• Future Perfect
  • PR News
  • MEA จับมือ กปน. ทำ MOU ติดตั้ง Solar Rooftop ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า

MEA จับมือ กปน. ทำ MOU ติดตั้ง Solar Rooftop ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า

Sustainability

ความยั่งยืน6 ต.ค. 2566 13:00 น.

การไฟฟ้าฯ จับมือ การประปาฯ ทำ MOU ติดตั้ง "Solar Rooftop" ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 66 นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง พร้อมด้วย นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) โครงการติดตั้งและบำรุงรักษาอุปกรณ์ประหยัดพลังงานในระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือก ระหว่าง MEA และ กปน. ณ ห้อง Auditorium ชั้น 6 อาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ คลองเตย

ผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA และ กปน. ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจผู้รับผิดชอบระบบสาธารณูปโภคหลัก ภายใต้สังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้บูรณาการความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ MEA ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดการใช้พลังงานมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนจากนโยบายของรัฐ และการสนับสนุนของ MEA

ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกหน่วยงานมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังจะเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนทั่วโลก จึงได้จัดทำโครงการให้บริการอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน โดยมีเป้าหมายช่วยเหลือส่วนราชการให้ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า

โดยโครงการดังกล่าว MEA จะเป็นผู้ดำเนินการสำรวจ ออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าฯ ตลอดอายุโครงการ 20 ปี ซึ่งคาดว่าจะทำให้ กปน. ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 1,675.53 ล้านบาท และคาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 636,621.26 tonCo2 หรือคิดเป็น 31,831.06 tonCo2/ปี



ด้าน ผู้ว่าการ กปน. กล่าวว่า โครงการฯ ที่จะเกิดขึ้นจากลงนามในวันนี้ เป็นโอกาสดีที่ กปน. จะได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พลังงาน และใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า โดยสามารถผลิตและใช้พลังงานทางเลือกเพื่อความยั่งยืนด้านพลังงาน ตามแนวนโยบายแห่งรัฐ และเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของ กปน. ด้านการจัดการอย่างยั่งยืน ความร่วมมือในครั้งนี้ จึงถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของทั้ง 2 หน่วยงาน โดยมุ่งเน้นในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG

Economy Model ด้านเศรษฐกิจสีเขียว หรือ Green Economy ที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน.

SHARE

Follow us

  • |