อช.หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยว "อ่าวปิเละ ลากูน" ลดจำนวนเรือหางยาว จัดโซนเล่นน้ำภายใน จำกัดเวลาเข้าออก เพื่อลดมลพิษด้านเสียง และอากาศ
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 มีรายงานว่า นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หน.อช.หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ สั่งการให้อุทยานแห่งชาติฯ จัดการดูแลสถานที่แหล่งท่องเที่ยว
โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ให้ควบคุมดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว บริหารจัดการเพื่อจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับพื้นที่ ไม่ให้เกิดภาพความแออัด ให้ท่องเที่ยวอย่างสะดวกและปลอดภัย
โดยเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เชิญประชุมหารือแนวทางในการจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวของเกาะพีพี มีภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ เข้าร่วมประชุม ในที่ประชุม อุทยานแห่งชาติฯ รายงานสภาพปัญหาการท่องเที่ยว บริเวณอ่าวปิเละในหมู่เกาะพีพี และศักยภาพการท่องเที่ยวตามหลักวิชาการ
โดยอ่าวปิเละ หรือ "ปิเละลากูน" เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีลักษณะโดดเด่น สวยงาม ตั้งอยู่ที่เกาะพีพีเล มีแอ่งน้ำลักษณะคล้ายกับลากูน โดยเป็นแอ่งล้อมรอบด้วยหน้าผาสูง น้ำทะเลสดใสเขียวมรกต เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ
อีกทั้งตั้งอยู่ใกล้กับอ่าวมาหยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของอุทยานฯ ปัจจุบันอ่าวปิเละ มีเรือนำเที่ยว และ นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ในแต่ละวันมีเรือเข้าไปท่องเที่ยว เฉลี่ยประมาณ 120 ลำ ประกอบด้วย เรือหางยาว เรือสปีดโบ๊ต ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่ เป็นการเข้าไปให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ และว่ายน้ำ ด้วยความหนาแน่น ของเรือที่เกิดจากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่
ทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย มีภูมิทัศน์ไม่สวยงาม เกิดมลพิษ ทั้งทางด้านเสียงจากเครื่องยนต์เรือ และมลพิษทางอากาศ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้าไปได้รับโดยตรง ปัญหาดังกล่าวจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน ที่จะหาแนวทางในการจัดการแก้ไขปัญหา
ซึ่งต้องบูรณาการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคเอกชน และผู้ประกอบการในพื้นที่และต่างพื้นที่ที่เข้ามาใช้ประโยชน์ เพื่อหาแนวทางกำหนดกฎกติกา ในการจัดระเบียบการท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว
ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ และใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน โดยอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราฯ ได้ดำเนินการของบประมาณในการติดตั้งท่าเทียบเรือลอยน้ำ และทุ่นไข่ปลา
เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเข้า-ออกของเรือ และอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมถึงเพิ่มทุ่นจอดเรือ ให้ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวทุกแหล่ง เพื่อป้องกันมิให้มีการทิ้งสมอเรือ หรือท่องเที่ยวที่อันจะเกิดผลกระทบต่อปะการังในแหล่งท่องเที่ยว
ที่ประชุมยังร่วมกันหารือปัญหา และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา มีมติร่วมกันในการจัดระเบียบการท่องเที่ยวในอ่าวปิเละลากูน ในเบื้องต้น ดังนี้
- ลดจำนวนเรือหางยาวที่ไม่มีนักท่องที่ยว โดยไม่ให้เข้าไปจอด หรือดำเนินการเปลี่ยนถ่าย นักท่องเที่ยวจากเรือสปีดโบ๊ตไปยังเรือหางยาวภายในอ่าวปิเละ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงสามารถลดปัญหามลภาวะทางเสียงและอากาศในพื้นที่ได้
- จัดโซนเล่นน้ำภายในอ่าวปิเละ ให้เล่นเฉพาะจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้เท่านั้น
- จัดทำเสาแสดงระดับน้ำขึ้นลงด้านหน้าอ่าว เพื่อจำกัดช่วงเวลาเข้าออกของเรือ
จากการประชุมดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเรือหางยาว ผู้ประกอบธุรกิจบนเกาะพีพี รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ที่เข้ามาท่องเที่ยว ในการดำเนินการตามแนวทาง และกฎระเบียบที่กำหนด เพื่อให้แหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวได้รับการจัดการที่เหมาะสม สามารถใช้อำนวยประโยชน์ทางด้านการท่องเที่ยว ได้อย่างยั่งยืนต่อไป.