ทำงานให้ประสบผลสำเร็จ เราต้องมีคู่หูพาร์ตเนอร์ที่ดี แต่จะยิ่งดีถ้าเรามี “คู่เฮง!” ที่จะพากันเฮง เฮง ปัง ปัง นักธุรกิจคู่เฮงคนดังที่หยิบจับอะไรก็งอกเงยเติบโตอย่างก้าวกระโดด คงหนีไม่พ้น “เกศ-ชุติมา เปรื่องเมธางกูร และ แนท-นันทนัช เอื้อศิริทรัพย์” สองเพื่อนซี้ผู้บริหาร บริษัท รวยสบายสบาย จำกัด ที่ใช้เวลาไม่กี่ปีก็สามารถสร้างแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มฮิตติดลมบน ไม่ว่าจะเป็น nice two Meat u ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ที่มีถึง 12 สาขา Fire Tiger by Seoulcial Club ชานมเสือพ่นไฟ มี 13 สาขา, EBOMB ร้านขายแซนด์วิชสไตล์เกาหลี, ร้านอาหารโรงเตี๊ยมเสือพ่นไฟ, Nice two Sea U ร้านอาหารทะเลเกาหลี, Mil Toast House ร้านขนมสไตล์เกาหลี และล่าสุดร้านอาหาร Dalmatian โคเรียนบลันช์ยอดฮิต ซึ่งแต่ละร้านต่างสร้างตำนานการรอคิวมาเกือบทั้งนั้น ซึ่ง คุณเกศ-ชุติมา ออกตัวว่า เกศกับแนท เราทำงานร่วมกันมาทั้งหมด 6 ปีกว่า เอาจริงเราก็ยังไปไม่ถึงครึ่งทางของเป้าหมายที่เราวางไว้ แต่ก็ราบรื่นกว่าที่คิดเอาไว้ ตอนแรกเริ่มไม่ได้คิดว่าจะมีหลายแบรนด์ขนาดนี้ ตั้งใจขยายปิ้งย่างมากกว่า ไม่คิดว่าจะแตกไลน์ เป็นแบบทั้งชานมไข่มุก ฮอตพอต ซีฟู้ดแบบนี้
...
ส่วนที่พากันรุ่งเรืองมาจนถึงวันนี้ ทั้งคู่บอกว่า ถ้าจะดูจริงเราไปคนละขั้ว บางทีก็อาจจะเป็นส่วนที่มาผสมผสานกันได้ดี เราทำงานแบบเติมเต็มสิ่งที่เราขาดมากกว่า
คือถ้าเรื่องไหนเกศถนัด แนทเขาก็จะปล่อยให้เกศจัดการ เรื่องไหนที่แนทถนัด เกศก็จะปล่อยให้แนทจัดการ แต่ถ้าใครต้องการความช่วยเหลือ เราก็จะช่วยกัน หรือถ้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องตัดสินใจเราก็ช่วยกัน ซึ่งเราทั้งคู่พยายามให้ เกียรติซึ่งกันและกัน “ต้องบอกว่าทุกคู่ที่ทำงานร่วมกัน ย่อมต้องมีปัญหาอยู่แล้ว ที่จริงเกศกับแนท ก็มีปัญหาเช้า กลางวันเย็นเหมือนกัน แต่สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจประสบผล สำเร็จผ่านไปได้ คือ เราต้อง compromise เห็นธุรกิจเป็นอันดับหนึ่ง เรื่องอีโก้ ความมั่นใจส่วนตัวก็ต้องลดไป ต้องยอม ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน และต้องให้อภัย พูดตรงๆเลยค่ะว่า เกศมองเงินเป็นที่ตั้ง อย่าทะเลาะกัน ถ้าทะเลาะกัน ประสิทธิภาพการทำงานจะลดลงค่ะ แล้วเวลาทำงานเราทำแบบตุ๊กตาล้มลุก ถ้าเราล้ม เราก็พร้อมลุกขึ้นโดยทันทีค่ะ” สาวเกศบอกอย่างอารมณ์ดีตามสไตล์ของเธอ
อีกหนึ่งคู่ที่พากันเฮง ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล ออร์กาไนเซอร์มือทอง แห่งบริษัทโซนิคยูส และ ท็อป-ดารณีนุช ปสุตนาวิน สองคู่ซี้ ที่ถือคติถ้าจะรวยก็รวยด้วยกัน ซึ่งคู่ซี้นี้นอกจากจะพากันรวยแล้ว ยังรวยน้ำใจที่มีต่อกันระหว่างเพื่อนผู้เป็นคู่หูและหุ้นส่วนอีกด้วย โดย คุณท็อป บอกว่า บริษัท โซนิคยูส นี้ที่จริงก้องเขาเป็นคนเริ่มต้นมากับพี่ๆอีก 2 คน แล้วเขามาดึงท็อปและชุดาภามาเข้าร่วม ในการทำงานท็อปเลยจะเป็นหน่วยเสริมเป็นที่ปรึกษา หรือต้องการความช่วยเหลืออะไรจัดให้เต็มที่ เรียกว่าทำงานไม่เต็มร้อย แต่เพื่อนเมตตาดึงร่วมหุ้น ขณะที่ คุณก้อง กล่าวเสริมว่า ที่จริงอย่าเรียกว่าดึงเราเป็นกลุ่มที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน เรามีความรู้สึกว่า ถ้าทำอะไรก็ทำไปด้วยกัน แล้วโชคดีที่กลุ่มเราไม่คิดถึงผลประโยชน์หรือผลกำไรมากนัก โชคดีที่เพื่อนๆไม่ได้มานั่งคิดว่า งานนี้ต้องได้กำไรเท่านี้ๆ เวลาทำงานทุกครั้งก้องอยากให้ออกมาดี งานทุกงานเหมือนลูกของเรา เวลาเราปั้นออกมาก็อยากทำให้ดีที่สุด เวลาทำงานกับลูกค้า ก้องคิดเลยว่า เขาต้องได้รับการดูแลที่ดี ต้องได้ผลประโยชน์ที่เราทำให้เขา ค้าขายได้กำไร ไม่ใช่สักแต่ทำแล้วจบกันไป ทำให้เขาแล้วก็อยากให้เขาเจริญด้วย
“บริษัทโซนิคยูส เราตั้งมาเกือบ 25 ปี แล้วตอนนี้บริษัทเราก็แตกไปมีทั้งงานอีเวนต์ที่ก้องเป็นตัวหลัก ท็อปก็เป็นที่ปรึกษา แล้วเราก็มาเปิดบริษัททำละคร ให้ช่อง 3 คือ โซนิคบูม และบริษัท ที่ทำรายการให้แก่ช่องอื่นๆ งานละครก็จะมีชุดาภาดูแล รวมทั้งบริษัทที่ทำอิงก์เจ็ตเป็น โซนิค เซตอัป ที่เรามาถึงวันนี้ไม่ตีกัน เชื่อว่ามาจากที่เราคิดเหมือนกัน ศีลเสมอกัน พื้นฐานทั้งหมดมาจากความเป็นเพื่อน ต้นทุนบริษัทอื่นอาจจะเป็นตัวเงิน ทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ แต่ต้นทุนของบริษัทเรา เป็นต้นทุนใจ เราคิดว่า มันเป็นทรัพย์สิน ที่วันหนึ่งถ้ามันสูญหาย หรือแตกแยกกันไป มันเป็นการสูญเสียยิ่งกว่าเงินทอง ทำให้เราต้องรักษามันเอาไว้ เวลาที่เราคุยกันเคลียร์กันเรื่องงาน พวกเราดีอย่าง เคลียร์กันเรื่องงาน ก็จะจบเรื่องงานกันบนโต๊ะ จบแล้วเราก็เหมือนเดิม ต้องแบ่งให้ออก ส่วนใหญ่หุ้นที่ตีกัน เพราะว่าเราตัดความเป็นส่วนตัว กับงานไม่ได้ถ้ามีความรักมีให้กับเพื่อนมันมีมากกว่าคำว่า เงิน มันก็ทำให้เราไปด้วยกันได้” สองเพื่อนซี้ สรุปความรัก ความเฮงที่มีให้แก่กัน.
...