"กรมควบคุมมลพิษ" ผนึกกำลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี และภาคเอกชน ร่วมลงนามโครงการจัดการขยะใน "เกาะเต่า" พร้อมปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ เพื่อขับเคลื่อนให้เกาะเต่ามุ่งสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมการท่องเที่ยว เทศบาลตำบลเกาะเต่า มูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน (มูลนิธิ 3R) องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะเต่าและชมรมรักษ์เกาะเต่า ได้ร่วมลงนามในโครงการจัดการขยะบรรจุภัณฑ์ตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) โดยการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ พัฒนาระบบขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility : EPR) และระบบจัดการขยะมูลฝอยในพื้นที่เกาะเต่า เพื่อขับเคลื่อนให้เกาะเต่ามุ่งสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ณ โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องของการจัดการสิ่งแวดล้อม อยู่ระหว่างการศึกษากฎหมายการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน เพื่อที่จะลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการจัดการขยะบรรจุภัณฑ์อย่างไม่ถูกต้อง โดยจะผลักดันให้ขยะเหล่านี้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยใช้หลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต หรือ Extended Producer Responsibility (EPR) เพื่อที่จะให้ผู้ที่จำหน่ายบรรจุภัณฑ์หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ บนเกาะเต่าร่วมรับผิดชอบในการนำบรรจุภัณฑ์หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ กลับคืนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนของตน และจะใช้เกาะเต่าเป็นพื้นที่นำร่องในการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ที่จะนำขึ้นเกาะ
ซึ่งมีภาคส่วนธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องบนเกาะเต่า ได้แก่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะเต่า ชมรมรักษ์เกาะเต่า บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความร่วมมือในการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ โดยเริ่มจากเบียร์ขวด ให้เป็นเบียร์กระป๋องอะลูมิเนียมแทน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2566 โดยร้านค้าบนเกาะเต่าได้ให้ความร่วมมือที่จะดำเนินการร่วมกัน เพื่อที่จะลดปัญหาบรรจุภัณฑ์ที่จะต้องถูกนำไปกำจัด นอกจากนี้ จะรณรงค์ในการลดการใช้ขยะพลาสติกต่างๆ แบบใช้ครั้งเดียว หรือ Single use plastic เพื่อลดปริมาณที่จะต้องนำไปกำจัด รวมทั้งปริมาณที่อาจหลุดรอดไปเป็นขยะทะเล และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ
ขณะที่ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในวันนี้ เพื่อที่จะขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาขยะบนเกาะเต่า ซึ่งมาพร้อมกับการท่องเที่ยวที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เน้นความสำคัญในเรื่องการจัดการขยะ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะ และความร่วมมือดังกล่าวมาจากภาคธุรกิจเอกชนบนเกาะ ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญและมีความตระหนักในการที่จะแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อให้เกาะเต่าเป็นแหล่งดำน้ำที่มีความสวยงาม ไม่มีขยะพลาสติกในทะเล ไม่มีขยะขวดแก้วที่จะตกค้างในพื้นที่ และมุ่งสู่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หรือ Eco-tourism ที่จะให้นักท่องเที่ยว ประชาชน ผู้ประกอบการ และภาครัฐ มีส่วนร่วมในการจัดการร่วมกัน ตั้งแต่การเลือกประเภทผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมขึ้นไปยังเกาะเต่า โดยจะเน้นผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy ได้ และยังเป็นการลดปริมาณขยะที่เทศบาลตำบลเกาะเต่าจะต้องนำไปกำจัดต่อไป
ทางด้าน นายวัชรินทร์ ฟ้าสิริพร นายกเทศมนตรีตำบลเกาะเต่า กล่าวว่า เกาะเต่าเป็นแหล่งดำน้ำฝั่งอ่าวไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก และมีนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี ทำให้ปัญหาขยะที่เทศบาลฯ จะต้องดำเนินการจัดการมากขึ้นไปด้วย ในขณะที่บุคลากรและทรัพยากรต่างๆ ของเทศบาลฯ มีจำนวนจำกัด ดังนั้น ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม รวมทั้งนักท่องเที่ยว แรงงาน และประชาชน ที่จะให้เกิดความตกลงร่วมมือในการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ โดยระยะแรกจะเป็นการเปลี่ยนจากเบียร์ขวดไปเป็นเบียร์กระป๋อง
นายประลอง ดำรงค์ไทย รองประธานมูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน (มูลนิธิ 3R) กล่าวว่า มูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนในฐานะที่มีบทบาทในการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมในการลดการใช้ (Reduce) เพิ่มการใช้ซ้ำ (Reuse) และนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ให้แก่ภาคประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้งจัดตั้งและพัฒนากลไกการประสานงาน เพื่อให้เกิดเครือข่ายขององค์กรและบุคคลที่มีเป้าหมายร่วมกัน ในการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด 3R ยินดีที่จะร่วมสนับสนุนการประสานงานระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดกลไกที่จะนำร่องระบบการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต หรือ EPR เพื่อที่จะให้เกิดการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน โดยการให้ผู้ขายหรือผู้นำบรรจุภัณฑ์ขึ้นเกาะนำกลับบรรจุภัณฑ์เพื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นแนวทางการจัดการรูปแบบใหม่ที่หลายๆ ประเทศได้มีการดำเนินการด้วยแล้ว
นายตรีเทพ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา รองผู้จัดการทั่วไป สำนักกิจการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะสมาชิกภาคีเครือข่ายโรงเรียน-ชุมชน-องค์กรไร้ถัง ได้ร่วมกับสมาชิกทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศการจัดการขยะ (Waste Management Ecosystem) จัดตั้งโครงการ Green Living รักษ์เกาะ 24 ชั่วโมง แนวคิดการแก้ปัญหาขยะอย่างยั่งยืน เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาการจัดการขยะระดับพื้นที่เกาะ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มักจะมีปริมาณขยะจำนวนมาก ให้สามารถจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรเทาปัญหาขยะซึ่งนับเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญระดับประเทศและโลก.