"ฮาว-ทู-ทิ้งเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า" ชวนรู้จัก "แลกเก่าเพื่อโลกใหม่" แคมเปญสุดกรีนจากโฮมโปร ที่ให้เราเลือก "เปลี่ยนของใหม่-แลกข้ามได้ ภายในหมวด" ให้ชีวิตง่ายขึ้นแบบไม่รู้สึกผิด
วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 มีรายงานว่า โดยทั่วไปแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่เราใช้เป็นประจำ อาทิ ทีวี เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ หรือตู้เย็น จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 11-12 ปี จึงจะถึงช่วงเวลาที่ต้องเปลี่ยนใหม่ เพื่อความปลอดภัยสำหรับการใช้งาน และเป็นการช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า
ทว่าในปัจจุบันที่ทุกคนต่างก็ให้ความสำคัญกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้การทิ้งซากเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง และต้องคำนึงถึงการจัดการที่ถูกวิธี รวมถึงข้อจำกัดด้านอื่นๆ อย่างค่าใช้จ่าย, การรื้อถอน ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หลายคนเกิดความลังเลในแต่ละครั้งที่คิดจะเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่เช่นกัน
โดย นางสาวเสาวณีย์ สิราริยกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการกลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ "โฮมโปร" เผยว่า โฮมโปรให้ความสำคัญกับการจัดการเรื่องขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างมาก ซึ่งโฮมโปร ในฐานะผู้ประกอบการค้าปลีกสินค้าและบริการเรื่องบ้านครบวงจร ที่ใกล้ชิดกับผู้บริโภค เรามองเห็นถึง pain point และพยายามคิดหาแนวทางจัดการปัญหานี้ให้กับลูกค้า โดยใช้ช่องทางสโตร์โฮมโปรและเมกาโฮมที่มีอยู่กว่า 100 สาขาทั่วประเทศ เพื่อรับเอาซากเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าจากบ้านลูกค้าไปจัดการอย่างถูกวิธีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีบุคลากรที่มีใบรับรองถอดแยกซากเครื่องใช้ไฟฟ้าตามกฎหมาย เป็นผู้ดำเนินการ
ซึ่งก่อนหน้านี้ วิธีการจัดการเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่คนส่วนใหญ่ทำ คือ การนำซากเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่าหรือรถเร่ ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้น จะถูกนำไปซ่อมแซมเพื่อขายต่อเป็นสินค้ามือสอง หรือถูกคัดแยกส่วน วัสดุมีค่าอย่างพลาสติกหรือโลหะจะถูกคัดแยก เพื่อนำไปขายต่อให้กับโรงงาน ส่วนเศษวัสดุที่เหลือจากการคัดแยกมักถูกนำไปฝังกลบ เทกอง หรือเผาทำลาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยอย่างรุนแรง
"ที่โฮมโปร เรามีการศึกษาอย่างจริงจังถึงการกำจัดซากเครื่องใช้ไฟฟ้าร่วมกับวิธี Upcycle และ Downcycle โดยในเครื่องใช้ไฟฟ้าหนึ่งเครื่อง เราจะแยกวัสดุเหล็ก ทองแดง พลาสติก และอื่นๆ ออกจากกันอย่างถูกวิธี ก่อนนำไปเข้าโรงหลอมที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ เพื่อผลิตเป็นสินค้าใหม่และนำไปใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน พร้อมช่วยให้ผู้บริโภคมีชีวิตที่ดีและสะดวกสบายมากขึ้น จากการไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการของเก่า และยังได้สินค้าใหม่คุณภาพดีไปใช้งาน"
นอกจากนี้ โฮมโปร ได้ออกโครงการ "แลกเก่าเพื่อโลกใหม่" หรือ "Trade-In" ซึ่งทำมาต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2566 ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ อีกทั้งผู้บริโภคสามารถนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่ไม่ใช้แล้ว มาเปลี่ยนเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ ผ่าน 4 ขั้นตอน ณ จุดขายที่โฮมโปรและเมกาโฮมทุกสาขา ทั่วประเทศ อีกทั้ง เครื่องใช้ไฟฟ้าที่นำมาแลก สามารถแลกข้ามประเภทสินค้าภายในหมวดเดียวกันได้ แบ่งเป็น
- หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ได้แก่ ทีวี, เครื่องซักผ้า, เครื่องปรับอากาศ, ตู้เย็น
- หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ได้แก่ เครื่องดูดฝุ่น, เตารีด, ไมโครเวฟ, เครื่องปั่น, เครื่องฟอกอากาศ, หม้อทอด, หม้อหุงข้าว, เครื่องทำกาแฟ
- หมวดประปา ได้แก่ ปั๊มน้ำ, เครื่องกรองน้ำ, ตู้น้ำดื่ม, เครื่องทำน้ำอุ่น
- หมวดห้องน้ำ ได้แก่ ก๊อกน้ำ, ฝักบัว
- หมวดเครื่องมือทำสวน ได้แก่ รถตัดหญ้า, เครื่องเล็มหญ้า, เครื่องตัดแต่งพุ่ม, เลื่อย, เครื่องเป่าใบไม้
- หมวดเครื่องมือช่าง ได้แก่ เลื่อย, สว่าน, เครื่องฉีดน้ำ, เครื่องเป่าลม, เครื่องเจีย
โดยสามารถแลกรับส่วนลดสูงสุดถึง 10,000 บาท และสิทธิผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 24 เดือน พร้อมบริการติดตั้งสินค้าใหม่ถึงบ้าน และรื้อถอนสินค้าเก่าที่ต้องการแลกภายใต้โครงการ "แลกเก่าเพื่อโลกใหม่" หรือ "Trade-In" โดยช่างมืออาชีพจากโฮมโปรและเมกาโฮม (แคมเปญฯ เริ่มตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2567 นี้)
“ด้วยจุดประสงค์ของโฮมโปร คือ การสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของลูกค้าได้อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน หรือ “We Make a Better Living” ตลอดจนมุ่งเน้นสร้างธุรกิจพลังงานสะอาดตลอดระบบนิเวศ รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น “ลูกค้า-พันธมิตร” ให้ตระหนักและมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050” นางสาวเสาวณีย์ กล่าว
ผู้บริโภคสามารถเข้าร่วมโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” หรือ “Trade-In” นำสินค้าเก่าที่ไม่ใช้แล้ว แม้สภาพไม่สมบูรณ์ และไม่จำเป็นต้องซื้อจากโฮมโปร ก็สามารถนำมาแลกเป็นสินค้าใหม่ได้ Better Life - เพื่อชีวิตที่ดีกว่าและยั่งยืน ได้ที่โฮมโปรและเมกาโฮม ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2567 นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1284.