• Future Perfect
  • Articles
  • "จระเข้" ผนึก "กรมทะเล" นำร่องปลูกป่าชายเลน 63.5 ไร่ ลุยสร้างคาร์บอนเครดิต

"จระเข้" ผนึก "กรมทะเล" นำร่องปลูกป่าชายเลน 63.5 ไร่ ลุยสร้างคาร์บอนเครดิต

Sustainability

ความยั่งยืน9 ก.ค. 2567 14:18 น.

"จระเข้" ชูนโยบายยั่งยืน จัดกิจกรรม Jorakay Green Earth ผนึก "กรมทะเล" นำร่องปลูกป่าชายเลน 63.5 ไร่ ในจังหวัดตรัง ลุยสร้างคาร์บอนเครดิต-เปิดกลยุทธ์ 5SD สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จัดกิจกรรม "Jorakay Green Earth : พาหัวใจสีเขียวไปร่วมปลูกป่า" นำร่องปลูกป่าชายเลนบนพื้นที่กว่า 63.5 ไร่ ณ แปลงปลูกป่าชายเลน บ้านทอนนาหมู และบ้านทอนในแสง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดยรวมพลังทีมผู้บริหาร พนักงานอาสา อาสาสมัครในพื้นที่ ร่วมปลูกต้นพังกาหัวสุมดอกแดง ต้นโกงกางใบเล็ก ต้นโกงกางใบใหญ่ และต้นฝาดดอกแดง รวมกว่า 45,000 ต้น พร้อมร่วมดูแลป่าชายเลนผืนนี้ เป็นระยะเวลา 10 ปี

โดยดำเนินโครงการปลูกป่าชายเลน ภายใต้การผนึกกำลังกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและภาคีเครือข่ายป่าชายเลนประเทศไทย (Thailand Mangrove Alliance) โดย "จระเข้" เป็นหนึ่งใน 33 องค์กรในภาคีที่ลงนามบันทึกความร่วมมือ เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ-สร้างคาร์บอนเครดิตผ่านโครงการปลูกป่าชายเลนในหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ คาดผืนป่าขนาด 63.5 ไร่ จะช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 600 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าตลอดระยะเวลา 10 ปี

กิจกรรม "Jorakay Green Earth : พาหัวใจสีเขียวไปร่วมปลูกป่า" สะท้อนการสานต่อนโยบายด้านความยั่งยืนแบบครบวงจรของจระเข้ โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้เปิดตัว Jorakay Green Pack นวัตกรรมถุงกาวซีเมนต์โฉมใหม่ฉบับรักษ์โลก ซึ่งใช้วัสดุรีไซเคิลถึง 70% และลดความหนาของพลาสติกลง 60% พร้อมลดการใช้หมึกบนฉลากสินค้า ซึ่งบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิตได้มากถึง 49% นอกจากนี้ จระเข้ ยังเปิดกลยุทธ์ 5SD แนวทางสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน 5 ข้อ ให้ความสำคัญกับการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน ตั้งแต่กระบวนการผลิตสินค้าต้นทางจนถึงปลายทางอย่างแท้จริง

นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยว่า กิจกรรม Jorakay Green Earth เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของจระเข้บนเส้นทางการสร้างธุรกิจ ที่ยั่งยืนควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ

เราตระหนักถึงคุณค่าของป่าชายเลนต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่เป็นทั้งแหล่งอาหาร และที่อยู่อาศัยของสัตว์หลายชนิด สร้างความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity) ให้กับระบบนิเวศ ทั้งยังเป็นแนวป้องกันการพังทลายชายฝั่ง จากคลื่นลมและกระแสน้ำ และอีกหนึ่งบทบาทสำคัญคือ การช่วยดูดซับคาร์บอนออกจากบรรยากาศ นอกจากนี้ ดินชุ่มน้ำในป่าชายเลน ยังช่วยกักเก็บคาร์บอนได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลก ประสบความสำเร็จในการสร้างคาร์บอนเครดิต จากการฟื้นฟูป่าชายเลน ซึ่งเราเล็งเห็นว่าเป็นโอกาสดีในการส่งเสริมให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมช่วยโลกได้ ในวันนี้ เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และเป็นหนึ่งในภาคีเครือข่ายป่าชายเลนประเทศไทย เพื่อนำร่องปลูกป่าชายเลนบนพื้นที่กว่า 63.5 ไร่ร่วมกับพนักงานจิตอาสาและพี่น้องชาวจังหวัดตรัง พร้อมสนับสนุนงบประมาณให้แก่ชุมชน ในการร่วมดูแลรักษาป่าชายเลนผืนนี้ต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี มุ่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสร้างระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ในระยะยาว

โครงการปลูกและดูแลป่าชายเลนครั้งนี้ สะท้อนความพร้อมของจระเข้ ในการสร้างคาร์บอนเครดิต และมุ่งสู่องค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอนในอนาคต โดยจระเข้ดำเนินงานผ่านกลยุทธ์ 5SD ซึ่งเป็น 5 แนวทางที่มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในทุกขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้แก่ กระบวนการผลิต เราเลือกใช้วัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ Jorakay Green Pack นวัตกรรมถุงกาวซีเมนต์รักษ์โลก

ไปจนถึงปลายน้ำ คือการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมนวัตกรรม ที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการต่อยอดเป็นโครงการ เพื่อยกระดับชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างกิจกรรม Jorakay Green Earth ในวันนี้เป้าหมายของเราคือการปักหมุดนโยบายความยั่งยืนที่ครบลูป เพื่อร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างสีเขียว และช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน

นอกจากนี้ จระเข้ ยังเผยเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 5 ข้อ (5SD) ซึ่งเป็นแนวทางเพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความสุขให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว และสร้างสมดุลในการอยู่ร่วมกัน ได้แก่

1. ลดการปล่อย CO2 : มุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตและการดำเนินงานทั้งหมด เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนและผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ

2. ลดปริมาณขยะและของเสีย : จัดการขยะและของเสียอย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงการรีไซเคิลขยะให้เกิดประโยชน์และลดปริมาณขยะที่ไม่จำเป็น

3. ลดการใช้สารพิษ : ลดการใช้และการปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายในกระบวนการผลิต รวมถึงเสาะหาทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานและชุมชน

4. เพิ่มสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : พัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและผลักดันยอดขายผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลด้านความยั่งยืน

5. สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิต : สนับสนุนกิจกรรมที่ยกระดับคุณภาพชีวิตครอบคลุมด้านการศึกษา สุขอนามัย และสิ่งแวดล้อมเดินหน้าทำงานร่วมกับชุมชนและองค์กรเพื่อสร้างผลกระทบที่ดีและสร้างความสัมพันธ์และสร้างสังคมที่ดีร่วมกันอย่างยั่งยืน.

SHARE

Follow us

  • |