เพื่อเทิดพระเกียรติและเผยแพร่พระเกียรติคุณ ศ.ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในโอกาสทรงเจริญพระชันษา 65 ปี วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 และด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อชาวไทยโดยเฉพาะด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อการป้องกัน ควบคุมโรคมะเร็ง และดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็ง มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ได้จัดตั้ง “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ (Princess Chulabhorn Award)” รางวัลระดับนานาชาติขึ้น เพื่อพิจารณาให้แก่ผู้มีผลงานดีเด่น เป็นที่ประจักษ์ด้านการป้องกัน ควบคุม และ/หรือดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็ง เกิดผลดีต่อมนุษยชาติ ซึ่งได้ร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และกระทรวงการต่างประเทศ จัดการแถลงผลการตัดสินผู้ได้รับพระราชทาน “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์” ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566
...
ในงาน ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และรองประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ กล่าวถึงรางวัลนี้ว่า สภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้เห็นควรเสนอจัดให้มีรางวัลระดับนานาชาติขึ้น เพื่อพิจารณาให้แก่ผู้มีผลงานดีเด่น เป็นที่ประจักษ์ด้านการป้องกัน ควบคุม และ/หรือดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็ง เกิดผลดีต่อมนุษยชาติ มีการกำหนด ขอบเขตของรางวัล ขั้นตอน วิธีการ แนวปฏิบัติ และสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้เห็นชอบให้จัดตั้งมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ เพื่อให้รางวัลนานาชาติ Princess Chulabhorn Award สามารถดำเนินการได้อย่างถาวรและเป็นระบบในระยะยาว โดยรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ “Princess Chulabhorn Award” เป็นรางวัลที่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เป็นองค์ประธาน มอบรางวัลให้แก่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ปฏิบัติงาน และ/หรือวิจัย มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ในการควบคุม รักษาและการดูแลโรคมะเร็ง อันก่อให้เกิดประโยชน์แก่มนุษยชาติ ซึ่งมีกำหนดการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีจำนวนผู้ได้รับรางวัลในแต่ละปี จำนวน 1 รางวัล และผู้ได้รับรางวัลจะได้รับโล่รางวัล, ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล จำนวน 50,000 เหรียญสหรัฐฯ
สำหรับมีผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ประจำปี 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 15 คน จาก 8 ประเทศ โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ 3 คณะ ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 ได้แก่ ศ.ดร.นพ.อาแบส อะลาวี ศาสตราจารย์ สาขาวิชารังสีวิทยา โรงพยาบาลแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย รองผู้อำนวยการสาขาวิชา ผู้สูงอายุ คณะแพทยศาสตร์พีเรลแมน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ ซึ่งจะเข้ารับพระราชทานรางวัลฯ ในวันที่ 14 ก.ค.ปี 2567 ณ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทั้งนี้ ศ.ดร.นพ.อาแบส อะลาวี และทีมงานได้เป็นผู้บุกเบิกการใช้ 18 F-FDG ในการถ่ายภาพสมองปกติและความผิดปกติของสมอง และยังได้แนะนำการใช้18 F-FDG สำหรับการถ่ายภาพเพทสแกนในมะเร็ง การติดเชื้อ การอักเสบ หลอดเลือดแข็งตัว การตรวจจับก้อน และความผิดปกติของกล้ามเนื้อ ทั้งนี้ การถ่ายภาพด้วยเพทสแกนได้กลายเป็นวิธีการตรวจวินิจฉัยที่สำคัญสำหรับโรคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็งและความผิดปกติของระบบประสาท งานของเขาได้นำไปสู่การพัฒนาไอโซโทปรังสีที่ปลอดภัยสำหรับการถ่ายภาพ PET และการพัฒนาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์นำเราได้พัฒนาจากการสแกน PET-planar มาสู่ PET-CT และ PET-MRI ในปัจจุบัน ด้วยผลงานตีพิมพ์กว่า 1,500 ฉบับ และการอ้างอิงมากกว่า 75,000 ครั้ง จนได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งเวชศาสตร์นิวเคลียร์”.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่