พระเปิม ราคาองค์งามสภาพเดิมระดับแชมป์ ฉิวไปอยู่ที่หลักแสน

(ภาพ) พระเปิม เนื้อสีเหลือง กรุวัดดอนแก้ว ลำพูน ของ ธีระพันธ์ จันทร์ผ่อง.

ต้อนรับเดือนที่ 8 กันด้วย คำสอนของ หลวงพ่อ พุทธทาสภิกขุ ที่ว่า “เคล็ดลับความสุข คือรู้จักปลง รู้จักปลด รู้จักปล่อยวาง รู้จักไม่ยึดมั่นถือมั่น จึงจะทำให้มีความสุขได้” ก็เป็นคำสอนที่นำมาเตือนสติ และปรับใช้ ในยามที่เราๆท่านๆกำลังมีแต่ความทุกข์กังวล ว่าชีวิตจะเป็นตายร้ายดี เป็นไปอย่างไร ในยุคโควิด-19

ต่อเข้าสนามพระ ซึ่งวันนี้ ประเดิมกันด้วย พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานแซม กรุวัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม ๑ ใน ๔ พิมพ์หลัก ที่มี พิมพ์เหมือน พระสมเด็จวัดระฆังฯ ทั้งแบบเหมือนเป๊ะ เพราะเป็นพระที่ได้จากแม่พิมพ์ ที่ได้รับมอบมาจาก สมเด็จฯโต และ พิมพ์ที่สร้างขึ้นใหม่ ตามอย่างของเดิม คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เจดีย์ พิมพ์เกศบัวตูม

และ พิมพ์ฐานแซม อย่างองค์นี้ ซึ่งเป็น พระพิมพ์ฐานแซม กรุบางขุนพรหม ขนานแท้ ซึ่งนักนิยมสายตรง แยกพิมพ์ได้ตามจุดเด่นที่เห็นชัด เป็น ๒ กลุ่มใหญ่

คือ ๑.แขนหักศอก ที่มีต้นแบบเค้าลางจากพิมพ์พระวัดระฆังฯ ๒.พิมพ์แขนกลม ที่เป็นพิมพ์ดั้งเดิม สร้างขึ้นใหม่ เฉพาะของกรุบางขุนพรหม องค์นี้ ของ เสี่ยฐิตินันทน์ นันทนาปราโมทย์ ซึ่งเป็นพระสภาพองค์สมบูรณ์ พิมพ์พระมีรอยสัมผัสผ่านการใช้เข้าถึงเนื้อใน เปิดเห็นมวลสารส่วนผสม เข้มข้น ดูเข้มขลัง มีพลานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ น่าใช้บูชา

องค์ที่สอง คือ พระเปิม เนื้อเหลือง วัดดอนแก้ว อ.เมือง ลำพูน ซึ่งเป็น พระแท้ ดูง่าย สภาพสมบูรณ์ สวยเดิมๆ ของ เสี่ยธีระพันธ์ จันทร์ผ่อง

จุดเด่นอยู่ที่สีเนื้อเหลืองอมน้ำตาล คลุมด้วยคราบกรุฝ้าขาวแบบบางเบา เปิดเห็นพิมพ์พระ พุทธศิลป์หริภุญไชย สอดแทรกอิทธิพลศิลปะคุปตะ ปางปรกโพธิ์ ที่คมชัดผึ่งผาย ดูดีมีมิติด้วยฝีมือช่าง ที่ฝากไว้ให้เห็นในความละเอียดที่พลิ้วไหวของใบโพธิ์ ที่มีรวม ๘๔ ใบ

ด้านหลังองค์พระ มีเนื้ออูมนูนกับลายนิ้วมือ ปรากฏทั่ว บอกชัดความเป็น พระกรุวัดดอนแก้ว แหล่งกำเนิดที่ค้นพบ พระเปิม มากสุด เมื่อราวปี พ.ศ.๒๔๘๔ ซึ่งเป็นยุคสงคราม ที่ทางการอนุญาตให้วัดค้นหาพระเครื่อง ของขลัง แจกเป็นการบำรุงขวัญข้าราชการ ทหาร ประชาชน

