เจ้าหน้าที่พบ "ลูกจระเข้น้ำจืด" ประมาณ 35 ตัว ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ครั้งแรกในรอบ 7 ปี คาดระบบนิเวศสมบูรณ์ ประชาชนช่วยกันอนุรักษ์
วันที่ 28 ก.พ. 2567 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยว่า ได้รับรายงานจาก นายจิระเดช บุญมาก หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ว่าเมื่อไม่นานมานี้เจ้าหน้าที่ได้สำรวจพื้นที่ของบึงบอระเพ็ด พบจระเข้น้ำจืดที่อาศัยอยู่ประมาณ 35 ตัว โดยพบการอาศัยอยู่ทั้งหมด 2 จุด จุดที่ 1 บริเวณปากคลองบอระเพ็ด ประมาณ 20-25 ตัว และจุดที่ 2 อาศัยอยู่ที่บริเวณของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ประมาณ 10-15 ตัว ซึ่งจระเข้น้ำจืดที่อาศัยอยู่ในฝั่งของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด พบว่ามีการวางไข่ฟักตัวของจระเข้ จำนวน 2 คอก โดยคอกแรกมีลูกจระเข้จำนวน 5 ตัว คอกที่ 2 มีลูกจระเข้จำนวน 3 ตัว
จากข้อมูลในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ในรอบ 7 ปี ที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่มีการฟักไข่จระเข้ออกเป็นตัวอ่อน ซึ่งก่อนหน้านี้พบเพียงการวางไข่ของจระเข้ แต่เมื่อฟักไข่กลายเป็นไข่ฝ่อ โดยสิ่งที่อาจทำให้พบจระเข้ฟักไข่ออกเป็นตัวอ่อนได้นั้น คาดว่ามาจากที่ระบบนิเวศมีอุดมสมบูรณ์ และสภาพอากาศ อุณหภูมิ ที่อาจส่งผลต่อความเครียดของจระเข้เป็นไปในทิศทางที่ดี รวมถึงประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ในการไม่เข้าไปรบกวนแหล่งที่อยู่อาศัย จึงส่งผลให้จระเข้วางไข่และฟักตัวอ่อนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปประชาสัมพันธ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการ จึงไม่พบภัยคุกคามและการกระทำผิดในพื้นที่แต่อย่างใด
ทั้งนี้ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด มีเนื้อที่ 66,250 ไร่ ของพื้นที่ชุ่มน้ำบึงบอระเพ็ด บนเนื้อที่ 132,737 ไร่ มีความอุดมสมบูรณ์ที่เอื้อประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืชและสัตว์นานาชนิด ปัจจุบันอนุสัญญาไซเตสได้ขึ้นบัญชีจระเข้น้ำจืดไว้อยู่ในบัญชีหมายเลข 1 (Appendix 1) คือจัดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในสภาพธรรมชาติ ซึ่งจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์แท้ หายากมากในสถานที่เลี้ยง เนื่องจากถูกผสมข้ามสายพันธุ์กับจระเข้สายพันธุ์อื่นจนเสียสายพันธุ์แท้ไปด้วยเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ.