เด็กชนเผ่า บ้านอยู่บนดอย การเดินทางยากลำบาก ต้องใช้ทั้งรถ ทั้งเรือนาน 2-3 ชั่วโมงกว่าจะถึงโรงเรียน นี่คืออุปสรรคครบสูตรที่ทำให้เด็กเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมากเข้าไม่ถึงระบบการศึกษา แต่สำหรับคุณครูณัฏฐนันท์ เพชรสกุลศิริ ในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 33 (บ้านทุ่งพร้าว) และครอบครัวไม่ยอมหยุดตัวเองไว้กับอุปสรรคเหล่านั้น ด้วยการพยายามหาหนทางไปเรียนหนังสือ ตั้งแต่เข้าเรียนในชั้นอนุบาล ไปจนถึงประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา จนถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้กับอาชีพการเป็นคุณครู
คุณครูณัฏฐนันท์ ในวัย 28 ปี ปัจจุบันเป็นพนักงานราชการ ในฐานะครูผู้ช่วยสอนที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 59 อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เล่าย้อนชีวิตในวัยเด็กว่า บ้านเกิดอยู่บนดอย ที่อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีเครือญาติและเพื่อนบ้านอยู่ด้วยกัน 20 หลังคาเรือน เป็นหมู่บ้านที่ไม่มีโรงเรียน ถ้าใครอยากเรียนหนังสือก็ต้องแลกกับการเดินทางที่ยากลำบาก
ถ้ามาเรียนในตัวอำเภอเมืองแม่สะเรียง ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือ และรถ 2-3 ชั่วโมง อุปสรรคในการเดินทางนี้ ทำให้ครอบครัวของคุณครูณัฏฐนันท์ลังเลที่จะให้เด็กหญิงตัวน้อยเดินทาง หรือมาพักไกลบ้านเพื่อเรียน จึงเข้าเรียนช้ากว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกัน กว่าจะเข้าเรียนอนุบาล ก็รอถึงอายุ 7 ขวบ ขณะที่เด็กทั่วไปได้เข้าเรียนอนุบาลตอนอายุ 4-5 ขวบ เพราะญาติที่อยู่ในอำเภอแม่สะเรียงเห็นว่า ถึงวัยควรเรียนหนังสือแล้ว จึงชวนไปอยู่ที่บ้านด้วยกันและเรียนพร้อมกับญาติอีกคนหนึ่ง
ความยากของเด็กชนเผ่า ที่ใช้ภาษาถิ่นตั้งแต่เกิด ทำให้ต้องเริ่มเรียนรู้ใหม่ในการใช้ภาษาไทยเพื่อสื่อสาร และการที่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทยในขณะนั้นก็ยิ่งทำให้เข้าถึงโอกาสต่างๆ ยาก เช่น การรับทุนการศึกษาที่จำกัดเฉพาะเด็กนักเรียนสัญชาติไทย เป็นต้น
แต่ความพยายามก็ทำให้ผ่านการเรียนมาได้อย่างดีในแต่ละช่วงเวลา ตั้งแต่อนุบาล จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตั้งแต่โรงเรียนอนุบาลท่าข้าม อำเภอแม่สะเรียง โรงเรียนอนุบาลบ้านโป่ง จนมาถึงโรงเรียนบ้านแม่เงา โรงเรียนไทยรัฐวิทยากับหลักสูตรเพื่อการใช้ชีวิต
การเรียนรู้ และประสบการณ์ชีวิตที่ไทยรัฐวิทยา
มาถึงช่วงเวลาสำคัญ เมื่อมีโอกาสได้เข้าเรียนที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 33 (บ้านทุ่งพร้าว) ที่มีมูลนิธิไทยรัฐอุปถัมภ์ ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามคำแนะนำของญาติ และรุ่นพี่ที่เรียนอยู่แล้วว่าที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยาให้โอกาส ที่ให้การสนับสนุนทั้งที่พัก และมีอาหารกลางวันให้นักเรียน
“ที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ได้เรียนในชั้นม.1 ถึง ม.3 เป็นช่วงที่เข้าสู่วัยรุ่น ทางโรงเรียนเห็นถึงความสามารถหลายอย่าง เช่น มีลายมือสวย คุณครูก็ให้ไปทำกิจกรรม ทำหนังสือเล่มเล็ก เรียนดนตรี อยู่วงดุริยางค์ ได้ฝึกเป็นพิธีกรงานโรงเรียน และเป็นประธานนักเรียนตอนชั้น ม.3 เป็นช่วงที่ได้ประสบการณ์หลายอย่าง มีความกล้าแสดงออก” คุณครูณัฏฐนันท์ เล่าถึงช่วงชีวิตระหว่างที่เรียนชั้นมัธยมที่เต็มไปด้วยพลังของการเรียนรู้ จนเป็นแรงส่งให้ไปต่อในระดับมัธยมปลาย และมหาวิทยาลัยได้อย่างที่ตั้งใจ
หลังจากจบ ม. 3 อาจารย์เกษม อัยกร ผู้อำนวยการโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 33 และคุณครูหมู หรือ ครูปรีชา สอนมาลา ครูภาษาไทย โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 33 ก็สนับสนุนให้ไปเรียนต่อมัธยมปลายที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ เชียงใหม่ เมื่อเรียนจบ ม.6 ก็เข้าเรียนต่อที่คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ช่วงนั้นได้รับสัญชาติไทยหลังจากพยายามมานานในการดำเนินการขอสัญชาติไทยนับตั้งแต่จำความได้
การเดินทางของเด็กชนเผ่าอย่างคุณครูณัฏฐนันท์ ที่วันนี้เติบโต ได้เป็นคุณครูตามความฝัน และกำลังทำหน้าที่แม่พิมพ์ของชาติในพื้นที่ห่างไกลที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนยังมองเห็นว่า มีเด็กที่ยังขาดโอกาสในการศึกษาอีกจำนวนมาก และระบบการศึกษาเข้าไม่ถึงนักเรียน และโรงเรียนที่ห่างไกล
ขณะเดียวกันคุณครูณัฏฐนันท์ ก็ถ่ายทอดความรู้สึกที่ได้โอกาสเรียนที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 33 ว่าเป็นช่วงเวลาที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ จากเด็กที่ไม่มีโอกาส แต่ที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 33 ได้เปิดโอกาสให้กล้าแสดงออก เพราะคุณครูของโรงเรียนสนับสนุนเต็มที่
ในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนไทยรัฐวิทยาคุณครูณัฏฐนันท์ จึงไม่เพียงได้รับความรู้ด้านวิชาการ แต่วิชาการใช้ชีวิตก็ได้รับอย่างเต็มที่ ตามปณิธานของผอ.กำพล วัชรพล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และก่อตั้งโครงการโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ที่มุ่งหวังให้เป็นสถานศึกษาเพื่อชุมชนในพื้นที่ห่างไกล สร้างโอกาสที่เท่าเทียมในการศึกษา ทำให้มีเยาวชนมีความรู้และเป็นคนดีเพื่อสังคม
จากประสบการณ์ของคุณครูณัฏฐนันท์ ยังพิสูจน์ให้เห็นว่า หากมีความฝัน ความตั้งใจ และการพึ่งพาตัวเองอย่างเต็มที่ จะทำให้ประสบความสำเร็จได้อย่างที่ต้องการ
“ถ้าเกิดมีความฝัน จะประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องพยายาม ต้องเริ่มจากตัวเราเอง พึ่งพาตัวเองก่อนจะไปพึ่งพาคนอื่น ถ้าเราพึ่งพาตัวเองแล้ว จะมีคนเห็นความพยายามของเรา คนที่เห็นความพยายามของเราก็จะสนับสนุน และให้โอกาสเรา ช่วยให้เราประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้”
อ่านเรื่องราวศิษย์เก่าโรงเรียนไทยรัฐวิทยาเพิ่มเติม :