เมื่อมีผู้นำไปใช้ได้พบประสบการณ์ด้านคุ้มครองป้องกัน แคล้วคลาดภัยสูง ทำให้มีผู้แสวงหากันมากจากอดีตถึงปัจจุบัน--จนราคาองค์งามๆสภาพเดิมๆระดับแชมป์แบบนี้ ฉิวไปอยู่ที่หลักแสน

ถัดไป ขอเสนอ พระงบน้ำอ้อย พิมพ์สตางค์สิบ เนื้อตะกั่ว หลวงพ่อเนียม วัดน้อย อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ๑ ในสุดยอดพระเครื่อง ของพระเกจิฯ ผู้ได้รับการยกย่องเป็นปฐมาจารย์ ด้านวิชาพุทธาคมของเมืองสุพรรณ

ตลอดอายุท่านสร้างวัตถุมงคลด้วย เนื้อตะกั่ว ไว้หลายชนิด เช่น ตะกรุดโทน ลูกอม พระเครื่อง มากมายหลายแบบพิมพ์ ล้วนได้รับความนิยมเล่นหาทั้งใน และนอกวงการ อาทิ พระพิมพ์พระคงเศียรโล้น พระพิมพ์พระเจ้าห้าพระองค์ พระพิมพ์พระพุทธ

และที่มีชื่อเสียงได้รับ ความนิยมสูงสุด คือ พระพิมพ์งบนำอ้อย ลักษณะทรงกลม ด้านหน้าหลังเป็นองค์พระ ด้านละ ๑๐ องค์ มีขนาดเล็กเท่าเหรียญสตางค์ ๕ กับขนาดใหญ่เท่าสตางค์สิบ (ยุคก่อน)

เนื้อตะกั่วมีไขปรากฏตามอายุ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยพิเชษฐ์ เกียรติเดชาวิทย์ ที่บอกได้ว่าเป็นเหรียญสภาพสมบูรณ์เดิมๆ สวยเด็ดขั้นแชมป์ ที่ปัจจุบันราคาเล่นหาสูงถึง หลักแสนกลาง เพราะอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ปรากฏเลื่องลือ ด้านมหาอุด หยุดลูกปืน

ขนาดจ่อยิงติดหน้าผากด้วยปืน สมิธ แอนด์เวสสัน .๓๘ ต่อหน้าญาติ มิตร ลูกปืนยังแฉลบโดนดั้งจมูกกระดูกแตก มีเลือดออกช่องจมูก แต่ไม่เข้าเนื้อ ฝากเพียงรอยลูกปืนไหม้เนื้อเป็นทางไว้ให้เห็นเป็นที่ระลึกมาถึงทุกวันนี้

ต่อด้วย พระปิดตาแร่บางไผ่ พิมพ์ทองหยอด หลวงปู่จัน วัดใหม่สุวรรณโมลี อ.เมือง นนทบุรี ๑ ใน ๕ พระปิดตามหายันต์ เนื้อโลหะ ชุดเบญจภาคี

จัดสร้างด้วย เนื้อโลหะอาถรรพณ์ธรรมชาติ ที่มีอานุภาพความศักดิ์ สิทธิ์ ด้านคุ้มครองป้องกันภัย คงกระพันชาตรี มหาอุด ศาสตราวุธ ป้องกันเขี้ยวงา เสริมบารมีอำนาจ เทียบได้กับเหล็กไหล

หลวงปู่จัน เป็นพระเกจิฯผู้มีวิชาอาคมเข้มขลัง ธุดงค์จากเขมร มาอยู่ที่วัดบางรักใหญ่ ใช้วิชาอาคมช่วยเหลือชาวบ้าน สักยันต์ ทำนำมนต์ รักษาโรคภัย ขับไล่ภูต ผี ปีศาจ ถึงขั้นร่ำลือกันว่าท่านมีวิชา ล่องหนหายตัว ย่นระยะทางได้ สร้างศรัทธาให้ชาวบ้าน จึงนิมนต์ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดโมลี

ท่านเริ่มสร้าง พระปิดตาแร่บางไผ่ ราวปี พ.ศ.๒๔๒๕ ได้ชื่อว่าเป็น พระเกจิฯ ท่านแรก ที่สร้างพระปิดตาด้วยศิลปะเล่นยันต์รอบองค์ ด้วยเนื้อแร่บางไผ่ หลอมเทหล่อแบบลอยองค์ด้านหน้าเป็นองค์พระปิดตา มีเส้นยันต์ขมวดเป็นตัวนะมหาอุดที่หน้าอก

ด้านหลังวาง เส้นยันต์ ขมวดเป็น ตัวเฑาะว์ อยู่เหนืออักขระ นะ มะ พะ ทะ

เป็นพระปิดตาเนื้อโลหะ ที่ขึ้นรูปองค์เป็นพระปิดตา วางเส้นยันต์ เทหล่อทีละองค์ พระที่ได้จึงมีความแตกต่างไม่เหมือนกัน ทั้งขนาดที่มี น้ำหนักต่างกัน ตั้งแต่ ๓ บาท ลงมา ถึงสลึง สองสลึง รายละเอียดในพิมพ์พระมีความแตกต่างแต่มีฟอร์มทรงเดียวกัน

พิมพ์พระที่ปรากฏเล่นหาเป็นมาตรฐาน เช่น พิมพ์หมวกแก๊ป พิมพ์เศียรตัด พิมพ์เศียรโต พิมพ์มือไม่โยงก้น และ พิมพ์ทองหยอด แบบองค์นี้ ของ ภูริต กุญชร ณ อยุธยา ที่เป็นพระสวยสภาพเดิมๆ เด่นที่ สนิมแร่ ในซอกส่วนลึก และ เนื้อแร่ ที่เห็นเป็นเส้นซ้อนสวนกัน อย่างที่เรียกว่า เสี้ยนตาล ซึ่งเป็นจุดสำคัญหลักในการพิจารณา

อีกสำนัก เป็น พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก พิมพ์กรอบกระจก พระครูธุรศักดิ์เกียรติคุณ (หลวงปู่ภู ธมฺมโชติ) วัดท่าฬ่อ อ.ท่าหลวง พิจิตร

ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ผู้มีชื่อเสียงแห่งเมืองชาละวัน เป็นศิษย์ผู้ร่วมคณะธุดงค์ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผู้สร้างศรัทธาให้สาธุชนเคารพบูชาด้วยการบูรณะวัดท่าฬ่อ จากสภาพชำรุดทรุดโทรมกลับมามีความเจริญมั่นคง ด้วยการสร้างพระอุโบสถ วิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ ครบสมบูรณ์ เป็นวัดที่มีชื่อเสียง มีพระสงฆ์มาอยู่จำพรรษาปีละหลายสิบรูป

ถึงปี พ.ศ.๒๔๕๕ สมเด็จพระมหาสมณะเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จตรวจราชการคณะสงฆ์ มณฑลภาคเหนือ ได้ประทับแรมที่วัดท่าฬ่อ ๑ คืน มีรับสั่งชื่นชมในความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการต้อนรับที่ถูกต้อง ตามระเบียบราชการ จึงประทานสมณศักดิ์ พระครูสัญญาบัตรพิเศษ เป็น พระครูธุรศักดิ์เกียรติคุณ พร้อมตราเสมาธรรมจักร เป็นพระอุปัชฌายาจารย์ อุปสมบทกุลบุตรในเขต อ.ท่าหลวง

ตลอดอายุท่านได้สร้างวัตถุมงคลของขลังไว้พอสมควร เพราะเชี่ยวชาญใน อักขระเลขยันต์ ลงลายมือจารอักขระเลขยันต์ ได้มีเส้นสายสวยงามสม่ำเสมอ ด้วยพลังจิตที่มั่นคง ปลุกเสกวัตถุมงคลได้มีความเข้มขลัง ขนาดชาวเมืองพิจิตรกล่าวว่า ถ้า หาพระเครื่องของขลังหลวงพ่อเงินไม่ได้ ก็หาพระเครื่องของขลังหลวงพ่อภูใช้แทนได้เลย ขอเพียงเป็นพระแท้ พิมพ์มาตรฐานอย่างองค์นี้ ของ เสี่ยจิรวัตร จิรเกษม

รายการถัดไป เป็นพระปิดตาอีกแร้วเจ้าค่ะ ท่านผู้ชม เป็นของสำนัก วัดนอก ชลบุรี ที่ หลวงปู่ภู่ สร้าง พระปิดตา หลังยันต์ เนื้อผงคลุกรัก ขึ้น เป็นอีก พิมพ์พระปิดตา มาตรฐานในสกุลพระปิดตา หลวงปู่ภู่ วัดนอก

องค์นี้ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง เป็น พระเนื้อผงคลุกรักจุ่มรัก ได้มาตรฐาน ทั้ง พิมพ์ เนื้อ และยันต์อุ ชี้ฟ้า ชี้ดิน ที่ประทับปั๊มเข้าเนื้อติดลึกชัด เป็นการันตีที่ด้านหลัง แบบนี้แหละที่ดูแล้วสบายใจ

ลำดับที่ ๗ เป็น เหรียญพระไพรีพินาศ ทองคำลงยา (สีแดง) พ.ศ.๒๔๙๕ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น นพวงศ์) วัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ทรงสร้างเป็นที่ระลึก ครั้งงานพิธีฉลองพระชนม์ครบ ๘๐ ปี ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย องค์พระอุปัชฌายาจารย์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๕ หลังเสร็จงานพิธี

ปีถัดมา เมื่อ ๔ เมษายน ๒๔๙๖ จึงได้มีการจัดสร้าง องค์จำลอง พระไพรีพินาศ ขนาดหน้าตักประมาณ ๓ คืบ ขึ้นประดิษฐาน ณ มุขด้านตะวันออก พระวิหารเก๋ง พร้อมจัดสร้าง พระบูชา พระเครื่อง ชุด ไพรีพินาศ นี้ขึ้น ประกอบด้วย ๑.พระบูชาไพรีพินาศ ๒.พระกริ่งไพรีพินาศ บัวแหลม ๓.พระกริ่งไพรีพินาศ บัวเหลี่ยม ๔.พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ ๕.เหรียญพระไพรีพินาศ ทองคำลงยา เงินลงยา ทองแดง ๖.หม้อน้ำพระพุทธมนต์--องค์นี้ ของ เสี่ยเพชร–อิทธิ เป็น เหรียญเนื้อทองคำลงยา บล็อกนิยม ที่หายากมากๆ

รายการสุดท้าย เป็น เหรียญ ๗ รอบ พ.ศ.๒๕๑๓ เนื้อทองคำ พระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่เพิ่ม ปุญฺญวสโน) วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม สร้างเป็นเหรียญที่ระลึกคราวงานพิธีทำบุญอายุครบ ๗ รอบแจกกรรมการผู้ร่วมงาน--มีเฉพาะ เนื้อทองคำ กับ เนื้อเงิน จำนวนสร้างเท่าอายุ หลวงปู่ปลุกเสกเดี่ยว

