- ความเชื่อตุ๊กตาไล่ฝนของญี่ปุ่นและจีน ความเชื่อสืบต่อมาเป็นประเพณีที่คนท้องถิ่นยังทำจนถึงปัจจุบัน
- ประเพณีปักตะไคร้ของไทยเองก็ไม่น้อยหน้า ปักไปเพื่ออะไร ได้ผลจริงไหม?
- เช็กฮวงจุ้ยและร่มสีมงคล เพื่อให้อยู่กับฝนตกอย่างเป็นสุขและเสริมดวงไปในตัว
คงเคยเล่นกันมาแต่เด็กแล้วหากคุณเกิดทันการ์ตูนเรื่อง อิคคิวซัง นำลูกปิงปองหรือลูกบอลจิ๋ว พันด้วยผ้าขาว มัดลูกปิงปองให้แน่น ใช้ปากกาเติมตาและปากบนให้หัวกลมๆ นำแขวนข้างหน้าต่าง ตามความเชื่อของอิคคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา ซึ่งเป็นตัวแทนความเชื่อคนญี่ปุ่นด้วยว่ามันคือ ตุ๊กตาไล่ฝน ทีนี้เรามาดูประวัติความเป็นมาของเจ้าตุ๊กตาสุดคิวต์ตัวนี้กันว่าเกิดมาได้อย่างไร และสามารถไล่ฝนได้จริงหรือ
ประวัติตุ๊กตาไล่ฝน ตำนานชาวญี่ปุ่นกล่าวขาน
ตามตำราโบราณได้บันทึกไว้ว่า เมืองแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นเจอฝนตกหนักต่อเนื่อง จนเกิดเป็นน้ำท่วมใหญ่ พืชสวนไร่นาเสียหายอย่างหนัก ชาวบ้านในเมืองจึงเริ่มภาวนาขอพรต่อเทพเจ้าให้ฝนหยุดตก แต่คำภาวนาก็ไร้คำตอบ ร้อนถึงเจ้าเมืองต้องออกประกาศหาคนรู้วิธีหยุดฝน หากสามารถทำได้จะมีรางวัลมอบให้
วันหนึ่ง มีพระองค์หนึ่งได้ยินข่าวขอความช่วยเหลือ จึงเร่งเดินทางมาและเสนอตัวว่ามีความสามารถทำให้ฝนหยุดตกได้ พระองค์นั้นได้เริ่มต้นสวดมนต์ สวดมนต์และสวดมนต์ แต่น้ำฝนก็ยังไหลลงมาไม่ขาดสาย เจ้าเมืองเห็นวิธีของพระไม่ได้ผล จึงสั่งลงโทษด้วยการตัดศีรษะ แล้วนำศีรษะคลุมด้วยผ้าขาว แขวนประจารลงโทษ ในข้อหาล่อลวง แต่ปาฏิหาริย์ก็เกิดในวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าก็กระจ่างใส เมฆฝนลอยหาย และฝนก็หยุดตกในที่สุด
...
ประวัติเครื่องรางไล่ฝน ตามความเชื่อของชาวจีน
ไม่ได้มีแต่ญี่ปุ่นเท่านั้นที่มีเครื่องรางเพื่อให้ฝนหยุดตก แต่ชาวจีนเองก็มีเรื่องราวน่าเศร้าเช่นเดียวกัน ตามคำบอกเล่ามีอยู่ว่า ประเทศจีนเคยเจอฝนตกอย่างหนัก น้ำท่วมจนผู้คนล้มตาย ทำมาหากินไม่ได้ ผู้คนก็ภาวนาอ้อนวอนต่อสวรรค์และเทพบนฟ้าให้ช่วยหยุดฝนที่ตกลงมา และแน่นอนฝนไม่ลดความรุนแรงลงเลย
แต่แล้วมีเด็กสาวผู้หนึ่ง นามว่า 'เซ่าฉิงเหนียง' ผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารีและมีความสามารถด้านการตัดกระดาษ (ถือเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมของจีนในการตัด ฉลุ เจาะ กระดาษเพื่อใช้งานมงคลต่างๆ) นางอธิษฐานของพรต่อสวรรค์ให้ช่วยหยุดฝนเสียที สวรรค์ได้ยินคำขอของเซ่าฉิงเหนียง จึงยื่นข้อเสนอให้เซ่าฉิงเหนียงเสียสละชีวิตตัวเองให้แก่สวรรค์ มิเช่นนั้นฝนจะยิ่งตกหนักและเมืองทั้งเมืองจะจมอยู่ใต้น้ำ สุดท้ายแล้วสาวผู้มีจิตใจดียอมสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น วันรุ่งขึ้นฝนก็หยุดตก
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จึงเป็นตำนานและความเชื่อสืบต่อกันมาหากต้องการให้อากาศแจ่มใสไร้ฝน ต้องตัดกระดาษรูปผู้หญิงถือไม้กวาดแขวนไว้ที่หน้าประตู ซึ่งแสดงถึงการระลึกถึงเซ่าฉิงเหนียงและการหยุดตกนั่นเอง
พิธีปักตะไคร้ ความเชื่อของไทย ทำแล้วฝนจะไม่ตก
ให้สาวพรหมจรรย์นำตะไคร้ปักดิน โดยให้โคนตะไคร้ (ส่วนราก) ชี้ฟ้า สวนทางกับการปักตะไคร้เพื่อปลูก โดยจะเชื่อว่า หากทำเช่นนี้จะเป็นการท้าทายเทพยดาบนสวรรค์ โกรธจนสั่งให้ฝนไม่ตกตามวาระที่ควรจะเป็น จึงเป็นความเชื่อที่สืบต่อกันมา เมื่อใครจะทำพิธี จัดงานออกอีเวนต์กลางแจ้ง ก็จะใช้วิธีการปักตะไคร้เช่นนี้เสมอ
อยู่ร่วมกับฝนแบบเสริมดวงให้พุ่ง
ความเชื่อที่เรากล่าวมา แม้จะหยุดฝนได้หรือไม่ได้ผล ก็เป็นประเพณีที่สืบต่อกันมายาวนาน และปัจจุบันก็ยังมีทำกันอยู่บ้าง แต่สำหรับสายมูอย่างเรา เมื่อเราต้องเจอฝนที่ตกกระหน่ำจนเป็นพายุเช่นนี้ก็ควรปรับตัวอยู่ร่วมกันให้ได้ และจะดียิ่งกว่าถ้ารู้จักเสริมดวงให้ปังรับสายฝนด้วย
1. ฝนตกกับราวตากผ้าแทบจะเป็นของที่ตรงข้ามกัน ปรับตัวให้เข้ากันให้ได้ด้วยการเปลี่ยนราวตากผ้าให้เป็นแบบพับเก็บง่าย เมื่อฝนตกก็แค่พับเก็บหรือนำมาตากในที่ร่ม โดยเน้นราวที่วัสดุเป็นไม้และเชือกซึ่งเป็นตัวแทนของธาตุไม้ เสริมพลังแสงอาทิตย์หรือธาตุไฟในบ้าน
2. ฝนพ่วงมากับความชื้นและแมลงกวนใจ แนะนำให้ปลูกต้นไม้ไล่แมลง เช่น พิทูเนีย โหระพา ตะไคร้ โรสแมรี่ เน้นปลูกไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือหรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน จะช่วยเสริมดวงผู้อยู่อาศัยให้เป็นสุขไม่มีสิ่งรบกวน
3. ถ้าต้องออกจากบ้านในวันที่ฝนกระหน่ำ เลือกร่มสีมงคลตามวันเกิด เช่น ผู้ที่เกิดวันจันทร์ควรเลือกร่มสีเหลือง น้ำเงิน ผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืนควรใช้ร่มสีม่วงและแดง เป็นต้น สามารถเช็กสีมงคลได้ตามตารางสีมงคลวันเกิด
...