พระขุนแผนผงพรายกุมาร พิมพ์เล็ก เนื้อขาว ทาทองบรอนซ์ วัดละหารไร่

และแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายของเดือนที่สองกันอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับข่าวการมาของวัคซีนโควิด-๑๙ สองลอตแรกที่ หมอหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล รับเรียบร้อยแล้ว และทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจขึ้น ว่าชีวิตไม่ต้องเสี่ยงมากเหมือนก่อนนี้ เพราะมีวัคซีนป้องกัน จะได้ผลมากน้อย ก็ยังดีกว่าไม่มีความหวังอะไรเลย

ดังนั้น วันนี้จึงขอนำพรของ หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง มารับข่าวดี ว่า “สัพพีติโย วิวัชชันตุ สัพพะโรโค วินัสสะตุ มา เต ภะวัตวันตะราโย สุขี ทีฆายุโก ภะวะ” แปลว่า ขอสิ่งร้ายทั้งปวงจงบำราศไป ขอโรคทั้งปวงจงหายไป ขอท่านอย่ามีอันตราย เป็นผู้มีความสุข มีอายุยืนยาว

สนามพระอาทิตย์สุดท้ายของเดือนนี้ เริ่มกันด้วย พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้ากลาง กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมืองสุพรรณบุรี ของ ดร.หมอ เป็นพระสภาพสมบูรณ์พองาม เพราะสภาพผ่านการใช้ ทำให้ผิวเนื้อมีริ้วรอยสัมผัส จนรายละเอียดลบเลือน

แต่ก็ยังมีหูตาปากจมูกให้เห็น ด้วยตาเปล่าแบบเดิมๆ ว่าไม่มีการแต่งเติม ที่เด่นคือฟอร์มทรง ที่ตัดขอบได้สัดส่วน งดงาม

พิจารณาโดยรวมแล้ว เป็นองค์พระที่มีความงดงามตามยุคสมัย ที่ พ.ศ.นี้จะหาพระแท้ที่สวยแบบ “องค์ครู” ที่มีชื่อเสียงในอดีตยากสุดๆ เพราะทุกองค์ล้วนถูกซื้อเก็บเงียบหาย โดยเจ้าของตัวจริง ในราคาที่สูงลิบ

และบางคนก็ไม่ค่อยยอมให้พระออกมาเป็นข่าวอีก จึงพูดล้อกันว่า หวงแม้กระทั่งรูป เพราะกลัวคนดูมากจนพระช้ำ

องค์ที่สองเป็น พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ลายกนก กรุลานทุ่งเศรษฐี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พระแท้ดูง่าย มีริ้วรอย คราบเหงื่อไคลจากการสัมผัสใช้ ผ่านรอยฉลุเลี่ยมทองแบบโบราณ

ทำให้ผิวเนื้อลบเลือนถึงเนื้อในบางส่วน เป็นลวดลายในผิวเนื้อให้เห็นทั้งด้านหน้าด้านหลัง แต่ยังคงความสมบูรณ์ของฟอร์มทรง และพิมพ์พระอยู่ในระดับโชว์ได้ ด้วยเส้นสายลายศิลป์ จุดตำหนิ ยังมีให้พิจารณาครบถ้วน

และความเป็นพระเครื่องทรงค่า ๑ ใน ๕ ของแผ่นดิน ที่สำคัญเป็น พิมพ์ใหญ่ ลายกนก ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้รับการยกย่องเป็นเจ้าพ่อพระเครื่อง แห่งลานทุ่งเศรษฐี ทำให้เจ้าของ เสี่ยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์ กำลังเนื้อหอมมาก

ตามด้วย พระหูยาน พิมพ์กลาง อกกากบาท วัดพระศรีมหาธาตุ อ.เมือง จ.ลพบุรี พระกรุพระเก่า ๑ ใน ๕ พระยอดขุนพลชุดพระเบญจภาคีของแผ่นดิน ค้นพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๐ เรียกว่า พระกรุเก่า

ลักษณะเป็น พระเนื้อโลหะ หล่อแบบครึ่งซีก ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งปางมารวิชัย พุทธศิลป์สมัยลพบุรี ด้านหลังเป็นลายผ้า เนื้อพระเป็นชินเงิน ผิวเนื้อเป็นสีดำ ในซอกส่วนลึกมีปรอทขาว

พิมพ์พระแยกได้เป็น ๑.พิมพ์ใหญ่ หน้ายักษ์ ๒.พิมพ์กลาง ๓.พิมพ์เล็ก ๔.พิมพ์บัวสองชั้น ๕.พิมพ์รัศมีบัวสองชั้น ๖.พิมพ์จิ๋ว (มีน้อยมาก) ในเวลาต่อมามีการค้นพบพระในกรุพระใกล้เคียง แต่จำนวนไม่มากนัก

ถึงปี พ.ศ.๒๕๐๘ ก็แตกกรุอีกครั้งใหญ่ ได้พระจำนวนมากในพระเจดีย์องค์เล็ก ที่อยู่หน้าพระปรางค์องค์ประธาน เรียกกันว่า “พระกรุใหม่”

พิมพ์พระเหมือนพระกรุเก่า แต่ผิวเนื้อมี ปรอทขาว มากกว่า พุทธานุภาพปรากฏชัด ด้านคงกระพันชาตรี ด้านเมตตาก็มีประสบการณ์ไม่เป็นสองรองใคร

องค์นี้ของ เสี่ยมีชัย เถาทอง เป็นพระพิมพ์กลางแบบอกกากบาท มีเอกลักษณ์ที่เส้นกากบาทตรงพระอุระได้รับความนิยมสูง ปัจจุบันเป็นพระหายาก จนกล่าวได้ว่าเป็นพระในตำนานไปแล้ว

อีกรายการเป็น พระพิมพ์ยืน วันทาเสมา สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม เขตบางกอกใหญ่ กทม. พระพิมพ์นิยมเบอร์ต้นในสกุลพระวัดพลับ ของ เสี่ยก้อง พระสมเด็จ

เป็นพระสภาพสวยสมบูรณ์เดิมๆทั้งฟอร์มทรงที่ลงตัว พิมพ์พระที่ชัดลึก ผิวเนื้อมีคราบฝ้า รากรุ แบบบางเบา ไร้ริ้วรอยสัมผัสใช้ จึงยกให้เป็นพระแชมป์ของพิมพ์อีกองค์

ตามมาด้วย พระพิมพ์สมาธิ กลีบบัวสองชั้น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) วัดโมลีโลกยาราม (วัดท้ายตลาด) เขตบางกอกใหญ่ กทม. พระพิมพ์พุทธศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์ ฝีมือช่างหลวง สวยอลังการ ที่มีพิมพ์พระมากกว่า ๕๐ พิมพ์ ค้นพบ ๓ ครั้ง จาก ๓ วัด มากถึง ๘๔,๐๐๐ องค์

ครั้งแรก ตอนกระทรวงกลาโหม แจ้งให้ทุกวัดทั่วประเทศ หาพระเครื่องของขลังมอบทหารไทย ที่เข้าร่วมรบในสงครามอินโดจีน เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕

พระที่กรุในองค์พระเจดีย์ และเพดานพระอุโบสถ วัดโมลีโลกยาราม เป็นแหล่งกำเนิดพระพิมพ์สกุลวัดท้ายตลาด จำนวนมากที่สุด--ระยะแรกเชื่อว่าเป็นพระพิมพ์ที่สร้างบรรจุไว้โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) เจ้าอาวาสลำดับที่ ๒

ต่อมามีการค้นพบพระชนิดเดียวกันได้อีกที่ กรุพระวัดนางชี เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๕ เป็นครั้งที่ ๒ และต่อมาราว ๑๐ ปี ค้นพบอีกครั้งที่ วัดตะล่อม ซึ่งล้วนเป็นวัดอยู่ในพื้นที่ฝั่งธนบุรี และมีประวัติเกี่ยวข้องกับวัดท้ายตลาด

พระที่พบมีมากกว่า ๕๐ พิมพ์ เป็นพระ เนื้อปูนขาวผสมผงพุทธคุณ มวลสารว่านเกสรดอกไม้ใบลานเผา เนื้อพระสีดำแกมเขียว กับเทาดำ ขนาดพระมีทั้ง ใหญ่ กลาง เล็ก จิ๋ว ด้านหลังมีรอยปั๊มยันต์ จมลึกลงในเนื้อ ส่วนใหญ่เป็น ยันต์ใบพัด กับ ตัวเลขไทย มีชื่อเสียง ได้รับความนิยมแสวงหาสูง เคียงคู่มากับ พระวัดพลับ

เมื่อมีผู้พบข้อมูลใหม่มาแย้งว่า พระวัดท้ายตลาด สร้างไว้โดย พระวิเชียรโมลี เจ้าอาวาสองค์ก่อน เจ้าคุณสนิทสมณคุณ (เงิน) โดยมี หลวงพ่อแย้ม หลวงพ่อกลิ่น ร่วมสร้างในราวปี พ.ศ.๒๔๓๑ ทำให้ความนิยมในการแสวงหาลดน้อยลง

แต่ก็เฉพาะ พระพิมพ์รองๆ แต่พระพิมพ์นิยมแถวหน้าอย่าง พระพิมพ์สมาธิบัวสองชั้น องค์นี้ของ เสี่ยต่อ สตางค์ ก็ยังเป็น ๑ ในพระพิมพ์ยอดนิยมถึงปัจจุบันราคาหลักแสนถึงล้าน ด้วยพุทธคุณที่โดดเด่นด้านโชคลาภเมตตาค้าขาย แคล้วคลาด เมตตามหานิยม โภคทรัพย์ ที่มีประสบการณ์เล่าขาน

