เคล็ดลับเสริมบุญส่งท้ายปี 2566 เริ่มต้นปีใหม่ 2567 ด้วยความเป็นสิริมงคล อ.เชียง ปัณณวิชญ์ เปิดพิกัดสายมู ชวนบูชาพญานาคราช ที่เรียกว่า 2567 เป็นปีที่ลูกหลานสายพญานาคต้องสักการะบูชาโดยด่วน อ.เชียง แนะนำสายมูสักการะ 3 พระเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ ดังนี้

1. จุฬามณีเจดีย์ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ

ความพิเศษของวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ ที่พุทธศาสนิกชนต้องมาร่วมบุญสักครั้ง

  • เป็นพระอารามหลวงแห่งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์
  • เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์แห่ง 3 ยุค กรุงศรีอยุธยา – กรุงธนบุรี – กรุงรัตนโกสินทร์
  • เป็นวัดที่มีสมเด็จพระสังฆราชถึง 4 พระองค์
  • เป็นวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของไทย และเป็นวัดที่ทำสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งแรก
  • เป็นวัดที่มีพระอุโบสถใหญ่ที่สุดในพระนคร และกราบสักการะพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 5 องค์
  • เป็นวัดที่มีต้นพระศรีมหาโพธิ์อายุกว่า 200 ปี จากหน่อต้นทรงตรัสรู้ที่พุทธคยา

2. พระไพรีพินาศเจดีย์ วัดบวรนิเวศวิหาร

พระไพรีพินาศ เป็นพระนามของพระพุทธรูป ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ เก๋งบนชั้นสองด้านทิศเหนือของพระเจดีย์ใหญ่ วัดบวรนิเวศฯ กรุงเทพมหานคร

...

พระไพรีพินาศ เป็นพระพุทธรูปศิลาขนาดย่อม มีขนาดหน้าพระเพลา 33 เซนติเมตร เป็นพระพุทธรูปแบบธยานิพุทธเจ้า ปางประทานพร สมัยศรีวิชัย พระพุทธรูปองค์นี้ มีผู้นำมาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ เมื่อยังทรงผนวชอยู่ราว พ.ศ. 2391 ได้ถวายพระนามว่า “พระไพรีพินาศ”

พระไพรีพินาศเจีดย์ เป็นพระเจดีย์ศิลา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น บรรจุพระพุทธวจนะ ประดิษฐานอยู่ในคูหาภายในพระเจดีย์ใหญ่วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อปีพุทธศักราช 2507 ระหว่างการบูรณะพระเจดีย์ใหญ่ได้เปิดองค์พระไพรีพินาศเจดีย์ดู พบกระดาษสีขาวมีตราแดง 2 ดวง มีอักษรเขียนว่า "พระสถูปเจดียสิลาบัลลังองค์ จงมีนามว่า พระไพรีพินาศเจดีย์เทิญ" อีกหน้าหนึ่งเขียนว่า "เพราะตั้งแต่ทำแล้วมา คนไพรีก็วุ่นวายยับเยินไปโดยลำดับ"

คาถาบูชาพระไพรีพินาศ

อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สุจิรํ ปรินิพฺพุโต
คุเณหิ ธรมาโนทานิ ปารมีหิ จ ทิสฺสติ
ยาวชีวํ อหํ พุทธํ ธมฺมํ สงฺฆ สรณํ คโต
ปูเชมิ รตนตฺตยํ ธมฺมํ จรามิ โสตฺถินา

3. ภูเขาทอง วัดสระเกศ

ประวัติ ภูเขาทองเจดีย์ นั้น ตั้งอยู่ด้านหน้าวัด มีพระระเบียงรอบพระอุโบสถ มีพระเจดีย์รายรอบ ภายในพระระเบียงมีพระพุทธรูปประดิษฐานเรียงกันอยู่เต็มพระระเบียงทั้ง 4 ด้าน มีจำนวนทั้งหมด 163 องค์ ประดิษฐานมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระประธานปางสมาธิ ซึ่งเป็นพระปั้นปิดทองปางสมาธิที่ใหญ่โต พร้อมด้วยความงามสมพุทธลักษณะองค์หนึ่งในกรุงเทพมหานคร เดิมไม่มีพระนาม ต่อมาในปี พ.ศ. 2565 เนื่องในวาระสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ 240 ปี จึงได้รับพระราชทานนามว่า "พระพุทธมงคลชินสีห์วชิรมุนี" เล่ากันมาว่าเป็นการปั้นหุ้มพระประธานองค์เดิมของวัด ซึ่งดูเล็กเกินไปไม่สมกับความใหญ่โตของพระอุโบสถ ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 3 แล้วมาทำการปฏิสังขรณ์เขียนใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 7 ที่ฝาผนังด้านใน สองด้านเบื้องล่างเป็นภาพทศชาติ ด้านบนเป็นภาพเทวดาและท้าวจตุโลกบาล ด้านหน้าเป็นภาพมารวิชัย ส่วนด้านหลังพระประธานเป็นภาพไตรภูมิ คือ สวรรค์ มนุษย์ และนรก

อย่างไรก็ดี อ.เชียง เผยในวันที่ 31 ธ.ค. 2566 เริ่มเวลา 17.00 น. เจริญพระพุทธมนต์ สวดภาวนาข้ามปี รับประพรมน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำคงคา สระมุจรินทร์ และพุทธคยาเจดีย์ ประเทศอินเดีย และในวันที่ 2 ม.ค. 2567 เริ่มต้นศักราชใหม่ 2567 เป็นปีแห่งการสักการะพญานาคราช ชวนสักการะ 3 พระเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ดังที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อเสริมสิริมงคล และเป็นการเสริมขวัญและกำลังใจต้นปี

...