พระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ฐานแซม สวยระดับ 5 ดาวราคาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

พระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ฐานแซม ของ ฤทธิรงค์ บุญมีโชติ แห่ง ไทยยูเนี่ยน

ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดยังสร้างความหวาดผวาให้ชาวโลกและชาวไทย และยิ่งรับข่าวที่มีแต่สร้างความเครียด หลายคนก็มีอาการขั้นประสาทแดก สติแตก จนแยกเรื่องจริงเรื่องโกหกไม่ได้ สภาพจิตก็เลยยิ่งแย่ลงๆ รวมถึงสุขภาพกาย

วันนี้ จึงขออัญเชิญพระดำรัสของ เจ้าประคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ มาเตือนสติกันอีกครั้ง เพื่อให้คุมสติกันไว้ก่อน “ทุกคนมีหน้าที่แสวงหาหนทางเพิ่มพูนสติ และปัญญา พร้อมทั้งแบ่งปัน หยิบยื่นให้เพื่อนร่วมสังคม อย่าปล่อยให้ความกลัวภัย และความหดหู่ท้อถอย คุกคามบั่นทอนความเข้มแข็งของจิตใจ ในอันที่จะอดทน พากเพียร เสียสละ และสามัคคี”

และเราท่านก็เข้าไปหาความสบายใจ ชมดูพระเครื่องของเรากันเถอะ วันนี้เวรี่เด็ดมาก เพราะมีพระระดับ ๕ ดาวมาพรึ่บบบ

เริ่มกันด้วยพระ ๕ ดาวองค์แรก ซึ่งขอเวลคัม ยินดีต้อนรับคอลเลกเตอร์คนใหม่ป้ายแดง--ใหม่นี่ หมายถึงเพิ่งมีชื่อ ฤทธิรงค์ บุญมีโชติ ลงในสนามพระวิภาวดี ครั้งแรก แต่เรื่องสะสมพระเครื่องท่านถือเป็นมือเก่าและเก๋าด้วย ขอบอก

เพราะดูจาก พระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ฐานแซม องค์นี้ ก็บอกได้ว่ารังนี้มีพระระดับไหน วันนี้จึงขอนิมนต์มาเป็นองค์ประเดิมบุกรังครั้งแรก ซึ่งจะมีครั้งต่อๆไปแน่นอน เพราะเสี่ยอู๊ด-ฤทธิรงค์ มีพระสวยๆอีกเยอะ--และถูก สีกาอ่าง เหมาจองเอามาลงให้แฟนคลับได้ชมเรียบร้อยโรงเรียนไทยรัฐวิทยาแร้ว

ตามธรรมเนียมของแขกรับเชิญคอลัมน์นี้ ต้องมีฉายา ในเมื่อเสี่ยอู๊ด เป็นประธานกรรมการบริหาร ของกลุ่มธุรกิจอาหารแช่แข็งและธุรกิจที่เกี่ยวข้องของ TU บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีประมาณ ๑๐ บริษัท จึงขอเรียก เสี่ยอู๊ด ไทยยูเนี่ยน

สำหรับฐานแซมองค์นี้ ทุกคนบอกว่าเป็นพระพันตา คือใครดูก็ยอมรับว่าสวยเยี่ยม ไม่ต้องพูดเยอะ ซึ่งตั้งแต่ได้มา เสี่ยอู๊ด ซึ่งชอบพระสายเมตตามหานิยม ก็ได้พุทธคุณด้านเมตตาเสมอ ตามที่โบราณาจารย์บอกว่า ชื่อฐานแซม เป็นมงคล ใช้บูชาแล้วทำให้ชีวิตมั่นคง เพราะมีฐานเสริม แซม ให้แข็งแรงปึ้กปั้ก--ฐานแซม สวยระดับ ๕ ดาวอย่างนี้ มาตอนนี้ราคาไม่มีต่ำกว่า ๑๐ ล้าน หรือกว่านั้น

องค์ที่สอง คือ พระกริ่งพรหมมุนี พระยาทิพโกษา (สอน โลหะนันทน์) ที่สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) วัดสุทัศน์ กทม. ทรงสร้างระหว่างดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพรหมมุนี ระหว่างปี พ.ศ.๒๔๕๘-๒๔๖๒ บางคนเรียกพระกริ่งเนื้อเหลือง ตามสีเนื้อโลหะ ซึ่งสมเด็จท่านได้นำเนื้อทองชนวน ที่เหลือจากการหล่อองค์พระพุทธชินราชจำลอง วัดเบญจมบพิตร มาหล่อหลอมเทเป็นองค์พระกริ่งรุ่นนี้ โดยใช้พระกริ่งใหญ่ หรือพระกริ่งจีน เป็นต้นแบบ

