ ๒ ได้แสดงปาฏิหาริย์ด้านคุ้มครองป้องกันภัย ช่วยให้รอดตายกลับบ้านแบบไม่มีใครแขนขาพิการ เป็นเรื่องเล่าลือสู่ลูกหลานมาจนถึงปัจจุบัน....จึงมีคนไปกราบขอของดี พระเครื่องของขลังไปใช้บูชา ซึ่งสมัยนั้นก็มักจะเป็นตะกรุด ผ้ายันต์ เหรียญรูปเหมือน--พอหมดยุคสงคราม วัตถุมงคลเหล่านี้จึงกลายเป็นของดีมีค่า มีราคา ที่นักนิยมพระเครื่องของขลังอยากได้มาก....

เหรียญพระอุปัชฌาย์คง รุ่นแรก พ.ศ. ๒๔๘๔ วัดบางกะพ้อม ของสถิต ราชบุรี
เหรียญพระอุปัชฌาย์คง รุ่นแรก พ.ศ. ๒๔๘๔ วัดบางกะพ้อม ของสถิต ราชบุรี

...

โดย เฉพาะเหรียญรูปจำลองพระเกจิฯ ที่มีชื่อเสียง อย่างเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อคง ที่ พ.อ.พระยาศรีสุรสงคราม (เปลื้อง ดิลกโยธิน) ขออนุญาตท่านจัดสร้างขึ้น เพื่อบูชาคุณหลวงพ่อ เป็นที่ระลึกในวาระอายุครบ ๗๗ ปี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔....โดยนำเนื้อโลหะ ที่ใช้เป็นชนวนหล่อพระ ในพิธีที่วัดราชบพิธ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๑ มาหลอมรวมกับแผ่นทองแดง และรีดเป็นแผ่น ถวายให้หลวงพ่อลงอักขระเลขยันต์ และปลุกเสกกำกับตลอดไตรมาส และนำไปสร้างเป็นเหรียญปั๊ม ทรงกลมรูปไข่ เนื้อทองแดงรมดำ หูเชื่อม จำนวน ๓,๐๐๐ เหรียญ.....ขอบเหรียญมี ๒ แบบ คือ ขอบหยักหรือขอบสตางค์ (เหมือนขอบเหรียญบาท) จำนวน ๒๐๐ เหรียญ กับขอบนูนเรียบธรรมดา ๒,๘๐๐ เหรียญ--เหรียญนี้ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี เป็นเหรียญสภาพสวยแจ่ม เข้าขั้นแชมป์ ที่มีราคามากล้าน.....บรรทัดนี้ขอตอบคำถามสนามพระว่า การหล่อพระแบบโบราณทำกันยังไง จะรู้ได้ไงว่าหล่อโบราณจริงๆ....ก็ต้องบอกว่า ๑๐ ปีมานี้แทบไม่มีการหล่อโบราณให้เห็น เพราะค่าใช้จ่ายสูง และขั้นตอนยุ่งยากกว่าการหล่อในโรงหล่อพระที่มีเครื่องมือทันสมัยได้พระสวยเนี้ยบกริบ....และการหล่อโบราณ เทดินไทย ก็มักจะได้พระไม่เหมือนกัน เพราะเทคโนโลยีเครื่องมือยังไม่ทันสมัย ทำให้ได้พระที่ต้องมีจุดแตกต่างทุกองค์ไป จึงมักจะมีการแต่งพระหลังหล่อออกเป็นองค์แล้ว เช่น พระกริ่ง ซึ่งจะต้องบอกว่าใครแต่งพระ....แต่ความไม่เนี้ยบเป๊ะ มาในยุคเรานี่ก็กลับกลายเป็นเสน่ห์และดูเข้มขลัง จนพระสร้างแบบหล่อโบราณเป็นที่นิยม ทำให้มีการแอบอ้างว่าหล่อโบราณ....

เล่าสั้นๆว่า การหล่อโบราณต้องจัดกลางแจ้ง เพราะต้องทำเตาเผาซึ่งเวรี่ฮอต เริ่มโดยการปั้นหุ่นหรือขึ้นหุ่นใน โดยใช้ดินเหนียวผสมทรายตามสูตร ปั้นส่วนต่างๆ ขึ้นเป็นองค์พระ สมัยก่อนใช้ดินเลนผสมกับขี้วัว....เมื่อขึ้นหุ่นแล้วก็เข้าขี้ผึ้ง โดยเอาขี้ผึ้งผสมชันมาตีแผ่เป็นแผ่นหนาๆ เอามาหุ้มรูปหุ่นดินทั้งองค์ แล้วตกแต่งปั้นหุ่นขี้ผึ้งให้สวยเรียบร้อย จากนั้นช่างจะตอกตะปู (ภาษาช่างหล่อเรียกว่าตอกทอย คือตอกตะปูให้เป็นระยะตามจุดต่างๆ) ใช้ลวดพันให้แน่นเป็นโครงองค์พระ เอาดินพอกหุ้มนอก และทำปากจอกก่อนนำไปเข้าเตาเผา พอเจอความร้อนองค์พระขี้ผึ้งก็จะละลายไหลออกทางปากจอก....จังหวะเดียวกันนี้ช่างก็จะค่อยๆเทโลหะผสมร้อนๆ เข้าไปแทนที่ขี้ผึ้งจนเต็ม พอโลหะแข็งตัวเป็นรูปทรงองค์พระเหมือนหุ่นขี้ผึ้งที่ละลายไปช่างก็จะทุบดินออก ก็จะได้พระพุทธรูปโลหะ ซึ่งจะได้เห็นฝีมือว่าใครมือหล่อขั้นเทพติดเต็มหรือไม่ แล้วค่อยนำไปขัดและตกแต่งให้สวยงาม....ส่วนการพิจารณาพระหล่อโบราณ หรือหล่อวิทยาศาสตร์ ก็มีจุดให้ชี้ขาดหลายจุด อย่างหนึ่งคือ คราบดินขี้เบ้า ซึ่งพระหล่อโบราณมักจะมีดินขี้เบ้าฝังตามเนื้อพระหรือตามซอกลึกๆ ถ้าไม่มีเลยก็ลังเลไว้หน่อยอย่ารีบร้อน เพราะ “ของมันต้องมี” อ่ะ--ถ้าใครพบมีการหล่อโบราณ เทดินไทย ที่ไหนก็แจ้งมาได้ เผื่อจะมีคนอยากไปชมดู เพราะนับวันหาดูยากขึ้น

...

  • อีกเหรียญเป็นของ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อ.อุทัย อยุธยา เรียกว่าเหรียญเศรษฐี พ.ศ.๒๕๓๑....ท่านเป็นพระเถระผู้มีชื่อเสียงเกียรติคุณเป็นพระแท้ ผู้มีวิชาพุทธาคมเข้มขลังแถวหน้าของเมืองกรุงเก่า เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๗ อุปสมบท ที่วัดสะแก ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๖๘ โดยมีหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้นามฉายา “พรหมปัญโญ”....ท่านเป็นคนสนใจใฝ่รู้ ทั้งปริยัติ ปริธรรม จึงได้เป็นศิษย์เรียนสรรพวิชากับหลายพระอาจารย์คือ หลวงพ่อกลั่น หลวงพ่อเภา ท่านเจ้าคุณเนื่อง พระครูชมหลวงพ่อรอด ฯลฯ....ตลอดอายุท่านจัดสร้างพระเครื่องของขลัง ออกหาทุนบูรณะวัดเป็นระยะ จนถึงปี พ.ศ.๒๕๓๑ ได้จัดสร้างเหรียญรุ่นเหรียญเศรษฐีนี้ขึ้น มีเหรียญเนื้อทองคำ ๕๖ เหรียญ เนื้อเงิน ๑,๐๐๐ เหรียญ เนื้อนวโลหะ ๒๐๐ เหรียญ เนื้อตะกั่ว ๓๐๐ เหรียญ เนื้อทองแดง ๑๐,๐๐๐ เหรียญ....ส่วนที่มาของชื่อรุ่น “เหรียญเศรษฐี” เกิดจากตอนสร้างเหรียญมีผู้สั่งจองน้อย กรรมการจึงเรียนหลวงปู่ แต่ท่านบอกให้สร้างต่อไป บอกว่าภายหน้าจะหายาก คนที่มีเหรียญนี้ใช้จะร่ำรวยเป็นเศรษฐีกันทุกคน คณะศิษย์จึงนิยมเรียกเป็น “เหรียญเศรษฐี” กันเรื่อยมา....ปัจจุบันเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมสูง หายาก เพราะผู้มีใช้บูชามีฐานะมั่นคงตามคำหลวงพ่อว่า--อันนี้เป็นเนื้อเงินซึ่ง เสี่ยอนุศักดิ์กิตติศิริสวัสดิ์ บอกว่าตั้งแต่ได้มาใช้บูชาก็ทำมาค้าขายดี ฐานะมั่นคงขึ้นตามที่หลวงปู่พูด

เหรียญเศรษฐี พ.ศ.๒๕๓๑ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ของอนุศักดิ์ กิตติศิริสวัสดิ์
เหรียญเศรษฐี พ.ศ.๒๕๓๑ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ของอนุศักดิ์ กิตติศิริสวัสดิ์

  • อีกรายการเป็น เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๕๒ เนื้อพิงค์โกลด์ พระครูพิศาลจริยาภิรม (พระมหาสุรศักดิ์ อติสกฺโก) วัดประดู่ฯ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม....ท่านเป็นพระเกจิฯผู้มีชื่อเสียงด้านวิชาพุทธาคมแถวหน้าแห่งยุคนี้ เพราะเป็นศิษย์สายตรงของหลวงปู่สุด วัดกาหลง หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ และอาจารย์ฆราวาส ผู้มีชื่อเสียงแห่งเมืองสมุทรสงครามอีกมาก กับยังได้ศึกษาสืบทอดวิชาอาคมตามตำรับหลวงปู่แจ้ง (กระดูกดำ) ที่มีอยู่คู่วัดประดู่ฯ อย่างแตกฉาน.....ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๔ บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดประจันตาราม จ.สมุทรสงคราม เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘ โดยหลวงปู่สุด วัดกาหลง เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมา พ.ศ.๒๕๒๖ อุปสมบทที่วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร โดยสมเด็จพระธีรญาณมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์....แล้วอยู่จำพรรษาเรียนภาษาบาลีจนสอบได้นักธรรมเอก ได้ศึกษาธรรมต่อถึงสอบได้เปรียญ ๕ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๙....ท่านเป็นพระที่เชี่ยวชาญการแสดงธรรม วิชาโหราศาสตร์ การก่อสร้าง ประติมากรรม (ปูนปั้น) เมื่อท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประดู่ฯ ในปี พ.ศ.๒๕๓๔ ก็พัฒนาวัดจนเจริญ ทำให้มีผลงาน และได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์.....

เหรียญรุ่นแรก เนื้อพิงค์โกลด์ หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ฯ ของต่าย เชียงแสน
เหรียญรุ่นแรก เนื้อพิงค์โกลด์ หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ฯ ของต่าย เชียงแสน

เมื่อได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ที่พระครูพิศาลจริยาภิรม ท่านจึงจัดสร้างเหรียญรูปเหมือน รุ่นแรก และปลุกเสกเดี่ยว เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ (เสาร์ห้า) เพื่อนำรายได้เป็นทุนมุงหลังคากุฏิสงฆ์ .....เหรียญรุ่นนี้ออกแบบแม่พิมพ์โดยนายช่างเกษม มงคลเจริญ เป็นเหรียญปั๊ม ทรงกลมรูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปจำลองท่านครึ่งองค์ จำนวนสร้าง ๑. เนื้อทองคำ ๔๙๙ เหรียญ เหรียญละ ๒๕,๐๐๐ บาท ๒.เนื้อเงิน ๒,๕๕๓ เหรียญ ๑,๐๐๐ บาท ๓.เนื้อทองผสม ๓๐,๐๐๐ เหรียญ ๒๐๐ บาท (บรรจุกรุ ๕,๐๐๐ เหรียญ)--และเนื้อพิงค์โกลด์ แจกกรรมการ ๔๙ เหรียญ แบบเหรียญนี้ ของ เสี่ยต่าย เชียงแสน ซึ่งปัจจุบันเป็นเหรียญพระเกจิฯยอดนิยมมาแรงแห่งยุค ราคาสูงถึง ๓ แสนแล้ว....ลากันด้วยเรื่องปิดท้ายสไตล์สนามพระวิภาวดี เล่าถึงว่า คนไทยก็ยังเชื่อถือโชคลางกันมาก มีทั้งพองามกับขั้นงมงาย ทำให้พระหลายรูปต้องทำในเรื่องที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่ท่านก็หยวนๆ เพื่อเรียกศรัทธา อย่างน้อยก็นำคนเข้าวัดได้อีกทาง.....ทำให้สำนักวัดแห่งหนึ่งจะมีศิษย์ทุกรุ่นไปรอพบพระเกจิฯ ผู้มีชื่อเสียงร่ำลือว่าให้โชคลาภ เลขเด็ดแม่น ก่อนวันหวยออกจึงมีคนไปนั่งรอกันเต็มกุฏิ พักใหญ่พระเกจิฯซึ่งอายุมากแล้วก็ออกมา บรรดาศิษย์ก็เข้ากราบตามคิว ขอเลขเด็ดบ้าง ขอเครื่องรางของขลัง ลงกระหม่อม พรมน้ำมนต์ ท่านก็จัดให้ด้วยรอยยิ้มเมตตา.....

มาถึงคิว นายตี๋น้อย ที่คลานเข้ากราบนอบน้อม และพูดเสียงดังว่า ผมไม่ได้มาขอโชคลาภ พระเครื่องของขลัง เพราะได้ไปมากแล้ว วันนี้ผมมารบกวนหลวงพ่อ ขอพระคาถาป้องกันโควิด-๑๙ เอาที่เจ๋งๆนะครับ เพราะผมไม่กล้าไปฉีดวัคซีน เพราะกลัวติดมากเลยครับ....พรรคพวกที่มาด้วยกันฟังแล้วสะกิด ตี๋น้อย บอกว่า โควิดเป็นโรคสมัยใหม่ หลวงพ่อท่านเป็นพระยุคเก่าจะมีคาถาป้องกันได้อย่างไร แต่หลวงพ่อฟังแล้วพยักหน้ายิ้มเมตตา บอกว่าข้ามี ฟังแล้วรีบทำตามทันทีล่ะ เข้าใจไหม แล้วท่านก็บอกคาถาป้องกันโควิดว่า “จงอยู่ห่างพวก สวมหน้ากาก ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ หาหมอเมื่อมีไข้” โอมเพี้ยง เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง