"อายิโนะโมะโต๊ะ" ประกาศแผนงานด้านความยั่งยืนประจำปี 2568 ชูหลัก "วัฏจักรอาหารยั่งยืน" สร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนใน 4 มิติ สอดคล้องเมกะเทรนด์ด้านอาหาร พร้อมเดินหน้าเต็มสปีดลดคาร์บอนและการตรวจสอบได้อย่างเป็นระบบ
วันที่ 28 ก.พ. 68 มีรายงานว่า บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศแผนงานด้านความยั่งยืนประจำปี 2568 โดยชูหลัก "วัฏจักรอาหารยั่งยืน" สร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนใน 4 มิติ

นายสมิชฌน์ เพ็ชร์ดี ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมความยั่งยืน บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว่า หัวใจสำคัญของอายิโนะโมะโต๊ะ คือ การสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจอาหาร มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้เติบโตผ่านการใช้องค์ความรู้ด้าน "AminoScience" มาสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านอาหาร ที่โดดเด่นด้วยรสชาติอร่อย มีโภชนาการที่ดี ควบคู่ไปกับการดำเนินการที่ลดผลกระทบ พร้อมช่วยฟื้นฟูดูแลสิ่งแวดล้อม

โดยเป้าหมายหลักของอายิโนะโมะโต๊ะในปี 2568 จะโฟกัสไปที่ "วัฏจักรอาหารยั่งยืน" ที่มุ่งเน้นไปที่ 4 มิติหลัก ได้แก่
1. จัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างให้เกิดระบบการจัดซื้อวัตถุดิบแบบหมุนเวียนและยั่งยืน บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการบรรลุผลสำเร็จให้ได้ 75% ภายในปี 2568 โดยมุ่งเน้นเรื่องการติดตามและทำการตรวจสอบกลับได้ ซึ่งรวมถึงการจัดหาวัตถุดิบที่ยั่งยืน และไม่ไปรุกล้ำระบบนิเวศหรือรบกวนสิ่งแวดล้อม สำหรับเมล็ดกาแฟ บริษัทฯ จะรับซื้อเมล็ดกาแฟจากไร่ที่มีคุณภาพตาม "หลักปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP)" กับกรมส่งเสริมการเกษตร
2. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีการดำเนินงานตามแนวทาง Ajinomoto Bio-cycle ที่เป็นกลไกความร่วมมือกับภูมิภาคท้องถิ่นเพื่อสร้างกระบวนการจัดการการผลิตและการเกษตรอย่างยั่งยืน ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยโรงงานการผลิตทั้งหมด 7 แห่งเป็นโรงงานสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำหลัก 3Rs (Reduce, Reuse, Recycle) มาใช้ในการจัดการภายในโรงงาน
ในปีนี้ อายิโนะโมะโต๊ะได้ตั้งเป้าหมายในการตรวจสอบ carbon footprint ที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรคู่ค้าเพื่อการดำเนินงานลดคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง

3. การลดพลาสติก บริษัทฯ มุ่งเน้นการลดพลาสติกในบรรจุภัณฑ์ ด้วยการลดการใช้พลาสติกใหม่ และเลือกใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ อีกทั้งยังส่งเสริมการรีไซเคิลอย่างเป็นรูปธรรม
4. การลดขยะอาหาร ปัจจุบัน 6 โรงงานของอายิโนะโมะโต๊ะสามารถพิชิตเป้าหมายการลดขยะอาหารได้ 100% ส่วนโรงงานเบอร์ดี้สามารถลดขยะอาหารได้สำเร็จ 82% ซึ่งนับเป็นผลสำเร็จที่ก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

นายนพดล จิตรมั่น ผู้จัดการหน่วยงานผลิตและพัฒนา บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ เอฟ ดี กรีน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เราเป็นบริษัทต้นแบบทางธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่มีการดำเนินงานหลัก 2 ส่วนด้วยกัน คือ
1. การเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์การเกษตร โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้ที่ได้จากกระบวนการผลิตมาพัฒนาเป็นปุ๋ยชีวภาพทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์สำหรับพืช และอาหารสำหรับสัตว์ โดยปีที่ผ่านมา สามารถสร้างการเติบโตของยอดขายได้ถึง 30%

2. การสานต่อโครงการ "Thai Farmer Better Life Partner" เป็นปีที่ 5 เพื่อยกระดับผลผลิตและความรู้แก่เกษตรกรไทย ปัจจุบันมีพี่น้องเกษตรกรเข้าร่วมทั้งหมด 1,300 ครัวเรือน โครงการนี้ช่วยให้ผลผลิตมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น 30% โดยเป้าหมายในปี 2573 บริษัทฯ มุ่งดำเนินธุรกิจแบบ Net Zero พร้อมขยายวัตถุดิบทางการเกษตรที่ตรวจสอบกลับได้เพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนเพาะปลูกไปจนถึงหลังเสร็จสิ้นกระบวนการผลิต เพื่อให้สามารถดำเนินการลด CO2 scope 3 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ โครงการมันสำปะหลังสู่ความยั่งยืน, โครงการ Green Coffee Bean (GCB) Farmer Sustainability
สำหรับ "เมกะเทรนด์ธุรกิจอาหารและความยั่งยืน" พบว่าอุตสาหกรรมอาหารท้องถิ่นและทั่วโลกจะต้องปรับตัวเพื่อความยั่งยืน 1 ในการรับมือกับอุปสรรคจากสภาพอากาศรุนแรง และนวัตกรรมเทคโนโลยี โดยพบว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับธุรกิจหรือแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มจะต้องมีแนวทางที่ชัดเจนด้านการดำเนินงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีเกษตรที่สร้างความยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ นอกจากนี้ ผู้บริโภคจะให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพและความสุขของตัวเอง พร้อมกับใส่ใจอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเป็นหลัก
เช่นเดียวกับ "เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่" ในวงการอาหารและเครื่องดื่มปี 2568 ที่จะให้คุณค่ากับแบรนด์หรือสินค้า โดยพิจารณาจากคุณภาพและความโปร่งใส มีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ สร้างพลังบวก ทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยสร้างสรรค์สุขภาพที่ดี เพราะการได้กินอาหารอร่อย สุขภาพใจก็ดีขึ้น.