ต่อไปเป็น พระปิลันทน์ พิมพ์โมคคัลลาน์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัต เสนีย์วงศ์) วัดระฆังฯ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ซึ่งระยะนี้มีมาให้ชมต่อเนื่อง ยืนยันความเป็นพระอินเทรนด์ ที่มีความเคลื่อน ไหวซื้อขายกันมากมาแต่ปลายปีก่อน ถึงขณะนี้ก็ยังมีการซื้อขายคล่องตัว โดย เฉพาะพิมพ์นิยมแถวหน้า แบบองค์นี้ของ ดร.หมอ ที่ไม่ถึงกับงามเลิศ แต่เป็นพระแท้ สภาพสมบูรณ์เดิมๆ ที่ดูง่ายชะมัด

ตามมาด้วย พระนิรันตราย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศน์ แขวงบางลำพู เขตพระนคร กทม. พระกริ่งที่สร้างจำลอง จากองค์พระนิรันตราย ซึ่งเป็น พระพุทธรูปทองคำ พุทธศิลป์สมัยทวารวดี นั่งปางสมาธิเพชร

มีประวัติบันทึกว่า เมื่อราวปี พ.ศ.๒๓๙๙ กำนันอิน ชาวเมืองปราจีนบุรี ฝันว่าจับช้างเผือกได้ หลังจากนั้น ได้เข้าป่ากับลูกเพื่อขุดมันในพื้นที่ใกล้ดงศรีมหาโพธิ์ และขุดพบพระพุทธรูปเนื้อทองคำ น้ำหนัก ๘ ตำลึง จึงนำมอบให้ คุณพระเกรียงไกรกระบวนยุทธ ปลัดเมืองฉะเชิงเทรา คุณพระเกรียงไกร จึงได้นำ กำนันอินกับนายยัง เดินทางเข้าเฝ้า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อทูลเกล้าฯถวายพระพุทธรูปทองคำนั้น

พระองค์ทรงรับและมี พระราชดำรัสชมว่าสองพ่อลูกมีกตัญญูต่อพระพุทธศาสนา และพระเจ้าแผ่นดิน ขุดได้พระทองคำแล้วไม่ทำลาย หรือซื้อขายเป็นประโยชน์ส่วนตัว แล้วพระราชทานเงินรางวัล

และโปรดให้เจ้าพนักงานนำพระไปประดิษฐาน ณ หอพระเสถียรธรรมปริต อยู่คู่กับ พระกริ่งทองคำน้อย

ถึงปี พ.ศ.๒๔๐๓ มีคนร้ายลักลอบเข้าหอเสถียรฯ ลัก พระกริ่งทองคำน้อย ไป โดยไม่ได้แตะต้อง พระพุทธรูปทองคำ นี้ ทั้งที่องค์พระเป็นทองคำ ที่มีขนาดใหญ่กว่า

จึงมีพระราชดำริว่า “พระพุทธรูป” ที่กำนันอินนำถวายนั้น เป็นทองคำทั้งองค์ขนาดใหญ่กว่าพระกริ่ง คนร้ายน่าจะนำไปมากกว่าแต่กลับละไว้ เช่นเดียวกับผู้ขุดพบไม่ทำลาย เป็นเรื่องมหัศจรรย์ ที่แคล้วคลาดถึง ๒ ครั้ง

จึงมีพระราชดำริ ให้สร้าง พระพุทธรูปนั่งปางสมาธิเพชร เนื้อทองคำ ขนาดหน้าตัก ๕.๕ นิ้ว เพื่อสวมครอบองค์พระพุทธรูปองค์เดิมไว้ และยังสร้างอีกองค์เป็นเนื้อเงินบริสุทธิ์ ไว้อยู่คู่กันถึงปี พ.ศ.๒๔๑๑

เมื่อมีวัดฝ่ายธรรมยุตมากขึ้น พระองค์ทรงให้หล่อพระพุทธรูปตามแบบเดิม พระราชทานนามว่า “พระนิรันตราย” จำนวน ๑๘ องค์ เท่าจำนวนปีที่ทรงครองราชย์ เพื่อพระราชทานประดิษฐานวัดฝ่ายธรรมยุต
๑๘ วัด

ปัจจุบัน พระนิรันตราย องค์จริง ประดิษฐาน ณ หอพระสุราลัยพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง องค์นี้ของ เสี่ยเพชร-อิทธิ ชวลิตธำรง เป็น พระกริ่งรูปจำลองพระนิรันตราย ซึ่งสร้างขึ้นเป็น ยุคแรก ในสมัย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส (สมเด็จพระสังฆราช (เข)) ที่ได้รับความนิยมสูง หาพระแท้ได้ยากยิ่ง ด้วยจำนวนสร้างที่มีน้อย และกาลเวลาที่ล่วงเลยกว่าศตวรรษ

