พลังงานกับอนาคตความมั่นคง

การประชุมสภามีการหยิบเอาเรื่องของ โครงการพลังงานมาอภิปรายกันบ่อยครั้ง บางครั้งก็เป็นข้อมูลเพียงด้านเดียว โดยมีจุดประสงค์ให้เกิดจินตนาการไปอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งบางครั้งกระทบกับแผนพลังงานในอนาคต ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของอุตสาหกรรมทุกชนิดและจะมีผลกระทบถึงการดำรงชีวิตของชาวบ้าน ทั้งเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม การกดดันให้ทุกประเทศทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับ ภาวะโลกร้อน ที่กำลังจะเข้าสู่ ภาวะโลกเดือด ทำให้แหล่งวัตถุดิบพลังงานบางอย่างมีผลกระทบจากการเลิกนำมาใช้ เช่น ถ่านหิน เป็นต้น

ทำให้ต้องนำพลังงานอื่นมาทดแทน วันนี้ไฟฟ้า มีความสำคัญกับเศรษฐกิจและภาคสังคม รวมทั้งความมั่นคงเป็นอันดับแรก การวางแผนความมั่นคงด้านพลังงาน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความมากน้อย แต่ขึ้นอยู่กับ การมีเสถียรภาพด้านพลังงาน มากกว่า

เมื่อเร็วๆนี้ มีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ Pak Beng ใน สปป.ลาว ระหว่าง กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ และ China Datang Overseas Investment Co.,Ltd. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจและบริษัทพลังงานชั้นนำของ สาธารณรัฐ ประชาชนจีน มีโครงการผลิตไฟฟ้า กำลังผลิตติดตั้งกว่า 170,000 เมกะวัตต์ ครอบคลุม 13 ประเทศทั่วโลก ลงนามบันทึกความเข้าใจกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตของไทย พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Pak Beng ขนาดกำลังผลิต 912 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่บนแม่น้ำโขง เมืองปากแบง แขวงอุดมไซ

มีการตั้งบริษัทร่วมทุน Pak Beng Power Company Limited ขึ้นมาดำเนินการ ลงนามซื้อขายไฟกับ กฟผ.เรียบร้อยไปแล้วสัญญา 29 ปี มีอัตราค่าไฟเฉลี่ย 2.7129 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง คาดว่าจะดำเนินการในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2576 โครงการนี้อยู่ภายใต้การลงนามสัมปทานกับรัฐบาล สปป.ลาว ซึ่งอยู่ในบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับ สปป.ลาว

โครงการไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นใน สปป.ลาว และมีการเชื่อมโยงผ่านระบบส่งไฟระหว่างประเทศ ปัจจุบันมีกรอบความต้องการซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 10,500 เมกะวัตต์ มีโครงการที่จ่ายไฟเข้าระบบแล้ว 5,935 เมกะวัตต์ จำนวน 11 โครงการ โครงการที่ลงนามตามสัญญาแล้ว 3,060 เมกะวัตต์ จำนวน 3 โครงการ และโครงการที่ลงนามบันทึกความเข้าใจในการรับซื้อไฟแล้วจำนวน 815 เมกะวัตต์ 2 โครงการ

นอกจากจะเป็นการ เพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดตามนโยบาย รัฐบาล ในการลดภาวะโลกร้อน เพื่อทดแทนพลังงานและโรงไฟฟ้าที่จะหมดอายุคิดเป็นปริมาณกว่าหมื่นเมกะวัตต์ รวมทั้งการตอบสนอง การหันมาใช้ EV มากขึ้นเป็นลำดับ เท่ากับเป็นการสร้างเสถียรภาพทางด้านพลังงานในอนาคตอย่างยั่งยืน

นี่คือเหรียญอีกด้านที่ไม่มีการพูดกันในทางการเมือง พอเห็นเป็นเรื่องไฟฟ้า เรื่องพลังงาน และมีชื่อของ กัลฟ์ ก็จะถูกมองในแง่ ลบเอาไว้ก่อน ในอนาคตความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าทั้งในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม จะต้องมีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า เพราะพลังงานไม่ใช่กะปิน้ำปลาจะหาซื้อได้ในท้องตลาดทั่วไป ต้องวางแผนกันเป็นปีๆ.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม