คอลัมน์ Sustainable Together สัปดาห์นี้ ขอพาท่านผู้อ่านไปรู้จักโครงการ Positive Engagement Program “SME Gear Up ติดปีกธุรกิจด้วย ESG” จัดโดยธนาคารออมสิน เพื่อสนับสนุนและเตรียมความพร้อมให้ SME เปลี่ยนผ่านสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยกรอบแนวคิด ESG (Environment, Social, Governance) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เล่าว่า ธนาคารออมสินยังคงยืนหยัดการเดินหน้าเป็นธนาคารเพื่อสังคม ด้วยการนำกำไรส่วนหนึ่งมาช่วยสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ช่วยคนที่ไม่เคยเข้าถึงเงินกู้ได้ ไม่มีเครดิต ธนาคารออมสินพร้อมจัดให้ และเมื่อมีโอกาสได้พบปะผู้อำนวยการออมสิน จะพูดวลีเดิมๆตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ด้วยความภูมิใจว่า “เป็นลูกค้าออมสิน เท่ากับช่วยสังคม”

ขณะที่ นางสาววชิรา การสุทธิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มยุทธศาสตร์และสื่อสารเพื่อความยั่งยืน เล่าเสริมว่า โครงการ Positive Engagement Program “SME Gear Up ติดปีกธุรกิจด้วย ESG” นั้น เพื่อเสริมแกร่งให้เอสเอ็มอีด้าน ESG ซึ่งจากการพบปะพูดคุยกับเอสเอ็มอีแล้ว พบว่า มีความต้องการที่จะทำธุรกิจให้สอดคล้องกับหลักของ ESG เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ออมสินจึงต้องการเข้าไปช่วยเหลือผ่านโครงการดังกล่าว
โดยมีกระบวนการคัดเลือกผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า 30 บริษัท ในรอบแรก เพื่อเข้ารับการอบรมเชิงลึกผ่านกิจกรรม SME Onboar ding ให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ ESG ในมุมมองของธุรกิจ ตลอดจนกรณีศึกษาจากผู้ประกอบการต้นแบบ
และทำการคัดเลือกผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 9 บริษัท เข้าสู่รอบสุดท้ายในการนำเสนอไอเดียธุรกิจผ่านเครื่องมือ ESG Canvas เพื่อแสดงให้เห็นถึงการนำ ESG ไปปรับใช้กับแผนธุรกิจด้านความยั่งยืนได้อย่างโดดเด่นและเป็นรูปธรรม ครอบคลุมทั้ง 3 มิติตามแนวคิด ESG ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

ทั้งนี้ จากการเวิร์กช็อปและให้ความรู้โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ตลอดระยะเวลา 1 เดือนของโครงการผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เข้ารอบทั้ง 9 บริษัท สามารถนำเสนอไอเดียรอบสุดท้ายได้อย่างโดดเด่น พร้อมนำไปขยายผลธุรกิจของตัวเองต่อไป โดยถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งภายใต้บทบาทธนาคารเพื่อสังคม ในการขยายผลให้เกิด social impact มากขึ้นและเห็นผลเป็นรูปธรรม
สำหรับ 9 สุดยอดผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่มีความโดดเด่นที่สุดในแต่ละด้านตามแนวคิด ESG และได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติไปนั้น ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment Track) ได้แก่ บริษัท แอคทีฟพลัส บลู จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตขนมไทยเกรดพรีเมียมเพื่อส่งออก โดดเด่นจากการบริหารจัดการของเสียเพื่อนำไปสู่ Zero Waste อย่างเป็นรูปธรรม
ด้านสังคม (Social Track) ได้แก่ บริษัท สยามเทคโนอุตสาหกรรม จำกัด ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากผ้าทราย และกระดาษทราย และงานเชื่อมชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดดเด่นจากการมีแผนการบริหารจัดการบุคลากรที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญ ตลอดจนการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
ด้านธรรมาภิบาล (Governance Track) ได้แก่ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและส่งออกน้ำมะพร้าวและน้ำผลไม้ครอบคลุม 7 ภูมิภาคทั่วโลก โดดเด่นจากการมีเป้าหมายและแผนการดำเนินงานด้านธรรมาภิบาลที่ชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้านการบริหารธุรกิจ และการจัดการองค์กร

นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัลรองชนะเลิศและรางวัลชมเชย ให้เอสเอ็มอีที่มีศักยภาพโดดเด่นการนำ ESG มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ อีก 6 รางวัลด้วย
การให้รางวัลเอสเอ็มอีที่มีความโดดเด่นที่เข้าร่วมกิจกรรมนั้น ถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ และเป็นการปลุกพลังเอสเอ็มอีไทย และเป็นอีกหนึ่งกลไกช่วยสร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่