"ชัชชาติ" ชวนสร้างวัฒนธรรม "พกขวดน้ำ" ลดขยะพลาสติก พร้อมเดินหน้านโยบายน้ำดื่มสะอาด ปลอดภัย ฟรี ทั่วกรุง มอบสำนักอนามัย สุ่มตรวจความสะอาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานงานเปิดตัวโครงการ Bottle Free Seas และเครือข่าย Refill Bangkok เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยมี นางเทย์เออะ อ็อตมันน์ รักษาการเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ นายโดมินิค ทอมสัน รองผู้อำนวยการมูลนิธิความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อม (EJF) นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมที่สนามเทคบอล สวนเบญจกิติ
นายชัชชาติ กล่าวว่า อยากให้เป็นวัฒนธรรมที่ให้ทุกคนถือขวดน้ำของตัวเอง เหมือนหลายประเทศในโลก การลดขยะขวดพลาสติกเป็นหนึ่งในนโยบายของเรา เดิมเราร่วมกับการประปาให้บริการจุดเติมน้ำดื่ม แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด มีความเป็นห่วงเรื่องความสะอาดจึงเอาออก แต่ปัจจุบัน กทม. มีขยะพลาสติกสูงถึง 1,500-1,800 ตันต่อวัน ส่วนหนึ่งเป็นขวดพลาสติก การที่ทุกคนถือขวดมาเติม จะช่วยลดขยะพลาสติกได้จำนวนมาก ทั้งนี้ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมกัน และขอให้โครงการดีๆ แบบนี้ ขยายผลออกไปเรื่อยๆ
โดยกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ Environmental Justice Foundation (EJF) เปิดตัวโครงการ Bottle Free Seas ลดก่อน ล้นโลก เดินหน้านโยบายน้ำดื่มสะอาด ปลอดภัย ฟรี ทั่วกรุง ติดตั้งจุดเติมน้ำใหม่ 10 แห่งทั่วกรุง โดยเป็นจุดเติมน้ำดื่มในสวนเบญจกิติ 2 จุด คือประตู 6 และสนามพิคเคิลบอล ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบจุดเติมน้ำดื่มที่มีอยู่แล้วภายใต้เครือข่าย Refill Bangkok ผ่านทาง https://refillbkk.greendot.click หรือค้นหาผ่านแอปพลิเคชัน "Greendot" และยังสามารถแจ้งตู้น้ำดื่มชำรุดได้อีกด้วย
นอกจากนี้ นายชัชชาติ ยังได้กล่าวในการเสวนา "ทำด้วยกัน ไปได้ไกล แก้ไขปัญหาพลาสติกใช้แล้วทิ้งในกรุงเทพมหานคร" ว่า จุดเติมน้ำถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่คนต้องการ ต้องหาจุดที่คนเติมได้ไม่มีค่าใช้จ่าย เราไม่อาจสร้างจุดเติมน้ำในทุกจุดของกรุงเทพฯ ได้ ในส่วนของชุมชนที่มีตู้หยอดน้ำแล้วเราก็ต้องเข้าไปดูความสะอาด เป็นหน้าที่ของสำนักอนามัย กทม. ที่ต้องเข้าไปสุ่มตรวจ พื้นที่สาธารณะต้องมีจุดเติมน้ำ รูปแบบจุดเติมน้ำเดิมเป็นแบบกดเข้าปาก ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเอากระบอกมาเติม ซึ่งอาจเริ่มในอาคารของหน่วยงานภาครัฐ อาคารสำนักงานเขต กทม. เป็นผู้ถือกฎหมาย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ในอนาคตอาจกำหนดให้อาคารต้องมีจุดเติมน้ำ นอกเหนือจากเรื่องบันไดหนีไฟ และข้อกำหนดอื่นๆ
ทั้งนี้ กทม. ไม่สามารถทำเองได้ทุกอย่าง ต้องร่วมกับทุกภาคส่วน แม็ปที่มีจะช่วยให้ กทม. สามารถสุ่มตรวจได้ดีขึ้น และหากเพิ่มเซนเซอร์ ใช้ระบบ IoT แสดงจุดติดตั้ง จะเป็นประโยชน์ในเรื่องของการบำรุงรักษาเมื่อมีเครื่องที่ชำรุดด้วย.