ผู้มีใช้บูชาบอกมีพุทธคุณด้านเมตตาค้าขายเป็นเยี่ยม โชคลาภเป็นยอด ปัจจุบันเป็นเหรียญยอดนิยมหายากสุดๆ ในสกุลเหรียญพระเกจิยอดนิยมเมืองนครปฐม ยิ่งเป็นเหรียญสภาพสวยแชมป์อย่างเหรียญนี้ของ เสี่ยโฆษิต ธีรศรีศุภร ยิ่งหายากกว่ายาก

ลากันวันนี้ด้วย เรื่องปิดท้ายของ เสี่ยนิยม ที่บอกว่าเป็นแฟนคลับของ สนามพระวิภาวดี ที่ติดตามมาตลอด ตั้งแต่ สีกาอ่าง เปิดเวทีนี้ เมื่อปี ๒๕๓๙ เพราะเป็นสาย “พระใหม่”

ก็บอกมาว่า ที่เป็นแฟนคลับตัวยง เพราะเคยเช่า พระใหม่ ตามที่ข้าพเจ้าเคยเขียนถึง ซึ่งมักมีการ ตอกโค้ด หมายเลขกำกับ พอได้พระมา ก็เอาเลขพระ ไปซื้อหวย จนเคยมีโชค ถูกตรงเป๊ะ ได้เงินเต็มๆ ๔๐๐,๐๐๐ บาท จึงติดใจ ตามเช่าพระเอาเลขมาเล่นหวย ซึ่งก็ถูกมั่งปีละหนสองหน ได้เงินนิดหน่อย ประปราย แต่ไม่ได้เจ๋งๆอีกเลย ระยะหลังจึงหยุดเช่าพระไป

มาถึงปีนี้ ต้องเกษียณอายุ ได้เงินโบนัสมา ๓๐๐,๐๐๐ คิดทำบ้านเป็นร้านอาหารให้เมียเป็นแม่ครัว ให้ลูกขายกาแฟ ตัวเองเป็น ผจก. ลองคำนวณแล้วต้องใช้ทุน ๑ ล้านบาท ถามเมีย เมียบอกมีเงินเก็บอยู่ ๕ แสน จึงขาดเงินอยู่ ๒ แสน จะหยิบยืมพรรคพวก ก็ไม่อยากเป็นหนี้ ไม่ทำร้านอาหารก็ไม่มีรายได้ มีแต่รายจ่าย เงินที่มีใช้ได้ ๒-๓ ปี ก็หมด

ก็กลุ้มใจ ไม่รู้จะทำไง วันหนึ่ง ก็เอาพระมานั่งส่อง แก้กลุ้ม เห็นทุกองค์มีเลข ก็นึกได้ว่าเคยมีโชคจากเลขนี้ คิดจะลองซื้อดูอีกก็มีปัญหา เพราะไม่รู้ ว่าจะเอาเลขจากพระองค์ไหน เพราะมีพระอยู่เกือบ ๓๐๐ องค์

พอปรึกษาเมีย จึงได้คำแนะนำให้เสี่ยง หยิบองค์พระมาหาเลขสัก ๒-๓ องค์ แต่ลองเสี่ยงอยู่ ๒ งวด ไม่ได้ผล เสียเงินไปอีก ๒๐,๐๐๐ ก็บ่นเสียดาย

ลูกชายที่เฝ้าดูมาตลอด เห็นท่าไม่ดี จึงขอจัดการเรื่องหาเงินเอง เสี่ยนิยม ก็ถามว่า ลูกจะหาเงินได้ไงเพิ่งเรียนจบ งานก็ยังไม่มีทำ ลูกชายตอบว่า ก็กำลังจะทำงานแรก

เสี่ยนิยม ถามต่อว่างานอะไร ลูกชายตอบว่า ก็เอาพระพ่อไปขายไง

เพราะแค่พระทองคำ ๔-๕ องค์ ก็พอลงทุนแล้ว ได้เงินแน่ๆ ไม่ต้องเสี่ยงซื้อหวยด้วย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง