โลกออนไลน์ แห่แชร์ภาพถ่ายจากดาวเทียมพบจุดความร้อนสีแดงในประเทศเพื่อนบ้านพรึ่บ ล้อมรอบประเทศไทยอย่างหนาแน่น
วันที่ 21 มี.ค. 67 มีรายงานว่า จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา หลายพื้นที่ของ กทม. และบางพื้นที่ใกล้เคียงมีคนได้กลิ่นเหม็นไหม้ ส่งผลให้แฮชแท็ก #กลิ่นไหม้ พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ (X) ซึ่งต่อมาทาง ทวิตเตอร์ (X) เพื่อนชัชชาติ ได้ชี้แจงถึง 3 สาเหตุกลิ่นไหม้ ได้แก่
1. ทิศทางลมวันที่ 20 เป็นทิศตะวันออก (ตามภาพ) ซึ่งต่างจากวันอื่นๆ ช่วงนี้ที่มาจากอ่าวไทย ส่วนจุดเผาในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมาพบที่ปริมณฑลหลายจุด
2. ระยะนี้สภาพอากาศแปรปรวน มีพายุฤดูร้อน ประกอบกับมีความกดอากาศสูงผ่านทางอีสานมาเมื่อวาน ส่งผลให้ความสูงของชั้นบรรยากาศผสม (Mixing Height) ลดต่ำลง ฝุ่นละอองเกิดการสะสมตัวเพิ่มมากขึ้น
3. ความชื้นในบรรยากาศทำให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 ทุติยภูมิ (Secondary PM 2.5) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชนิดที่เกิดจากพวกสารประกอบไนโตรเจนและแอมโมเนียจะเกิดปฏิกิริยาได้ดีในสภาวะที่มีความชื้นสูง

ขณะที่ เว็บไซต์ iqair ได้เผยผลการจัดอันดับคุณภาพอากาศของเมืองสำคัญทั่วโลก เมื่อเวลา 23.00 น. ที่ผ่านมา พบว่า อันดับที่ 1 ได้แก่ พนมเปญ, กัมพูชา วัดได้ 174 AQI US ส่วนกรุงเทพฯ อยู่อันดับ 7 วัดได้ 151 AQI US
โดยล่าสุด มีรายงานเพิ่มเติมว่า โลกออนไลน์ยังคงติดตามเรื่องดังกล่าว โดยส่วนใหญ่ได้แชร์ภาพแผนที่ดาวเทียมจากเว็บไซต์ Fire Information for Resource Management System (FIRMS) ซึ่งพัฒนาโดย NASA สำหรับเผยแพร่ข้อมูลจุดความร้อน (Hotspots) ทั่วโลก อัปเดตภายใน 3 ชั่วโมงนับจากดาวเทียมทำการถ่ายภาพ แสดงให้เห็นปริมาณจุดความร้อนสีแดงในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ล้อมรอบประเทศไทยอย่างหนาแน่น.