อีกรายการมาแบบขลัง คือ พระขุนแผนผงพรายกุมาร พิมพ์เล็ก เนื้อขาว ทาทองบรอนซ์ บล็อกแรก พ.ศ.๒๕๑๗ หลวงปู่ทิมอิสริโก วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เป็น พระพิมพ์เล็ก บล็อกแรก ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ที่เจ้าของ เสี่ยวิสูตร เจริญยนต์ เขียนบอกมาว่า ราคาหลักแสน-หลักล้าน--ถามในวงการ ก็พยักหน้าบอกราคาประมาณนั้น

ถัดไปขอแจ้งข่าวบุญว่าท่านพระครูสถิตธรรมานุวัตร เจ้าอาวาสวัดทับไทร จะจัดทอดผ้าป่าสามัคคี วันที่ ๔ เม.ย. เพื่อนำรายได้สมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์ พระอุโบสถ เฉลิมพระเกียรติ ร.๑๐ วัดทับไทร ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

จึงชวนคณะศิษย์ ผู้มีจิตเป็นกุศล ร่วมบริจาคทรัพย์บูรณะพระอุโบสถสร้างกำแพงแก้ว ที่กำหนดเวลาแล้วเสร็จในปีพรรษานี้

พระเถราจารย์อาวุโส เคยกล่าวถึงอานิสงส์ของการบริจาคทรัพย์ ในการพระพุทธศาสนาที่กำลังจะสร้างสำเร็จเสร็จสมบูรณ์ ว่าเป็นเคล็ดลับ ที่จะส่งผลให้ผู้ร่วมกุศล ประสบความสำเร็จประสงค์ในทุกสิ่งที่อธิษฐานโดยพลันทันใจ

ร่วมทำบุญได้กับวัด ที่บัญชี วัดทับไทร เลขบัญชี ๒๓๙-๑-๐๐๐๐๑-๔ ธ.กรุงไทย สาขาโป่งน้ำร้อน หรือสอบถาม โทร.๐๙-๑๙๐๕-๕๙๙๙

เรื่องปิดท้ายสไตล์สนามพระวันนี้ เล่ากันถึง “พระนำชัย” ซึ่งมีหน้าที่ดูแลพระอุโบสถวัดดังใน จ.กาญจนบุรี ที่มีชื่อเสียงว่าองค์หลวงพ่อพระประธาน ศักดิ์สิทธิ์ เมตตาสูง ใครมาบนบานอธิษฐาน ท่านบันดาลให้ตามขอเกือบทุกราย ทำให้มีสาธุชนหน้าใหม่ใกล้-ไกล วนเวียนมาเข้าวัดมากขึ้นๆ พระนำชัย ถามๆดูส่วนใหญ่ก็บอกว่าได้ดังปรารถนา

แต่ระยะ ๒-๓ เดือนที่ผ่านมา สังเกตเห็น นายสุดชาย ชายวัยกลางคน บ้านใกล้วัดวนเวียนนำดอกไม้ธูปเทียน เครื่องบูชา มากราบนมัสการอยู่หน้าองค์พระประธานเกือบทุกวัน ก็นึกสงสัยจึงเข้าไปเลียบเคียงถามว่า โยมมาอธิษฐานขออะไร ยังไม่ได้หรือ เห็นมาทุกวัน

นายสุดชาย พนมมือตอบว่า ยังไม่ได้เล้ย ขอมาสองเดือนฝ่าแระ สงสัยจะไม่มีวาสนา

พระฟังแล้วก็พูดออกตัวแทน หลวงพ่อพระประธาน ว่า เอ แต่ส่วนใหญ่ที่มาขอ อาตมาถามๆดู ก็ว่าได้สมใจเกือบทุกคนนะ แล้วถามย้ำว่า แล้วโยมขออะไรล่ะ นายสุดชาย มองต่ำตาละห้อย บอกเสียงอ่อยว่า ผมขอให้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ ๑

พระนำชัย ฟังแล้วทำหน้าเซ็ง ส่ายหน้า บอกว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับบุญวาสนาส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของ “คิว” เพราะคงมีคนขอกันมาก

อย่างอาตมานี่บวชมา ๒๐ พรรษา ดูแลอยู่หน้าองค์หลวงพ่อมา ๑๕ พรรษา อธิษฐานขอเหมือนโยมทุกวัน ถ้าท่านให้ได้ อาตมาคงได้ก่อน โยมขอมาแค่ ๒ เดือน จะมาแซงคิวอาตมาที่ขอมา ๑๕ ปีได้ไง--ต้องรอตามคิว เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง