วันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ ใครกำลังจะจัดทริปไปไหว้พระเพื่อเสริมสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัวที่อยุธยา หนึ่งในวัดที่ต้องมา คือ วัดพนัญเชิงวรวิหาร เพราะนอกจากเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งในเมืองเก่าอยุธยาแล้ว วัดแห่งนี้ยังเป็นที่หลอมรวมใจทั้งชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีน ว่ากันว่าหากใครได้มาสักการะองค์ "หลวงพ่อโต" และถวายผ้าห่มองค์พระที่วัดพนัญเชิง จะถือเป็นการทำบุญครั้งใหญ่
เรื่องราวประวัติความเป็นมาของวัดพนัญเชิงฯ นั้นน่าสนใจทีเดียว เราไปทำความรู้จัก เตรียมความรู้ให้แน่นปึ้ก ก่อนเดินทางไปเที่ยวมาฝากค่ะ
: ประวัติความเป็นมา ชื่อวัดพนัญเชิงเกิดจากโศกนาฏกรรมตำนานรัก :
วัดพนัญเชิง เป็นวัดที่มีประวัติอันยาวนานและเป็นวัดที่เลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนชาวไทย-จีน ตั้งอยู่ตำบล คลองสวนพลู ริมแม่น้ำป่าสัก ทางทิศใต้ฝั่งตรงข้ามของเกาะเมือง ห่างจากตัวเมืองราว 5 กิโลเมตร วัดพนัญเชิง เป็นวัดที่มีมาก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง
...
ชื่อ “วัดพนัญเชิง” เกิดจากโศกนาฏกรรมตำนานรัก ตามพงศาวดารเหนือบันทึกไว้ว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้ง กษัตริย์ผู้ครองอโยธยาเป็นผู้สร้างขึ้น ณ บริเวณพระราชทานเพลิงพระศพ พระนางสร้อยดอกหมาก พระราชธิดาบุญธรรมของพระเจ้ากรุงจีน ที่ยกให้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าสายน้ำผึ้ง
หลังรับตัวพระนางสร้อยดอกหมากจากจีนมาถึงอโยธยา พระเจ้าสายน้ำผึ้งรับสั่งให้พระนางรออยู่ในเรือพระที่นั่งและจะทรงจัดขบวนมารับเข้าวัง แต่พระเจ้าสายน้ำผึ้งมิได้เสด็จมารับว่าที่พระอัครมเหสีด้วยพระองค์เอง พระนางสร้อยดอกหมากจึงไม่ยอมขึ้นจากเรือ
เหตุการณ์เป็นเช่นนี้อยู่ 2 ครั้ง พระเจ้าสายน้ำผึ้งจึงรับสั่งสัพยอกทั้ง 2 ครั้งว่า "เมื่อไม่ขึ้นก็จงอยู่ที่นี่เถิด" ด้วยความน้อยพระทัย พระนางสร้อยดอกหมากกลั้นพระทัยถึงแก่สวรรคตทันที จึงเป็นที่มาของชื่อวัดว่า “วัดพระนางเชิง” ต่อมากลายเป็นชื่อ “วัดพนัญเชิง” ซึ่งปัจจุบันภายในวัดยังมีตำหนักเจ้าแม่สร้อยดอกหมากริมแม่น้ำป่าสัก สถานที่ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก หรือชาวจีนเรียกว่า จู๊แซเนี้ย
ในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 วัดพนัญเชิงได้รับความเสียหาย และบูรณะซ่อมแซมมาตลอด กระทั่งสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4 ได้บูรณะใหม่ครั้งใหญ่ ทั้งพระพุทธรูปประจำวัดพนัญเชิงทั้งหมดทุกองค์ รวมถึงอาคารอื่นๆ ภายในวัด ทำให้วัดพนัญเชิงอยู่ในสภาพดีจนถึงปัจจุบัน และมีสถานะเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร
: ประวัติสุดอัศจรรย์ หลวงพ่อโต พระพุทธรูปประจำวัดพนัญเชิง :
ภายในวิหารวัดพนัญเชิงฯ มีจุดโดดเด่นสำคัญ คือ “หลวงพ่อโต” พระพุทธรูปขนาดใหญ่ เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองอยุธยามาช้านาน แต่เดิมชื่อ พระเจ้าพแนงเชิง ชาวจีนนิยมเรียก “เจ้าพ่อซำปอกง” หมายถึงผู้คุ้มครองการเดินทางทางทะเล ต่อมารัชกาลที่ 4 พระราชทานนามใหม่ว่า พระพุทธไตรรัตนนายก
พระพุทธรูป “หลวงพ่อโต” ตามพงศาวดารกล่าวว่า สร้างขึ้นใน พ.ศ.1867 ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา 26 ปี เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ศิลปะอู่ทองตอนปลาย ปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ ขนาดหน้าตักกว้าง 14 เมตร สูง 19.13 เมตร นับว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยาที่ขนาดใหญ่สุดในประเทศไทย
...
เสาเขียนสีลายพุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแย่งสีแดง หัวเสาประดับปูนปั้นรูปบัวกลุ่มกลีบซ้อนกันหลายชั้น บานประตูไม้แกะสลักลอยตัวเป็นลายก้านขดยกดอกนูนออกมา ผนัง 4 ด้านเจาะช่องบรรจุพระพุทธรูป 84,000 องค์เท่าจำนวนพระธรรมขันธ์ เรียกว่า พระงั่ง งดงามชวนตะลึงยิ่งนัก ตามคำให้การชาวกรุงเก่ายังบันทึกไว้ด้วยว่า เมื่อคราวจะเสียกรุงใน พ.ศ.2310 หลวงพ่อโตมีน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย เป็นที่อัศจรรย์นัก
: สถานที่สำคัญอื่นๆ วัดพนัญเชิง ไม่ควรพลาดสักการะ :
ภายในวัดพนัญเชิง ยังมีจุดสำคัญที่ต้องไม่พลาดกราบไหว้ คือ พระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปทอง ปูนและนาค ซึ่งเดิมทีเป็นเพียงพระพุทธรูปปูนปั้นทั้ง 3 องค์ แต่เพิ่งค้นพบภายหลังว่าเป็นทองและนาคเมื่อปูนกะเทาะออก จึงสันนิษฐานว่าก่อนเสียกรุง ชาวบ้านนำปูนมาพอกองค์พระไว้เพื่อป้องกันไม่ให้พม่าเผาลอกเอาทองพระไป
รวมถึงยังมี “วิหารเซียน” อาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าพระวิหารหลวง เดิมมีภาพจิตรกรรมฝาผนังงดงามทั้ง 4 ด้าน แต่ถูกโบกปูนทับเมื่อคราวปฏิสังขรณ์ และมีศาลาการเปรียญ เป็นศาลาไม้ทรงไทย หน้าบันประดับช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ มีภาพพุทธประวัติบนผ้าติดไว้ที่ขื่อ พร้อมลง พ.ศ.2472 กำกับไว้ ภายในมีธรรมาสน์สลักลวดลายแบบรัตนโกสินทร์สวยงามมาก
...
นอกจากนี้ยังมีจุดสำคัญๆ แสดงถึงความเชื่อ ความศรัทธาของคนไทยเชื้อสายจีน อาทิ ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ศาลเจ้าแม่กวนอิม สิ่งเคารพสักการะ เทพเจ้าทางจีนให้กราบไว้ขอพรตามความศรัทธา หลังกราบไหว้ ทำบุญ ถวายสังฆทาน รับพรจากพระสงฆ์ รับสายสิญจน์ รับพรมน้ำมนต์ ไหว้จุดสำคัญๆ ต่างๆ ของวัดแล้ว ยังสามารถทำทานให้อาหารปลาบริเวณท่าน้ำได้
...
: การเดินทางไปวัดพนัญเชิง :
วัดพนัญเชิง เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 07.00 - 17.00 น. คนไทยเปิดเข้าชมฟรี สำหรับชาวต่างชาติเสียค่าเข้าชม 20 บาท นอกจากเดินทางมาท่องเที่ยวในวันที่สะดวกแล้ว ทุกๆ ปี ทางวัดพนัญเชิงก็จัดงานประจำปีอันยิ่งใหญ่ 4 ครั้ง ได้แก่ งานมหาสงกรานต์ งานสรงน้ำและห่มผ้าถวายวันแรม 8 ค่ำ เดือนเมษายน งานทิ้งกระจาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย งานตรุษจีน เปิดวิหารหลวงให้นมัสการหลวงพ่อโตถึง 5 วัน 5 คืน
สำหรับการเดินทางมาวัดพนัญเชิง สามารถใช้บริการเหมารถตุ๊กๆ ภายในตัวเมืองอยุธยา หรือเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ หากขับรถยนต์ส่วนตัว ให้มุ่งหน้ามาทางวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม จากนั้นเลี้ยวซ้ายจนพบวัดใหญ่ชัยมงคล แล้วเลี้ยวขวา และขับรถตรงไปก็จะพบวัดพนัญเชิง
: 7 มาตรฐาน SHA วัดพนัญเชิง ป้องกันโควิด :
สำหรับการท่องเที่ยวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) เพื่อความปลอดภัย ทางวัดพนัญเชิงได้มีมาตรการป้องกันตามมาตรฐานท่องเที่ยวปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) ดังนี้
1. มีจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ หรือจุดล้างมือ
2. ทำความสะอาดสถานที่อย่างสม่ำเสมอ
3. มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิ
4. มีการเช็กอินไทยชนะ
5. นักท่องเที่ยวต้องสวมหน้ากากอนามัย
6. พนักงานต้องสวมหน้ากากอนามัย
7. รักษาระยะห่าง เช่น มีแผ่นกั้นที่เคาน์เตอร์
(ขอบคุณข้อมูล : www.tourismthailand.org, www.palanla.com)
: ข่าวน่าสนใจ :