คนไทยมีความเชื่อเกี่ยวกับฤกษ์งามยามดี รวมถึงฤกษ์คลอดมาตั้งแต่อดีต โดยเชื่อว่าจะ หากทำสิ่งใดตรงกับฤกษ์มงคลจะเสริมสิริมงคล บทความนี้ ไทยรัฐออนไลน์จึงมาอัปเดต “ฤกษ์คลอดเดือนพฤศจิกายน 2567” ฤกษ์ดี ให้คุณพ่อ คุณแม่มือใหม่วางแผนจะคลอดลูกในเดือนพฤศจิกายนนี้ 

ไขข้อสงสัย ทำไมต้องคลอดลูกปีมังกรทอง 2567 

ปี 2567 ตรงกับปีนักษัตรคือ ปีมะโรง หรืองูใหญ่ ตามความเชื่อของชาวไทยเชื่อว่าเป็นปีมงคล เนื่องจากงูใหญ่เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ มีพลัง ในขณะเดียวกันตามความเชื่อของจีนก็เชื่อว่า เป็นปีมังกรทอง ผู้ที่เกิดในปีนี้จะมีความเป็นผู้นำ ฉลาด และนำความโชคดีมายังครอบครัวได้

ฤกษ์คลอดเดือนพฤศจิกายน 2567 ฤกษ์ดี ตรงกับวันไหนบ้าง

แจกฤกษ์คลอดเดือนพฤศจิกายน 2567 สำหรับวางแผนคลอดล่วงหน้า ดังนี้

  • วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 06.39-15.55 น. ตรงกับราชาฤกษ์ 
  • วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา 08.29-17.02 น. ตรงกับภูมิปาโลฤกษ์
  • วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา 08.24-17.50 น. ตรงกับเทวีฤกษ์
  • วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา 08.26-18.39 น. ตรงกับสมโณฤกษ์
  • วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เวลา 06.50-15.25 น. ตรงกับภูมิปาโลฤกษ์

...

ส่องความหมายฤกษ์คลอดเดือนพฤศจิกายน 2567 คลอดวันไหน หมายความว่าอย่างไร

ตามตำราโบราณได้มีการระบุความหมายของฤกษ์มงคลในการคลอดอภิชาตบุตรไว้ต่างกัน ดังนี้

  • ภูมิปาโลฤกษ์ คือ ฤกษ์แห่งความมั่นคง เด็กที่เกิดตรงกับฤกษ์นี้จะมาพร้อมทรัพย์สิน เงินทอง มีทักษะ หรือความสามารถสูง สามารถดูแลตนเองได้
  • สมโณฤกษ์ คือ ฤกษ์แห่งความสงบ เด็กที่เกิดในวันที่ตรงกับฤกษ์นี้ชื่นชอบความสงบ พื้นฐานมักมีนิสัยรักสันโดษ อ่อนโยน มีคุณธรรม และจิตใจดี
  • ราชาฤกษ์ คือ ฤกษ์แห่งความเป็นผู้นำ เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้จะมีความเป็นผู้นำสูง มั่นใจในตนเอง เมื่อโตขึ้นมีเกณฑ์จะได้เป็นเจ้าคนนายคน 
  • มหัทธโนฤกษ์ คือ ฤกษ์แห่งเศรษฐีและความร่ำรวย เชื่อกันว่าเด็กที่เกิดในฤกษ์นี้จะมีทรัพย์สินเงินทองใช้สอย จับจ่ายไม่ขาดมือ 
  • เทวีฤกษ์ คือ ฤกษ์แห่งความสวยความงาม เด็กที่เกิดในฤกษ์นี้จะเพียบพร้อมและโดดเด่นทั้งด้านหน้าตา มีเสน่ห์ เป็นที่น่าค้นหา

ความเชื่อเกี่ยวกับ ฤกษ์คลอดเดือนพฤศจิกายน 2567 อยู่คู่กับสังคมไทยมาเป็นตั้งแต่อดีต ในแง่หนึ่งก็เป็นเหมือนกุศโลบายให้คุณพ่อ คุณแม่มือใหม่สบายใจ ไม่กังวล คลอดง่าย อย่างไรก็ดี นอกจากการดูฤกษ์คลอด 2567 อภิชาตบุตรแล้ว ต้องไม่ลืมที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และคำนึงถึงความปลอดภัยร่วมด้วย