• Future Perfect
  • Articles
  • TROPICANA ชูแนวคิด ZERO WASTE เพราะ "มะพร้าว" แต่ละลูก ให้ประโยชน์มากกว่าที่คิด

TROPICANA ชูแนวคิด ZERO WASTE เพราะ "มะพร้าว" แต่ละลูก ให้ประโยชน์มากกว่าที่คิด

Sustainability

ความยั่งยืน31 ก.ค. 2566 19:34 น.
  • รู้จักแบรนด์ "TROPICANA" จากมะพร้าวแห่งลุ่มน้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานี สู่น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นออร์แกนิก การันตีรางวัลด้านรสชาติระดับโลก
  • มะพร้าว 1 ลูก ประโยชน์ครอบจักรวาล กับแนวคิด ZERO WASTE PRODUCTION ทุกอย่างนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด ไม่ได้ต้องทิ้ง
  • พาชม "ฟาร์มผักออร์แกนิก" จากกากมะพร้าวเหลือทิ้งในขั้นตอนการผลิต นำมาปลูกต้นไม้ได้อย่างยั่งยืน

หากพูดถึง "น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นออร์แกนิก" หลายคนต้องนึกถึงแบรนด์ "TROPICANA" (ทรอปิคานา) ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวของไทยจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อตั้งโดย คุณสุรเดช นิลเอก ที่ได้เริ่มจากการผลิตสินค้า OTOP จนขยายธุรกิจก่อตั้งเป็นบริษัท ทรอปิคานา ออยล์ จำกัด ขึ้นในปี 2546 ซึ่งปัจจุบันได้ "ณัฐณัย นิลเอก" ลูกชายเข้ามาสานต่องาน 

และไม่นานมานี้ TROPICANA ยังได้รับรางวัลการรันตีด้านรสชาติและคุณภาพ Superior Taste Award 2022 จากสถาบัน International Taste Institute ประเทศเบลเยียม ว่าเป็นน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่อร่อย ทานง่าย ถือเป็นสินค้าจากแบรนด์คนไทยที่ได้รับการการันตีในระดับสากล นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังได้ชูนโยบายเกี่ยวกับ ZERO WASTE PRODUCTION และการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นเรื่องที่กระแสสังคมในปัจจุบันกำลังให้ความสำคัญอย่างมาก

ทั้งนี้ คุณณัฐณัย นิลเอก ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทรอปิคานา ออยล์ จำกัด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่คนนิยมยังคงเป็นน้ำมันมะพร้าว เป็นชื่อซิกเนเจอร์ของเรา รองลงมาเป็นกลุ่มของบอดี้แคร์ สัดส่วนยอดขายในประเทศ 70% ต่างประเทศ 30% มากที่สุดจะเป็นรัสเซีย โดยยอดขายในประเทศของเราจะรวมกับการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อผลิตภัณฑ์ไปเป็นของฝาก โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่นประมาณต้นปี กับ ช่วงปลายปี ซึ่งปกติแล้วคนที่ชอบมะพร้าวจะเป็นคนในประเทศที่ปลูกมะพร้าวไม่ได้ เหมือนกับการที่คนไทยชอบกลิ่นดอกไม้ของยุโรปที่ไม่มีในประเทศของเรา 

ขณะที่กลุ่มลูกค้าคนไทยของจะเป็นกลุ่มคนที่รักสุขภาพ มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกอายุจะเยอะขึ้นมาหน่อย จะเริ่มมีปัญหาสุขภาพ เริ่มซื้อน้ำมันมะพร้าวไปดูแลสุขภาพ อีกกลุ่มอายุจะรองลงมา จะซื้อไปหมักผม เช็ดเครื่องสำอาง

คุณณัฐณัย กล่าวต่อว่า TROPICANA ตั้งขึ้นมาเข้าสู่ปีที่ 19 แล้ว ในตอนที่เริ่มทำธุรกิจช่วง 5 ปีแรก ในตอนนั้นคู่แข่งเรายังไม่เยอะ มีแต่ผู้ผลิตที่ทำแบรนด์น้ำมันมะพร้าวของตัวเอง ไม่เกิน 5 โรงงานที่ในประเทศไทย ต่อมาเริ่มมีคนสนใจ เพราะมีการทำการตลาดกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น เพราะน้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์ ประกอบกับขั้นตอนการทำน้ำมันมะพร้าวไม่ได้ทำยาก หากไม่นับเรื่องคุณภาพ ชาวบ้านทั่วไปก็สามารถทำได้ ทำให้มีชาวบ้านเริ่มทำน้ำมันมะพร้าวออกมาขาย เริ่มมีบริษัท SME และเริ่มมีบริษัทใหญ่เข้ามาเล่นในตลาดน้ำมันมะพร้าว ทำให้ยอดขายฝั่งเราหายไปบ้าง เราจึงต้องมาคิดเว่าจะทำผลิตภัณฑ์อะไรเพิ่ม จึงมาดูว่ามะพร้าวทำอะไรได้บ้าง 

มะพร้าว ประโยชน์ครอบจักรวาล

ปรากฏว่า "มะพร้าว" มีสรรพคุณครอบจักรวาล แต่หากให้เราพูด 10 ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวคนอาจะจะไม่ค่อยเชื่อ เพราะว่าคนไทยจะรู้สึกเฉยๆ กับมะพร้าว คุ้นเคยมะพร้าวกับการทำอาหาร และมีหลายคนไม่ชอบกลิ่นมะพร้าว ประกอบกับมีแบรนด์คุณภาพไม่ดีทำน้ำมันมะพร้าวออกมาแล้วมีกลิ่นเหม็นหืน เหม็นเปรี้ยว ส่งผลให้คนจะมองภาพลบกับน้ำมันมะพร้าวไปเลย เราจึงแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับการใช้งานมากขึ้น เช่น แฮร์มาส์ก แชมพู เป็นการผลิตสินค้าให้ตรงกับการใช้งานไปเลย เพื่อให้ยอดขายมากขึ้นด้วย

อีกประเด็นหนึ่งคือ ถ้ามองไปถึงตลาดต่างประเทศ การที่เราไปออกบูธแล้วขายแค่น้ำมันมะพร้าว เราจะแพ้ประเทศอื่นในเรื่องของราคา เพราะประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่ผลิตน้ำมันมะพร้าวเยอะที่สุดในตลาดโลก โดยประเทศที่ปลูกมะพร้าวเยอะที่สุดจะเป็นฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ศรีลังกา เนื่องจากเขาปลูกมะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจ ขณะที่ไทยปลูกมะพร้าวเป็นพืชลำดับที่ 7 หรือ 8 น้อยลงเรื่อยๆ ทำให้ต้นทุนมะพร้าว 1 ลูกราคาสูง ประมาณ 10-20 บาท ขณะที่มะพร้าวจากต่างประเทศเข้ามาลูกหนึ่งไม่ถึง 10 บาท ประกอบกับต้นทุนแรงงานของเขาก็ถูกกว่าไทย ด้วยเหตุนี้จึงมีหลายแบรนด์นำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศเพื่อลดต้นทุน แต่เราไม่มีนโยบายแบบนั้น เพราะต้องการสนับสนุนเกษตรกรไทย และบางครั้งมะพร้าวนำเข้าคุณภาพก็ไม่เท่ากับมะพร้าวของไทย 

คุณณัฐณัย กล่าวอีกว่า ได้มีลูกลูกค้าฟิลิปปินส์มาติดต่อแรนด์ของเรา ซึ่งเราได้คุยกับเขาว่า ประเทศของเขามีมะพร้าวอยู่แล้ว ทำไมจึงสนใจมะพร้าวของไทย ซึ่งเขามองว่า ถ้าเป็นน้ำมันมะพร้าวอาจจะเอาไปไม่เยอะ เนื่องจากบ้านเขามีใช้กันอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเครื่องสำอางจากมะพร้าวยังไม่มีใครทำอย่างจริงจัง ที่สำคัญคือเขาสนใจสตอรี่แบรนด์ของ TROPICANA ที่ทำเรื่อง Sustainable เช่น Zero Waste ทุกอย่างของมะพร้าวจะถูกนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด ซึ่งเขากำลังมองหาสินค้าใหม่ที่เป็นเรื่อง green beauty กับ BCG 

แนวคิด Sustainable

สำหรับแนวคิด Sustainable ของ TROPICANA เราคิดตั้งแต่ต้นน้ำเลยคือ เกษตรกร ซึ่งเราได้ทำ certified organic ที่ต้องเสียค่าทำให้กับเกษตรกรทุกๆ ปี เป็นเงินหลักแสนเพื่อให้เขาได้เป็นมะพร้าวออร์แกนิก และรับซื้อมะพร้าวจากเขาในราคาที่สูงกว่าราคาตลอด เมื่อมะพร้าวมาถึงโรงงานก็จะมี Zero Waste คือสิ่งที่เหลือจากกระบวนการผลิตจะใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด เช่น จาวมะพร้าว จะนำมาเลี้ยงปลา, กากมะพร้าว จะนำไปทำวัสดุปลูกที่ฟาร์มผักออร์แกนิก, กะลามะพร้าว จะขายต่อให้โรงรับทำถ่านกัมมันต์กรองน้ำดื่ม, น้ำมะพร้าวนำไปขายให้กับโรงทำน้ำมะพร้าวที่ใช้น้ำมะพร้าวแก่ไปต้มพลาสเจอร์ไรท์ ส่วนเนื้อมะพร้าวที่อัดน้ำมันออกแล้วก็นำไปทำแป้งมะพร้าวออร์แกนิก หรือนำไปทำสครับขัดผิวได้ เรียกได้ว่าถ้าเป็นลูกมะพร้าวใช้ได้ทั้งหมด ไม่ต้องทิ้งเลย 

ในส่วนของ Green Industry เรามีมาตรฐานที่ทำเรื่องมลภาวะ มี ISO 14000 ชีวอนามัยกับมลภาวะ ที่ให้เขามาตรวจสอบทุกปี มีระบบบำบัดน้ำเสีย โดยน้ำที่ปล่อยจากโรงงานจะนำมาเลี้ยงปลา ถ้าปลาอยู่ได้น้ำต้องไม่เสีย ดังนั้นน้ำเสียจึงไม่ได้มาจากโรงงานของเรา เพราะเราแคร์เรื่องสิ่งแวดล้อม เราแคร์คนรอบข้าง

"มุมมองธุรกิจของเราคือ ทำอะไรก็ได้ให้คนมีสุขภาพดีและยั่งยืน เกษรตรกรต้องยั่งยืนด้วย ดังนั้นการจะออกผลิตภัณฑ์ หรือบริการอะไรออกมาก็ตาม จะต้องเน้นเรื่องสุขภาพและเรื่องความยั่งยืน และอย่างน้อยต้องมีมะพร้าวเป็นกิมมิกอยู่ในนั้น อาจจะเป็นคาเฟ่ที่ไม่ใช่แค่คาเฟ่กินกาแฟ แต่เป็นคอมมูนิตี้ที่คนรักสุขภาพมารวมตัวกัน หรือมีเวิร์กช็อปเกี่ยวกับสุขภาพที่มีมะพร้าวด้วย"

สำหรับฟาร์มออร์แกนิก เราเริ่มทำมาได้ประมาณ 6 ปีแล้ว เริ่มจากคุณพ่อชอบรับประทานของเพื่อสุขภาพอยู่แล้ว จึงปลูกผักทานเอง แล้วค่อยๆ ขยายมาเรื่อยๆ โดยนำกากมะพร้าวมาใช้ปลูกต้นไม้ออร์แกนิก แต่จะต้องนำกากมะพร้าวแบบหยาบไปบ่มก่อนนำขึ้นแปลงผัก เมื่อนำขึ้นแปลงแล้วจะต้องทิ้งไว้อีกประมาณ 1 เดือน เพื่อลดสารแทนนิน

จากนั้นจึงนำมาปลูกต้นไม้ การปลูกของเราจะไม่มีดินผสมเลย ซึ่งกากหยาบจะใช้ปลูกผัก 2 รอบ แล้วพลิกจากข้างบนลงไปข้างล่าง เมื่อใช้ไประยะหนึ่งก็จะกลายเป็นวัสดุปลูกย่อยดูคล้ายกับดิน

ธุรกิจกับส่วนช่วยลดโลกร้อน

เมื่อถามถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อน คุณณัฐณัย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ถ้ามองถึงภาวะโลกร้อน ทุกวันนี้ภาวะโลกของเราเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ดังนั้นสิ่งที่เราทำอยู่คือเรื่องของ BCG เป็นการช่วยโลกให้ชะลอเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งผู้บริโภคเองก็จะมองว่า อะไรที่สนับสนุนแบรนด์ที่ลดการปล่อยคาร์บอน การปล่อยมลภาวะ ซึ่งแบรนด์ที่ทำเรื่องพวกนี้ก่อนก็จะได้เปรียบ

ซึ่งทาง TROPICANA มองเรื่อง "เกษตรกร" ว่าวัตถุดิบที่เราซื้อมาอย่างมะพร้าวจะลดลงไหม จึงมีการสนับสนุนเกษตรปลูกมะพร้าวแบบออร์แกนิก ซึ่งการปลูกพืชแบบออร์แกนิกจะช่วยลดโลกร้อนได้ การไม่ใช้สารเคมีในดินจะทำให้อยู่ได้อย่างยั่งยืนกว่า เพื่อให้เขาอยู่ร่วมกับเราได้อย่างยั่งยืน หากเราไปกดราคาเขามาก เขาก็ไม่สามารถอยู่ได้ อาจจะนำที่ดินไปทำอย่างอื่น ก็จะส่งผลกระทบต่อโลก

และเรื่องต่อไปที่เราอยากจะทำคือตัวบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการขายต่างๆ อาจจะต้องหาบรรจุภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนมากขึ้น แต่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็อาจจะมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องใช้พลาสติก ซึ่งเราก็กำลังมองว่าพลาสติกที่รีไซเคิล หรือกระดาษที่สามารถย่อยสลายในธรรมชาติได้ดีขึ้น.

SHARE

Follow us

  • |