ใต้ฐานจะมีรอย ตัดชนวน และมีอักษรตัว “ท” อักษรย่อบอกนามพระยาทิพโกษา ผู้มีส่วนร่วมสร้าง เทหล่อเป็นตัวจมในเนื้อมากับองค์พระ

ฐานด้านหลัง จะปรากฏรอยปิดรูกริ่ง ซึ่งเป็นการเทหล่อแบบบรรจุเม็ดกริ่งในตัว พอสำเร็จแล้ว พระยาทิพโกษาได้นำไปกะไหล่ทองทั้งหมด จึงมีผู้เรียกพระกริ่งวาระนี้ อย่างองค์ในภาพของ เสี่ยเพชร–อิทธิ ชวลิตธำรง ว่า พระกริ่งพรหมมุนี เนื้อเหลือง--ซึ่งปัจจุบันเป็น ๑ ในพระกริ่งสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทว) รุ่นมาตรฐาน ที่ได้รับความนิยมสูง ราคาหลักล้าน

องค์ที่สาม เป็น พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน กรุลานทุ่งเศรษฐี อ.เมือง กำแพงเพชร องค์นี้เป็นพระแท้ดูง่าย สไตล์นิยมของคนเล่นพระ ทั้งฟอร์มทรง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรียกพิมพ์พระลีลาเม็ดขนุน พระปางลีลา บอกชัดถึงศิลปะสุโขทัย หมวดช่างเมืองกำแพงเพชร

และเนื้อพระ ซึ่งเป็นดินกรองเนื้อละเอียด ไม่มีเม็ดกรวดเม็ดทรายปน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เนื้อพระ กรุลานทุ่งเศรษฐี

องค์นี้ ของ เสี่ยศุภชัย สายัณห์ เป็นองค์ที่มีผิวเนื้อลบเลือนบางเบา บางจุดมีสีเนื้อฉ่ำคล้ำแบบอมเหงื่อ ซึ่งเกิดจากการสัมผัสใช้แบบถึงเนื้อถึงตัวของคนยุคเก่า ที่คนยุคปัจจุบันบอก ยิ่งดูยิ่งมัน พิมพ์พระยังดูงามสมบูรณ์เดิมๆ ไม่มีการแต่งเติมแกะเกา ราคาอยู่หลักล้านกลางๆ

ต่อด้วย เหรียญ มทบ.๗ เนื้อทองคำ พ.ศ.๒๕๑๘ หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์ อ.เมือง จ.ลำปาง จัดสร้างโดยมณฑลทหารบกที่ ๗ ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง โดยอาราธนาหลวงพ่อเกษม เขมโก เมตตาปลุกเสก ในวันที่ ๒๙ ธ.ค.๒๕๑๗ แจก จำหน่าย เมื่อวันที่ ๑ ม.ค.๒๕๑๘--เป็นเหรียญอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมสูง เพราะมีประสบการณ์อัศจรรย์เป็นที่เลื่องลือมากมาย

จำนวนสร้างมีเนื้อทองคำ ๖๔ เหรียญ เนื้อเงิน ๒,๕๑๘ เหรียญ เนื้อนวโลหะ ๑๐,๐๐๐ เหรียญ เนื้อทองแดง ๑๒,๕๑๘ เหรียญ

องค์นี้ ของ เสี่ยโหน่ง กาดเมฆ เป็นเหรียญเนื้อทองคำ องค์ที่ ๒๖ ตามหมายเลขตอกกำกับ สภาพงามเช้ง ไม่มีรอยช้ำ ฟังว่าปัจจุบันหลักล้านแล้ว

๕ ดาวอีกเหรียญ คือ เหรียญรุ่นแรก พระครูเนกขัมมาภินันท์ (หลวงพ่อบุญทา) วัดดอนตัน อ.ท่าวังผา จ.น่าน พระเกจิเมืองเหนือ ที่มีชื่อเสียงถึงวิชาพุทธาคมที่เข้มขลัง สร้างพระเครื่อง ของขลัง มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ด้านคุ้มครองป้องกันให้แคล้วคลาดภัยสูง

ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๙ ที่บ้านดอนตัน อายุ ๑๖ ปี บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดดอนตัน เมื่อปี ๒๔๕๔ โดยเปลี่ยนชื่อจากบุญทา เป็นสุทธวงศ์

พ.ศ.๒๔๖๐ได้ อุปสมบท โดยพระเตวินต๊ะ วัดสบหนอง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้นามฉายา “พุทธวังโส” จำพรรษา ณ วัดดอนตัน ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและด้านคันถธุระ จนได้นักธรรมโท และศึกษาวิชาอาคม การเขียนอักขระเลขยันต์ การลงยันต์ ลงตะกรุด โดยออกธุดงค์ไปฝากตัวเป็นศิษย์สำนักต่างๆ ทั้งบรรพชิตและฆราวาส

ท่านธุดงค์ไปถึงเมืองเชียงฮ่อน ประเทศลาว ในไทยไปทางแพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ จนถึงอยุธยา พบพระสหมิกธรรม ก็จะแลกเปลี่ยนเรียนวิชากัน

ท่านเชี่ยวชาญในการลงตะกรุดผ้ายันต์ เสื้อยันต์ คุ้มครองป้องกันแคล้วคลาดภัย คงกระพันชาตรี ที่มีชื่อเสียง เช่น ตะกรุดโทน ตะกรุดสามแหลม ตะกรุดเมฆบังวน ตะกรุดพุทธคุณหลวง ฯลฯ

วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์คุ้มครองป้องกันภัยเป็นที่เลื่องลือ ในตำรวจ ทหาร ท่านมรณภาพเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ รวมสิริอายุ ๘๕ ปี ๖๕ พรรษา

เหรียญนี้ ของ ส.จ.บอม เมืองน่าน เป็นเหรียญรุ่นแรก สร้างออกในวาระที่หลวงพ่อได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พัดยศ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสชั้นตรี ในราชทินนาม “พระครูเนกขัมมาภินันท์” เมื่อวันที่ ๕ ธ.ค.๒๕๑๓

ลักษณะเป็นเหรียญจำลองพัดยศ ทรงพุดตาน มีแฉกโดยรอบ ๑๖ แฉก ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อหน้าตรงครึ่งองค์ มีข้อความ หลวงพ่อวัดดอนตัน ท่าวังผา ด้านหลัง เป็นรูปยันต์ ๙ ช่องลงอักขระหัวใจ พระไตรปิฎกและยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ เขียนเป็นอักขระภาษาล้านนา ขอบด้านล่างมีข้อความว่า ท่าวังผา

เนื้อเป็นทองแดงกะไหล่ทอง สร้าง ๓,๐๐๐ เหรียญ ได้รับความนิยมสูง เหรียญสภาพสวยแซ่บแบบนี้ ราคาสูงถึงหลักแสน ด้วยอานุภาพ ตามคำกลอนที่ศิษย์เขียนเทิดทูนไว้ว่า พระครูเนกขัมมาภินันท์สนั่นหล้า จิตแก่กล้าเวทพุทธาอาคมขลัง จารเวทมนต์พ่นเสกเอกพลัง ปรากฏดังเป็นที่รู้สู่หมู่ชน ยันต์ธงชัยไกรเกรียงเป็นเที่ยงแท้ สามแหลมแผ่ป้องภัยให้ฉงน เมฆบังวนนั้นแกร่งกล้ามหามนต์ บันดาลดลดอนตัน-น่าน ระบือนาม

วันนี้ เครื่องรางของขลังก็ ๕ ดาว เหมือนกันวุ้ย คือ ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ พระพิมลธรรม (นาค สุมนนาโค) วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพฯ ของ เสี่ยคำรณ สัยยะนิฐี

ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ ๑๐ ของวัดอรุณฯ สร้างตะกรุดหนังหน้าผากเสือ ตามตำรับที่ได้รับมาจากหลวงพ่อหว่าง วัดเทียนถวาย ปทุมธานี พบมีทั้งชนิด เคลือบรักปิดทอง และหนังเสือมัดเชือก ๓ ปล้อง เปลือยๆ

มีขนาดเล็กยาวประมาณ ๑ นิ้ว กับขนาดใหญ่ ยาวประมาณ ๒ นิ้ว เป็นตะกรุดหนังหน้า ผากเสือยอดนิยม ราคาสูงถึงหลักแสน ดอกนี้สมบูรณ์สวยเยี่ยมที่ปัจจุบันยากจะได้พบ

อีกชิ้น ก็เด็ด เป็น เบี้ยแก้ ถักลวดทองแดง หลวงพ่อพัก วัด โบสถ์ อ.สามโก้ อ่างทอง พระเกจิ อาจารย์ผู้มีชื่อด้านวิชาอาคมยุคเก่า สร้างพระเครื่องของขลังไว้ได้รับความนิยมสูง แต่หายากสุดๆ อาทิ เหรียญรูปท่าน ที่มีทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อทองแดง

งาแกะรูปแบบต่างๆ อาทิ รูปสิงห์ ที่เล่ามาว่า ผู้ใดมีใช้บูชาติดตัว หากเดินฝ่าฝูงวัว-ควาย จะทำให้ฝูงแตก วัว-ควายวิ่งหนี งาแกะรูปกลองตะโพน ที่เลื่องลือด้านเมตตามหานิยม ซึ่งท่านทำให้ศิษย์ ที่มีอาชีพเป็นนักร้อง ลิเก กับปลัดขิก ที่ท่านสร้างตามตำรับวิชา ที่ได้รับจากหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก

ที่มีชื่อเสียงสูงสุด คือ เบี้ยแก้ ที่ท่านได้รับถ่ายทอดวิชามาจากพระอาจารย์วาด พี่ชาย ที่เคยเป็นโจรชื่อดัง มีวิชาอาคมเข้มขลัง ภายหลังหันหน้าเข้าสู่ทางธรรม

พบมีทั้งชนิดถักเชือกลายกระสอบหุ้มเปิดหลัง กับแบบหุ้มตะกั่วเปิดหลัง อานุภาพศักดิ์สิทธิ์ มีประสบการณ์เด่นชัด ด้านป้องกันคุณไสย กันถูกกระทำ กันยาสั่ง กันภูตผีปีศาจ แก้เรื่องร้ายให้กลายเป็นดี แคล้วคลาดภัย คงกระพันชาตรี--ได้ชื่อเป็นของดีเมืองอ่างทอง

ตัวนี้ของศูนย์พระเครื่องธนบุรี เป็นแบบถักเชือก ลงรักเปิดหลัง แล้วยังถักลวดทองแดงหุ้มอีกชั้น เป็นการรักษาสภาพเบี้ยตามวิถีชาวบ้าน ทำให้ เบี้ยแก้ ตัวนี้คงสภาพงามสมบูรณ์ อย่างที่เห็นอยู่มาถึงวันนี้

ว้าว อีกชิ้น ก็สุดยอด ๕ ดาว คือ ปลัดขิก (เศรษฐีบูรพา) พระครูนันทธีราจารย์ (หลวงพ่อเหลือ นันทสาโร) วัดสาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ผู้สร้างปลัดขิก ตามตำรับวิชาหลวงพ่อขิก พระอาจารย์อดีตเจ้าอาวาส มีชื่อเสียงว่าเป็นเครื่องรางปลัดขิกยอดนิยม อันดับ ๑ ของวงการ

ท่านเป็นชาวบางคล้า เกิดปี ๒๔๐๕ อุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.๒๔๒๘ ที่วัดสาวชะโงก โดยมีพระอาจารย์คง วัดใหม่บางคล้า เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการขิก วัดสาวชะโงก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้เรียนอักษรขอม-บาลี วิปัสสนากัมมัฏฐานกับ พระอธิการขิกจนแตกฉาน แล้วไปเป็นศิษย์พระเกจิผู้มีชื่อเสียงอีกหลายท่าน อาทิ หลวงพ่อดำ วัดกุฎี จ.ปราจีนบุรี หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี

ท่านยังเป็นพระสหมิกธรรมกับหลวงพ่อเสือ วัดไผ่สามกอ ผู้เชี่ยวชาญด้านทำน้ำมนต์ หลวงพ่อนก วัดสังกะสี หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ฯลฯ

ท่านเคร่งครัดในพระธรรมวินัย รักสมถะ เมตตาธรรมสูง ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดสาวชะโงก เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๔ อยู่ปฏิบัติหน้าที่จนมรณภาพ ด้วยโรคชรา เมื่อปี ๒๔๘๘

ทิ้งมรดกเป็นผลงาน พระเครื่องวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังไว้พอสมควร ที่มีชื่อเสียงสูงสุดเป็นปลัดขิก ไม้แกะ รูปลักษณ์อย่างตัวนี้ ของ เสี่ยมล คาดเชือก ซึ่งถือเป็นศิลป์มาตรฐาน ทรงนิยมสุด ก้นลูกแก้ว ที่มีอานุภาพด้านเมตตาโชคลาภสูง จนได้สมญานามเศรษฐีบูรพา

แล้วก็ต้องบอกลากับเรื่องฮาๆ ซึ่งเกิดขึ้นที่ห้องโถงธนาคารไทยพาณิชย์ สาขารัชโยธิน กทม. ซึ่งเปิดใช้เป็นสถานที่บริการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอิน ให้ผู้สูงวัยอายุ ๖๐ ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัวร้ายแรง

ก็มีคนมาต่อแถวตั้งแต่เช้าก่อนเปิดแน่นขนัด ในจำนวนนั้นมี เสี่ยจำรัส เจ้าของร้านขายส่งสินค้าบริโภค มายืนรอคิวอยู่ด้วย แต่มีคนสังเกตว่าแกคล้องพระเครื่องมาพวงเบ้อเริ่ม ก็ทักว่าโหเฮีย คล้องพระมาล้นคอ กลัวโควิดมากหรือไง

แต่ เสี่ยจำรัส ยิ้มแฉ่ง ปฏิเสธเสียงดัง จนเฮฮาขำกัน เพราะแกบอกว่า ผมไม่ได้กลัวโควิดแล้ว เพราะเดี๋ยวก็ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน แต่ที่ใส่พระมาเต็มคอ เพราะกลัวเข็มฉีดยาต่างหาก เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง