"เชียงใหม่" อ่วม เช้าวันนี้ (15 มี.ค.) พุ่งขึ้นอันดับ 1 เมืองมลพิษสูงสุดของโลก พบจุดความร้อนยังปะทุหนัก นายอำเภอเร่งแก้ไข
วันที่ 15 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ IQAir ที่คอยสังเกตการณ์คุณภาพอากาศของเมืองสำคัญทั่วโลก ได้อัปเดตการจัดอันดับเมืองใหญ่ที่มีมลพิษมากที่สุดแบบเรียลไทม์ ณ เวลา 10.08 น. พบว่าจังหวัดเชียงใหม่ พุ่งขึ้นมาอยู่อันดับที่ 1 ของโลก โดยวัดได้ 203 AQI US อยู่ในระดับสีม่วง มีผลกระทบต่อทุกคนอย่างรุนแรง
ขณะที่ สถานการณ์ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่นั้น ตั้งแต่ช่วงเช้าพบว่าทั่วทั้งเมืองต้องจมอยู่ในกลุ่มควันจากไฟป่า ทัศนวิสัยในการมองเห็นตามท้องถนนลดลง ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานอยู่ในโซนสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในทุกอำเภอ สาเหตุมาจากกระแสลมที่อ่อนตัวและสภาพอากาศปิด
โดยศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายงานค่าฝุ่น PM 2.5 รายชั่วโมงในเวลา 08.00น. สูงสุดที่อำเภอเชียงดาว 508 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนในตัวเมืองค่าสูงหลายจุดเช่นกันที่ชุมชนสวนดอก ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ วัดได้ 256 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนสถานการณ์ไฟป่ายังไม่คลี่คลาย แม้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะระดมกำลังเข้าดับไฟป่า กันอย่างเต็มที่มาตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ฮอตสปอต หรือจุดความร้อนจากไฟป่ายังคงเกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ ล่าสุดเช้าวันนี้พบฮอตสปอต 113 จุด กระจายอยู่ใน 18 จาก 25 อำเภอ
ขณะที่ กำนันผู้ใหญ่บ้านใน ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ใช้กล้องส่องทางไกลคอยเฝ้าสังเกตการณ์ดอยสุเทพจากศูนย์อำนวยการบริเวณด้านหลังศูนย์ราชการจังหวัด เพื่อเฝ้าระวังไฟป่าที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา พร้อมติดตั้งระบบวิทยุสื่อสารสำหรับประสานแจ้งให้หน่วยดับไฟป่าเข้าพื้นที่ทันทีหากมองเห็นกลุ่มควัน ภารกิจนี้เป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันไฟป่าและหมอกควันในเขตตัวเมืองเชียงใหม่
ด้าน นายสิทธิศักดิ์ อภิกุลชัยสุทธิ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้สั่งฝ่ายปกครองตั้งศูนย์อำนวยการส่วนแยกใน ต.ช้างเผือก ต.สุเทพ และ ต.แม่เหียะ รวม 3 จุด ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเวรคอยเฝ้าสังเกตการณ์ในจุดที่มองเห็นดอยสุเทพได้อย่างชัดเจนตลอดแนว หากพบกลุ่มควันปะทุขึ้นมา จะมีการวิทยุแจ้งหน่วยดับไฟป่าที่อยู่บนดอยเข้าดับไฟทันทีเพื่อป้องกันลุกลามขยายวงกว้าง
นอกจากนี้ยังตั้งจุดตรวจและเฝ้าระวังการเกิดไฟป่าในพื้นที่เสี่ยงในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย รวม 13 จุด ใน 13 หมู่บ้านรอบดอยสุเทพเพื่อเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบเผาป่า ทั้งหมดนี้จะทำหน้าที่เฝ้าระวังไปจนกว่าจนสิ้นสุดฤดูกาลฝุ่นควันในปลายเดือนเมษายนปีนี้.
ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ IQAir