เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชั่วโมง "ซีพี ออลล์" วางเป้าหมายปลูกไม้ยืนต้น เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวและช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกให้กับพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมชวนรักษ์โลก ด้วยการลด ละ เลิกใช้ "พลาสติก" แบบครั้งเดียวทิ้ง
"ซีพี ออลล์" มีเป้าหมายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและสอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล หรือ ESG ซึ่งในมิติของด้านสิ่งแวดล้อมนั้น ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบาย 7 Go Green เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชั่วโมง โดยมีเป้าหมายที่จะปลูกไม้ยืนต้นเพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวและช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกให้กับพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เป็นไปตามปณิธาน "Giving & Sharing"
ทั้งนี้ เพื่อสอดรับกับ "วันสิ่งแวดล้อมไทย" ซึ่งตรงกับวันที่ 4 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้าน เซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่นเดลิเวอรี จึงจัดกิจกรรมเชิญชวนผู้บริหารและพนักงานร่วมปลูกต้นไม้ เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนและเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งแต่วันที่ 4-8 ธ.ค. 2566 ณ อาคาร เดอะธารา โดยกิจกรรมภายในงานได้มีการจัดนิทรรศการแสดงโชว์ผลงานต่างๆ ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภายใต้ นโยบาย 7 GO Green เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชั่วโมง ที่ทาง ซีพี ออลล์ ได้มีการดำเนินงานมาทั้งหมดในปี 2566 โดยภายในกิจกรรมได้มีการแจกต้นไม้กว่า 23 ชนิด ให้แก่ผู้บริหารและพนักงานที่เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
ในปี 2566 ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภายใต้นโยบาย 7 GO Green เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชั่วโมง ดังนี้
1. Green Store : การออกแบบและบริหารจัดการร้านอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมการปรับปรุงระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ภายใต้กลยุทธ์ "ร้านเพื่อสิ่งแวดล้อม" อาทิ โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพคอยล์เย็น สำหรับตู้แช่เย็นขนาดใหญ่, โครงการเครื่องปรับอากาศ ประเภท Inverter ภายในร้านฯ, โครงการใช้หลอดไฟ LED, โครงการสำรวจและติดตามสภาพอากาศภายในร้านฯ, โครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์, โครงการปรับปรุงระบบทำความเย็นของตู้แสดงสินค้า ชนิดไร้บานประตูเป็นแบบรวมศูนย์, โครงการ Knockdown Store นำวัสดุเปลือกอาคารกลับมาใช้ใหม่ และ โครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้า สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า
2. Green Packaging : โครงการด้านการจัดการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่มีในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น มุ่งหวังในการลดปริมาณขยะพลาสติก ผ่านแนวคิด “ลด และ ทดแทน” โดยพิจารณาตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงทุกกระบวนการในวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการหาวัสดุที่มาจากแหล่งทรัพยากรที่สามารถทดแทนได้ และต้องสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable) หรือนำมาใช้ใหม่ (Recyclable) หรือสามารถย่อยสลายได้ (Compostable)
โดยกำหนดเป้าหมาย 100% ของบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่นำมาใช้ จะต้องสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ หรือนำมาใช้ใหม่หรือ สามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ สำหรับบริษัทที่มีการดำเนินงานในประเทศไทย ภายในปี 2025 และบริษัทที่มีการดำเนินงานในต่างประเทศภายในปี 2030
3. Green Logistic : ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินงานด้านการขนส่งและการกระจายสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการจัดการพลังงานผ่านโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่งและออกแบบศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายใต้กลยุทธ์โลจิสติกส์เพื่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ซีพี ออลล์ ได้นำหลักเกณฑ์สำหรับการประเมินอาคารสีเขียว (Leadership in Energy & Environmental Design: LEED) เป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้การพัฒนาและออกแบบศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศอีกด้วย ปัจจุบันมีทั้งหมด 20 แห่งใน 12 จังหวัดทั่วประเทศ และได้ติดตั้งแผง Solar Cell เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วประเทศ
4. Green Living ซีพี ออลล์ ได้สานต่อโครงการ "ลดและทดแทน" ภายใต้แนวคิด "ปลูกจิตสำนึกเพื่อสิ่งแวดล้อม" โดยการ รณรงค์และเชิญชวนลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อป้องกันผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนบนแนวคิดหลัก เศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy โดยจัดให้มีโครงการถังคัดแยกขยะ เพื่อรณรงค์ให้คนไทยช่วยกันคัดแยกขยะพลาสติก เพื่อนำขยะพลาสติกเข้าสู่กระบวนการ แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy อย่างยั่งยืน ผ่านโครงการ ต้นกล้าไร้ถัง, ต้นกล้าชุมชนไร้ถัง และ ชุมชนไร้ถัง เพื่อรณรรงค์ในการลดปริมาณขยะพลาสติกให้ลดลง.