การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตถือเป็นทางเลือกหนึ่งของโอกาสในการใช้จ่าย ที่เรียกว่า Opportunity Cost of money ซึ่งถือเป็นมูลค่าเพิ่มที่ได้มาโดยไม่ต้องจ่ายเงินสดออกไป เช่น ถ้าเราอยากซื้อโน้ตบุ๊ก 1 เครื่องในราคา 20,000 บาท แทนที่เราจะเอาเงิน 20,000 บาทไปจ่ายเพื่อซื้อโน้ตบุ๊ก เราสามารถใช้บัตรเครดิตในการซื้อและผ่อนชำระในโปรโมชันที่อาจจะไม่มีดอกเบี้ย ที่เรียกกันว่า 0% 6 เดือน หรือ 10 เดือน ซึ่งเมื่อครบกำหนด เงินสดของเราก็ยังอยู่และเราก็มีโน้ตบุ๊กใช้ตามที่ต้องการด้วย
ด้วยมูลค่าเพิ่มของโอกาสดังกล่าวทำให้ธุรกิจบัตรเครดิตมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้ดี โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนนิยมเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น
ประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “เคทีซี” นำทีมสื่อมวลชนลงใต้ ที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมชวนสายการบินพันธมิตรอย่างบางกอกแอร์เวย์ส และบริษัทท่องเที่ยวชั้นนำ เลิฟ อันดามัน เพื่อสำรวจธุรกิจท่องเที่ยวที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยบอกว่าตัวเลขของ Card not Present หรือการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในระบบออนไลน์เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมวดท่องเที่ยว ที่มากกว่า 70% ของผู้บริโภคมีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ทำให้การเติบโตของการใช้จ่ายในเรื่องของการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ร้านอาหารหรือแม้แต่แพ็กเกจทัวร์ เติบโตเป็นอันดับ 2 ของการใช้บัตรเครดิตในการใช้จ่ายในหมวดอื่นๆ ขณะที่อันดับหนึ่งยังคงเป็นการใช้จ่ายในหมวดประกัน
...
ประณยา บอกว่า ในจำนวนบัตรเครดิตกว่า 2.6 ล้านใบจากจำนวนลูกค้าราว 2.2 ล้านคนของเคทีซี เราพบว่าในปีนี้เป็นปีแรกที่หมวดท่องเที่ยวถูกผลักดันขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของการใช้จ่ายบัตรเครดิต รองจากหมวดประกัน ซึ่งการทําการตลาดในหมวดท่องเที่ยวถือเป็นหัวใจสำคัญในการทําการตลาดบัตรเครดิต ทำให้ปีนี้เคทีซีตั้งเป้ากระตุ้นการใช้จ่ายในหมวดท่องเที่ยวให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 15% รวมถึงขยายฐานสมาชิกในหมวดท่องเที่ยวให้เติบโตมากกว่า 20% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2566
“ในรอบ 2-3 ปีนี้ พฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของสมาชิกบัตรเครดิตมีการปรับรูปแบบแตกต่างไปจากที่ผ่านมา เช่น มีการวางแผนท่องเที่ยวด้วยตัวเอง หรือใช้ช่องทางออนไลน์เป็นแหล่งข้อมูลในการหาสถานที่ท่องเที่ยว จองตั๋วโดยสาร จองโรงแรมที่พักมากขึ้น รวมถึงเลือกเส้นทางท่องเที่ยว หรือมีกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจงตามไลฟ์สไตล์ตัวเองที่ชัดเจน (Travel with Purpose) มากขึ้น” ประณยาบอก พร้อมกับให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในปีนี้เราวางกลยุทธ์หลักๆ 3 กลยุทธ์ด้วยกัน โดยเฉพาะเพื่อสร้างภาพจำให้กับสมาชิกถึงสิทธิประโยชน์และความสะดวกในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อเดินทางท่องเที่ยว
...
กลยุทธ์แรก เน้นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับการใช้จ่ายท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยการเพิ่มสิทธิพิเศษจากเว็บไซต์ท่องเที่ยวครบทุกหมวดย่อยจากกว่า 100 พันธมิตรการเดินทางชั้นนำ พร้อมเป็นช่องทางสนับสนุนพันธมิตรหมวดท่องเที่ยวที่ร่วมรายการ ผ่านการปรับโฉมเว็บไซต์ www.ktc.co.th/online-travel-booking
กลยุทธ์ที่สอง ขยายฐานสมาชิกสู่กลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง หลังเห็นยอดการใช้จ่ายในกลุ่มผู้มีรายได้สูงกว่า 50,000 บาท เติบโตต่อเนื่องในหมวดท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในต่างประเทศ โดยร่วมกับพันธมิตรสายการบินฟูลเซอร์วิส เพื่อมอบสิทธิพิเศษครอบคลุมร้านค้าในต่างประเทศ รวมถึงแหล่งช็อปปิ้งชื่อดังระดับโลก
กลยุทธ์ที่สาม ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวในประเทศด้วยการจับมือกับโรงแรมคุณภาพระดับสากล ออกแคมเปญหลากหลายให้กับสมาชิก มีการให้บริการผ่านเคทีซี เวิลด์ ทราเวล เซอร์วิส สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี ด้วยการให้บริการที่ไว้ใจได้ (Trusted Service) โดยผู้เชี่ยวชาญ ที่พร้อมให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่น่าเชื่อถือ ติดต่อและเข้าถึงสะดวก สามารถให้คำแนะนำพร้อมข้อมูลที่เป็นประโยชน์
...
“ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราเน้นเรื่องของพันธมิตรธุรกิจ เน้นเรื่องของพาร์ตเนอร์ชิปมาร์เกต และรวบรวมพันธมิตรที่มีการขายออนไลน์เข้ามาอยู่ที่นี่ เพื่อเปิดช่องทางให้กับพันธมิตรมาเจอกับกลุ่มลูกค้าของเราซึ่งมีมากถึง 2.2 ล้านคน” ประณยาย้ำ พร้อมกับบอกว่า นอกเหนือจากกลยุทธ์ที่กล่าวมาแล้ว ในการทำธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว สิ่งที่เราคำนึงถึงอีกอย่างซึ่งสำคัญมาก คือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มีหลายโครงการที่เราร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น โครงการ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น” ที่ร่วมกับสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การนำเสนอผลิตภัณฑ์กรีนโปรดักส์ด้านการเดินทางท่องเที่ยวผ่านช่องทางเคทีซี เวิลด์ ทราเวล เซอร์วิส อาทิ บัตรรถไฟ บัตรรถราง รถเช่าไฟฟ้า (EV) และแพ็กเกจท่องเที่ยวชุมชน ฯลฯ
ถือเป็นการเดินทางที่ได้ทั้งความสุขและยังได้มีโอกาสช่วยเหลือ สังคมอีกด้วย.
คลิกอ่านคอลัมน์ “THE NEW NORMAL” เพิ่มเติม
...