• Future Perfect
  • Articles
  • "แกร็บ" เผยรายงานความยั่งยืนปี 65 ปลูกต้นไม้แล้วกว่า 50,000 ต้น ชดเชยคาร์บอน

"แกร็บ" เผยรายงานความยั่งยืนปี 65 ปลูกต้นไม้แล้วกว่า 50,000 ต้น ชดเชยคาร์บอน

Sustainability

ความยั่งยืน27 มิ.ย. 2566 13:48 น.

"แกร็บ" เผยรายงานความยั่งยืนประจำปี 2565 พร้อมความคืบหน้าของกิจกรรมชดเชยคาร์บอน หลังปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 50,000 ต้น

"แกร็บ" ตอกย้ำพันธกิจในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม และการส่งเสริมในด้านสิ่งแวดล้อม เผยรายงานความยั่งยืนประจำปี 2565 (ESG Report 2022) ที่รวบรวมผลการดำเนินงานต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยครอบคลุม 3 ไฮไลต์หลัก ได้แก่ การยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพาร์ตเนอร์ การพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม และ การเดินหน้าพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า กว่า 10 ปีของการดำเนินธุรกิจ แกร็บมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีและใช้แพลตฟอร์มมาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเชื่อว่าการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้นั้น จะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในสังคม และการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งในปีที่ผ่านมา แกร็บทั่วทั้งภูมิภาคได้พัฒนาการทำงานในหลายส่วนโดยมุ่งผลักดันใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การสร้างโอกาสทางรายได้ให้กับของพาร์ตเนอร์ การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม และการส่งเสริมประเด็นในด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งถูกรวบรวมไว้ในรายงานความยั่งยืนฉบับล่าสุด

สำหรับรายงานความยั่งยืนของแกร็บประจำปี 2565 ได้นำเสนอภาพรวมของการดำเนินงานที่ได้สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ การส่งเสริมและดูแลสิ่งแวดล้อม (Fostering a Lasting Planet) ได้แก่ ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก (GHG) กว่า 48,000 ตัน จากการดำเนินงานใน 3 ส่วน ได้แก่ 1. ให้บริการรูปแบบใหม่ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ เช่น การขนส่งโดยจักรยาน หรือการเดิน 2. เพิ่มการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และ 3. ปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการ

สนับสนุนการปลูกต้นไม้กว่า 200,000 ต้น จากโครงการชดเชยคาร์บอนที่ส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการร่วมบริจาค และลดปริมาณขยะพลาสติกกว่า 8,100 ตันจากการงดใช้ช้อนส้อมพลาสติกรวม 898 ล้านชุดของผู้ใช้บริการในปีที่ผ่านมา

สำหรับในประเทศไทย นอกเหนือจากการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในกลุ่มพาร์ตเนอร์คนขับ และการพัฒนาฟีเจอร์เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้บริการงดรับช้อนส้อมพลาสติก อีกหนึ่งกิจกรรมที่ริเริ่มขึ้นช่วยลดผลกระทบในด้านสิ่งแวดล้อม คือการเปิดตัว "ฟีเจอร์ Carbon Offset" ในปี 2564

โดยได้เชิญชวนให้ผู้ใช้บริการมีส่วนร่วมในการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนเมื่อใช้บริการต่างๆ ของแกร็บ ผ่านการบริจาคเงินจำนวน 2 บาทต่อเที่ยวการเดินทางด้วยรถยนต์ หรือ 1 บาทต่อเที่ยวการเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ หรือการใช้บริการเดลิเวอรี เพื่อสมทบเข้าโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าไม้ในประเทศไทย ซึ่งดำเนินการโดย Conserve Natural Forests (CNF) องค์กรไม่แสวงหากำไรในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีภารกิจหลักในการฟื้นฟูภูมิทัศน์ป่าธรรมชาติในประเทศไทย

และ EcoMatcher แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถติดตามการเติบโตของต้นไม้ หรือดูข้อมูลต่างๆ ของต้นไม้ที่ตนเองร่วมบริจาคได้ โดยโครงการนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก จนทำให้ในปีที่ผ่านมา สามารถปลูกต้นไม้เพื่อช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนในประเทศไทยไปแล้วกว่า 50,000 ต้นในจังหวัดกระบี่ และแม่ฮ่องสอน ทั้งยังเป็นการช่วยเหลือคนในพื้นที่กว่า 51 ครอบครัว

SHARE

Follow us

  • |