• Future Perfect
  • Articles
  • TGO รับรองปริมาณคาร์บอนเครดิตรอบ 3 ใน 76 จังหวัด

TGO รับรองปริมาณคาร์บอนเครดิตรอบ 3 ใน 76 จังหวัด

Sustainability

ความยั่งยืน30 ส.ค. 2567 16:17 น.

ปลัด มท. และนายกสมาคมแม่บ้าน มท. ปลื้ม TGO รับรองปริมาณคาร์บอนเครดิตรอบ 3 ใน 76 จังหวัด รวม 277,951 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า พร้อมเชิญชวนภาคเอกชนร่วมสนับสนุนรับซื้อคาร์บอนเครดิต

วันที่ 30 ส.ค. 67 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เปิดเผยถึงความสำเร็จของการขับเคลื่อน "โครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน" ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งได้รับแจ้งจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO เกี่ยวกับมติของคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ได้อนุมัติรับรองปริมาณคาร์บอนเครดิตของโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน รอบที่ 3 ในพื้นที่ 76 จังหวัด จำนวน 277,951 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งเป็นข้อมูลการรับรองปริมาณในรอบ 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน - กันยายน 2566 อันแสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของพี่น้องประชาชนในทุกครัวเรือนเป้าหมายที่สามารถร่วมกันลดการปลดปล่อยปริมาณก๊าซเรือนกระจกผ่านการใช้งานถังขยะเปียก ลดโลกร้อน โดยปริมาณดังกล่าวเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 22 ล้านต้น หรือเป็นการสร้างพื้นที่ป่าได้กว่า 24,000 ไร่

นอกจากนี้ คาร์บอนเครดิตที่เกิดขึ้นยังสามารถสร้างมูลค่าเป็นเม็ดเงินกลับคืนสู่ชุมชนได้กว่า 55 ล้านบาท โดยเงินเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นรายได้แก่ทุกท้องถิ่นไปพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชน

"กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการขับเคลื่อน "โครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน" ร่วมกับพี่น้องภาคีเครือข่าย ซึ่งนับตั้งแต่ครั้งแรกของการประกาศความสำเร็จการรับซื้อคาร์บอนเครดิตจากชุมชนนำร่อง 4 จังหวัด คือ จังหวัดลำพูน สมุทรสงคราม เลย และจังหวัดอำนาจเจริญ ในโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเดือนมิถุนายน 2566 เป็นจำนวน 3,140 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เป็นเงิน 816,400 บาท โดยธนาคาร KBANK ต่อมาในครั้งที่ 2 ในเดือนมิถุนายน 2567 ได้มีการซื้อขายคาร์บอนเครดิต 12 หน่วยงาน ได้มีการรับซื้อคาร์บอนเครดิต จำนวน 9,205 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เป็นจำนวนเงินกว่า 2 ล้านบาท และในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 ที่ TGO ได้ทำการรับรองปริมาณคาร์บอนเครดิต จำนวน 277,951 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ราคาตันละ 200 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 55,590,200 ล้านบาท" นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ความสำเร็จที่ยั่งยืนในการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนทุกท้องถิ่นได้เกิดแรงจูงใจในการขับเคลื่อน "โครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน" เพื่อร่วมดูแลให้โลกใบเดียวนี้ของพวกเราทุกคนคงอยู่อย่างยั่งยืนได้ โดยมีภาคธุรกิจเอกชน เป็นกำลังสำคัญในการสร้างแรงจูงใจ สร้างกำลังใจของพี่น้องประชาชนจนส่งผลให้เกิดการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยการบริจาคเม็ดเงินลงไปให้การสนับสนุนซื้อคาร์บอนเครดิตจากพี่น้องประชาชน ซึ่งเงินทุกบาท ทุกสตางค์ ไม่ได้กลับเข้าเป็นรายได้ของแผ่นดิน แต่จะกลับไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำแนกเป็นรายครัวเรือน

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการ "ธนาคารขยะ (Recyclable Waste Bank)" ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 7,849 แห่ง โดยมีกลไกคณะทำงานธนาคารขยะประจำชุมชน/หมู่บ้าน และอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) ทุกครัวเรือน ร่วมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในจังหวัดร่วมขับเคลื่อน ซึ่งจากข้อมูล ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2567 มีธนาคารขยะที่จัดตั้งเรียบร้อยแล้ว จำนวน 14,953 แห่ง สมาชิกธนาคารขยะทั่วประเทศ 1,866,710 คน มีปริมาณขยะที่ขายได้ทั่วประเทศแล้วรวมทั้งสิ้น 1,782,390.99 ตัน คิดเป็นรายได้รวม 1,013.81 ล้านบาท โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวจัดทำเป็นสวัสดิการให้แก่สมาชิก เช่น ค่าฌาปนกิจ ค่าคลอดบุตร ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ เป็นเงินรวม 809.36 ล้านบาท คงเหลือเงินหมุนเวียนธนาคารขยะ 204.45 ล้านบาท

นอกจากนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังได้สนับสนุนให้ประชาชนได้มีการคัดแยกขยะรีไซเคิลในครัวเรือน และสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำแนวคิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ในการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยภายใต้หลักการ 3ช (3Rs) คือ ใช้น้อย (Reduce) ใช้ซ้ำ (Reuse) และนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) พร้อมทั้งรณรงค์สร้างความรับรู้ความเข้าใจและปลูกฝังจิตสำนึกให้ประชาชนในทุกพื้นที่มีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะและคัดแยกขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิลหรือไปขายเพื่อให้มีรายได้สู่ชุมชน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชนและสามารถนำรายได้ไปจัดสวัสดิการสังคมในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง.

SHARE

Follow us

  • |