เจ้าของพระปิดตา หลวงพ่อแก้ว พิมพ์ใหญ่ องค์ในคอลัมน์วันนี้ แวดวงพระเครื่อง รู้จักกันว่า “จ่าดุลย์ เอกจิตต์” เป็นนักเลงพระเครื่องมือเก่าอยู่สงขลา ส่งภาพพระมาพร้อมกับคำบอกเล่าว่า “พี่เล็ก รูปหล่อ” ดูแล้ว บอกว่าเป็นพระเก่าแท้
ผมนับจ่าดุลย์อยู่ในแถว “คนเป็นพระ” ไม่หลงตัวเองเก่งคนเดียว พระทุกองค์ “อิง” ตาเซียนในวงการ
เมื่อราวๆสามสิบปีที่แล้ว จ่าดุลย์ถือพระกริ่ง 83 สังฆราชแพ วัดสุทัศน์ แต่งสวยพิเศษ เพิ่งติดรางวัลงานประกวดมาหมาดๆ มาแบ่งปันให้ดูสององค์
แต่ที่ทำให้ใจคนรักพระกริ่งอย่างผม หวิวไปทันที ก็คือ พระกริ่งพรหมมุนี ผิวกลับดำสนิทอีกองค์
ความติดใจ ผมตามไปขอดูพระกริ่งสามองค์ ของจ่าดุลย์ ถึงบ้านพักในค่าย ตชด.สงขลา จ่าดุลย์ถือพระเหนียวมาก ยังอยู่ในกระเป๋าหนีบติดตัว ตอนที่เปิดให้ดูเป็นครั้งที่สาม ที่ร้านทอง “เสี่ยหลง” ตลาดสงขลา
อีกไม่นานจึงได้ข่าว พระที่ผมเคยดูรวมสมเด็จฐานคู่กรุใหม่ ถูกแก๊งคนเลวๆวางงานฉกไปทั้งกระเป๋า
เรื่องในอดีต ที่เป็นเหมือนฝันร้ายของจ่าดุลย์ ผ่านเลยไปแล้วกว่ายี่สิบปี เจอพระกริ่ง 83 ในมือเซียนพระกริ่ง...อีกที คดีก็หมดอายุความ
การเห็นพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว พิมพ์ใหญ่ ที่มีคำบอกเล่าจากเซียนว่า “เก่าแท้” ถือเป็นฝันดี เป็นเรื่องดีๆ ในบรรยากาศเฉาๆ ของการสู้โควิด-19 ผมก็พลอยดีใจไปกับจ่า
สำหรับพระเครื่องสำคัญ ราคาสูงระดับเดียวกับ พระสมเด็จวัดระฆัง พระกริ่งปวเรศฯ ของคนในวงการ ตัดสินกันง่าย...เมื่อเซียนที่เชื่อถือเป็นหลักได้ ว่าเป็นพระเก่าแท้...ก็แค่นี้
...
และหากจะให้ดีไปอีก มีคนกล้ามาซื้อไปในราคาที่มีเหตุผล
แต่กับคนเขียนเรื่องพระ ต้องมีอะไรๆให้ผู้อ่านได้รู้มากไปกว่าคำว่าแท้...เช่นต้องอธิบายว่า พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว มีมากมายหลายแบบ หลายพิมพ์ หลายเนื้อ
เฉพาะพิมพ์ใหญ่ เท่าที่ปรากฏเปลี่ยนมือซื้อขาย มีพิมพ์หลังแบบ พิมพ์หลังเรียบ และพิมพ์หลังยันต์
ความที่เป็นพระหายาก โอกาสที่คนรักพระปิดตาสามัญ จะได้จับส่องให้สะใจ ไม่ค่อยมี จึงต้องเทียบเคียงเอาจากภาพพระแท้ของวงการ ในสิบปีนี้ มีให้เรียนรู้หลายองค์
ในพิมพ์ใหญ่ ก็ไม่ได้มีแม่พิมพ์เดียว ข้อสังเกตดูได้จากท่อนขา พิมพ์มาตรฐานคุ้นตา แอ่นโค้งขึ้นตรงกลางเล็กน้อย แต่ก็มีพิมพ์ใหญ่ที่ท่อนขาพระ วางราบตรงกลางไม่แอ่นโค้ง
ประเด็นสำคัญการตัดสินหลวงพ่อแก้วแท้ ต้องดูที่เนื้อ และรักทอง
เนื้อหลวงพ่อแก้ว ผสมจากเกสรดอกไม้และผงพุทธคุณ ประสานเนื้อด้วยเนื้อกล้วย เนื้อข้าวเหนียว เนื้อส่วนใหญ่ขาวอมน้ำตาล ไม่มีเค้า “หนึก” และ “หนักแน่น” เหมือนเนื้อพระสมเด็จ
ดูจากองค์ที่ผิวกะเทาะ จะเห็นเนื้อในหยาบๆตั้งใจส่อง ถ้าเจอเม็ดสีขาวเล็กๆก็ยิ่งดี
องค์ที่เห็นเป็นสีดำคล้ำ ดำปนน้ำตาล ท่านว่า เกิดจากสองกรณี องค์ดำมากๆ เป็นเนื้อที่ “คลุกรัก” องค์ที่สีน้ำตาลอ่อน บางองค์ค่อนไปทางขาวเข้ม ท่านว่าเป็นเนื้อ “จุ่มรัก”
ฟัง “ท่านว่า ”แล้วจินตนาการ ต่อจาก ภาพพระแท้...ดูให้คุ้นตา ดูให้จำฝังใจ
ส่วนเรื่องความเก่า ต้องจินตนาการจากอายุหลวงพ่อแก้ว หลายผู้รู้ยังถกกันไม่จบ ผมอ่านหลายตำรา เชื่ออาจารย์ชื้น วัดมหรรณพ์ กับ พี่ชุม (ประชุม กาญจนวัฒน์) มากกว่า เพราะใกล้เคียงกัน
“พี่ชุม” เขียนว่า หลวงพ่อแก้ว เกิด พ.ศ.2385 มรณภาพเมื่อ พ.ศ.2470
ความเก่าของพระ จินตนาการจากอายุของท่าน...เทียบเคียงกับพระปิดตาอาจารย์รุ่นไล่เลี่ย...แต่ที่แน่ๆ ต้องดูจากของแท้ เป็นเกณฑ์ รักเก่า ทองเก่า เหลืออยู่มากน้อย เป็นตัวช่วยให้วินิจฉัยได้ง่ายขึ้น
ในสายตาผม หลวงพ่อแก้ว พิมพ์ใหญ่หลังแบบ ของจ่าดุลย์ องค์นี้ องค์ประกอบทุกอย่างลงตัว พิมพ์ดี เนื้อหาและธรรมชาติก็กลมกลืน
ฝากคำเตือนจ่าไว้ รักษาท่านให้ดี อย่าให้ใครมาปล้นเอาไปอีกทีเดียว.
พลายชุมพล