กลับมาอีกครั้งกับ "บ้านโชคดี เดอะซีรีส์" ซีรีส์ชวนหลอนที่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้เช่าบ้านไม้เก่าหลังหนึ่ง ซึ่งชั้นสองมีเสาตกน้ำมันตั้งกลางบ้านได้รับกระแสตอบรับที่ดีในซีซั่น 1 และ 2 ล่าสุด "บ้านโชคดี เดอะซีรีส์ Season 3" กลับมาสร้างความหลอนอีกแล้ว จากฝีมือการกำกับของมือเบสวงร็อกชื่อดัง รงค์ หิน เหล็ก ไฟ หรือ รงค์ ณรงค์ ศิริสารสุนทร พร้อมกับทีมงานจาก บริษัท ทวินเฟลม จำกัด

ซึ่ง พี่รงค์ ก็ได้เผยถึงเบื้องหลังการทำงานให้ฟังว่า บ้านโชคดี ซีซั่น 3 แตกต่างจาก 2 ซีซั่นแรกแน่นอน เพราะตัวบ้านเซ็ตใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนสีบ้านใหม่หมด ฟังก์ชันในความหลอนมีเพิ่มขึ้น แถมยังมีทุกมุมอีกด้วย แต่จะหลอนมากแค่ไหน ต้องติดตาม ซึ่ง ตอน เงาบาป จะออนแอร์เป็นตอนแรก ในวันเสาร์ที่ 9 พ.ย.นี้ ทางช่องไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 21.30-22.30 น.

...

การทำงานของบ้านโชคดีซีซั่น 1 - 2 และซีซั่น 3 ต่างกันยังไง?

"การทำงานแตกต่างทุกอย่างเลย ทั้งเรื่องบ้าน บ้านที่เป็นบ้านที่เราเซ็ตมาตั้งแต่เรื่องแรก ซึ่งซีซั่น 1 และซีซั่น 2 เป็นหลังเดียวกัน แต่พอมาซีซั่น 3 เราเปลี่ยนหมดเลย ทั้งสีทั้งภายใน ห้องเพิ่มเติมทั้งข้างบนและข้างล่าง มุมต่างๆ เปลี่ยนหมดเลย เพื่อจะให้ฟังก์ชันในความหลอนมีเพิ่มขึ้น อันแรกจะเป็นโล่งๆ เราก็เล่าจนหมดแล้ว เราก็ก็เลยอยากให้มีความแตกต่างในการที่จะให้เห็นภาพ ซึ่งก็จะไม่เหมือน 2 ซีซั่นแรก สีในบ้าน ทาใหม่หมดเลย"

ที่มาของบ้านโชคดีคืออะไร?

"จริงๆ เมื่อก่อนนี้ เราเริ่มที่จะทำยังไงให้การเล่าเรื่องเรื่องผีมันไม่ซ้ำซาก เหมือนอย่างที่ทำกันมา เราก็ถามทางทีมเขียนบทว่า รู้จักเสาตกน้ำมันมั้ย ซึ่งเด็กสมัยใหม่ไม่รู้จัก เราก็เลยอธิบายให้ฟังว่ามันคืออะไร เราเอาคอนเซ็ปต์นี้นะ บ้านกับเสาตกน้ำมัน หรือเสาไม้นางรำ 2 ชื่อ

คนเขียนบทเขาก็เขียนไปเขียนมา แล้วเขาก็บอกว่ามันสั้นไป ในขณะที่เขายังนึกพล็อตเรื่องไม่ออก เขาก็เลยคิดออกมาว่าเสาตกน้ำมัน บ้านโชคดี ผีตกน้ำมัน เขาก็คิดออกมาแค่นี้

ทีนี้ฝ่ายขายเขาเอาไปขาย แล้วเขากลัวคำว่า ผี เดี๋ยวโฆษณาไม่ซื้อ เขาก็เลยใช้บ้านโชคดี แต่ตัวผมเองคิดว่าอยากจะสื่อตรงๆ เสาตกน้ำมันหรือเสาไม้นางรำให้ชัดเจน แต่ฝ่ายขายบอกว่าไม่ได้หนูขายเขาไปแล้ว ว่าเป็นบ้านโชคดี โอเคบ้านโชคดีก็บ้านโชคดี แล้วแต่ ต่อไปเป็นเรื่องของเนื้อหาแล้ว ก็เลยเป็นที่มาของคำว่าบ้านโชคดี"

เดินทางมาถึงซีซั่น 3 แล้วระดับความหลอน เพิ่มขึ้นแน่นอน?

รงค์ "ในซีซั่นนี้มีเทคนิคอะไรมากเพิ่มยิ่งขึ้น เหลี่ยมของบ้านมันจะทำให้ดูน่ากลัวมากขึ้น ในส่วนนี้ต้องติดตาม ในส่วนผี เรามีผีประหลาดๆ มานำเสนออีกหลายตน เพื่อจะได้หลากหลาย ปัญหาแต่ละปัญหา ผีแต่ละตัวก็จะได้รับปัญหานั้น มันก็ทำให้มีตัวเล่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งมันก็มีหมดทั้งเสียงทั้งตัวผีออกมา แล้วแต่เหตุการณ์

...

แต่เรายังคงคอนเซ็ปต์ไว้ว่า เราไม่ได้เอาผีมาหลอกตัวเดียว เราจะใช้เรื่องราวของคน นำเข้ามาสู่ผี ซึ่งเราเน้นปัญหาของคนมากกว่า แล้วเข้ามาเมื่อมาเผชิญกับผี ให้มันเป็นชีวิตจริง เพราะผีเอาไปใช้กับชีวิตจริงไม่ค่อยได้คนจะกลัวกันหมด แต่เราจะเอาชีวิตของคนมาให้เห็นปัญหาต่างๆ วิธีคิดต่างๆ และผูกเข้ามาในเรื่องผี คนดีผีคุ้ม คนไม่ดีผีก็ซ้ำเติม อันนั้นเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่สำหรับเรา"

เรื่องแรกที่จะออนแอร์คือ เงาบาป เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับยังไง?

"เงาบาป เป็นเรื่องราวของคนที่มีอาชีพเป็นนักฆ่ารับจ้าง แล้วถูกจับได้โดยที่ตัวเขาเป็นนักฆ่า เป็นมือปืนรับจ้าง แล้วเวรกรรมคือตัวคนที่มาจ้างเขาหักหลังกันเอง ทำให้เขาต้องถูกจับและตัดสินประหารชีวิต คือฉีดยาประหารชีวิต

แต่ปรากฏว่ายามันไม่ทำงานหรือยังไงก็ไม่รู้ และเขาก็ฟื้นขึ้นมา พอฟื้นขึ้นมาเขาก็ไม่ตาย แต่ถูกจำหน่ายว่าเป็นคนตายไปแล้ว นั่นหมายความว่าเขาสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ เพราะเขาไม่มีชื่ออยู่แล้ว เขาก็เลยกลับไปแก้แค้น คนที่เขียนบทนี้พล็อตนี้ขึ้นมาก็รู้สึกว่ามันเป็นบทใหม่จริงๆ"

...

การทำงานมีความยากง่ายขนาดไหน?

"ยากมากเราเลยได้ผู้ช่วยมา 2 คน ซึ่งเขาทำให้เราทำงานได้สะดวกมากขึ้น เขาเก็บรายละเอียดได้ดี"

โน๊ต สิพลดนัย บอกว่างานของทีมนี้ละเอียดมากแค่ตกนิดเดียวก็ต้องเริ่มถ่ายใหม่?

"ผมว่าทุกทีมงานทุกกองจะใส่ใจงานแบบนี้แหละ เพียงแต่ว่าของเรา เราถ่าย เราจัดแสงแบบภาพยนตร์ เราไม่ได้ถ่ายแบบละคร อันนี้คนดูอาจจะไม่เข้าใจว่ามันต่างกันยังไง ตรงนี้ต้องดูว่าละครเป็นยังไง ถ่ายแบบภาพยนตร์เป็นยังไง มันเกี่ยวกับการจัดแสงและจำนวนคัตที่ถ่าย

...

มันไม่ใช่ถ่ายแบบ 3 กล้องแล้วสวิตชิ่งเอา เนื้อหามันต้องพิถีพิถันหน่อย มุมต่างๆแสงต่างๆ ที่ใช้ การเปลี่ยนกล้อง การเล่าเรื่อง เราให้ความสำคัญในเรื่องนั้น เราใช้ภาพในการเล่าเรื่อง"

บ้านโชคดี ซีซั่น 3 ห่างจากบ้านโชคดี ซีซั่น 2 กี่ปี?

"ซีซั่น 1 ออกอากาศ ปี 64 ซีซั่น 2 ออกอากาศ ปี 65 เราหยุดไปปี 66 และเราก็กลับมาปี 67"

2 ซีซั่นแรกเรตติ้งดีมาก เลยทำให้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างซีซั่น 3 ใช่ไหม?

"คอมเมนต์คนที่เขาอยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไปในบ้านโชคดี ผมว่านี่จะทำให้เขาได้รู้สึกว่าเห็นความแตกต่าง นั่นหมายความว่าบริษัท ทวินเฟลม เราผลิตอยากให้เห็นความแตกต่างในแต่ละซีซั่น 1-2 มันเป็นอย่างนั้นแล้ว ส่วน 3 เราอยากให้เห็นความแตกต่างในเรื่องบ้าน ตัวละคร และผี"

อย่างตัวของ โน๊ต สิพลดนัย 2 ซีซั่นแรกเล่นเป็นตำรวจ แต่มาซีซั่นที่ 3 พลิกบทเลย?

"ใช่ครับ อันนี้นักแสดงแสดงให้เห็นถึงความสามารถว่า การที่เขาเล่นเป็นตำรวจ แล้วมาตอนนี้เขามาเล่นเป็นโจร คาแรกเตอร์คนละแบบ ดูว่าเขาสามารถเล่นได้ขนาดไหน ถ้าแฟนคลับของเขาก็จะได้เห็นความสามารถของเขาอีกแบบหนึ่ง การเป็นนักแสดงเล่นได้ทุกบทบาท สามารถเล่นได้ทั้งอารมณ์และตัวละครต่างๆ ในบทอันนี้ถือว่าการแสดงน่าติดตาม"

สถานที่ตรงนี้ บ้านหลังนี้คือบ้านหลังเก่าแล้วเอามารีโนเวทใหม่ คือเป็นบ้านที่มีอยู่แล้วใช่ไหม?

"อ๋อ ไม่ๆ บ้านหลังนี้เราสร้างใหม่ขึ้นมาเอง ตามพล็อตเรื่องของเราเลย ว่าเราจะทำบ้านที่มีเสาตกน้ำมัน แล้วก็หาเสาอะไรที่มันเหมือน ตัวบ้านจะเป็นยังไงเราก็ดีไซน์กับทีมอาร์ต ทีมโปรดักชั่นของเราก็จะดีไซน์ออกมาว่ามันเป็นยังไง มันมีฟังก์ชันหลายหลายอย่างที่ทำออกมาเพื่อการถ่ายทำโดยเฉพาะ เปิดผนังได้ เปิดพื้นชั้นสองได้ เราสร้างใหม่เพื่อละครเรื่องนี้โดยเฉพาะ อย่างซีซั่น 3 แล้วก็รีโนเวทใหม่หมด อันนี้คือการลงทุนใหม่ สร้างขึ้นมาเพื่อให้ตรงตามบท สามารถไปอาศัยอยู่ได้เลย (หัวเราะ)"

เคยเจอเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นกับบ้านหลังนี้ไหม?

"ที่นี่ยังไม่เคยเจอครับ แต่ถ้าพูดกันจริงๆ ต้องถามทีมอาร์ต อันนี้เจอกันทั้งทีม เจอทุกที วิ่งจากข้างบนลงมาเลย ซึ่งเขาได้มาเล่าให้ฟัง ก็คิดว่าเขาจะโกหกทำไม เพราะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย และไม่ได้มีใครรู้จักเขาด้วย เขาก็จะไม่กล้าเข้ามาอยู่ อยู่กันแค่หนึ่งถึงสองคนก็ไม่ได้ ต้องอยู่รวมกันแบบเยอะๆ ซึ่งเจอกันหมด"

ส่วนตัวพี่เป็นคนเชื่อเรื่องพวกนี้ไหม?

"เชื่อ ไม่เชื่อจะมาทำเรื่องนี้ได้ยังไง อย่างถ้ามีเราก็ต้องมีอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน สักวันหนึ่งเราก็ต้องตาย ปัญหาคือเราตายแล้วเราไปไหน อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องหาคำตอบ มันมีจริงโลกของวิญญาณ"

ซีซั่นนี้กดดันมากน้อยแค่ไหน เพราะ 2 ซีซั่นที่ผ่านมา เสียงตอบรับดีมาก?

"ปัญหาตรงนี้อยู่ที่คนเขียนบทแล้ว บทดีไม่ดีอยู่ที่คนเขียนบท ทีมผลิตเขาเต็มที่อยู่แล้ว ขอให้บทมาเขาก็ทำงานได้ ซึ่งตัวบทสำคัญไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือละครก็แล้วแต่บทสำคัญมาก

และเราทุ่มเรื่องบทกันเยอะมาก เพราะจะเปิดให้ทีมไปอ่านบทก่อน แล้วมาช่วยกันคิดว่า ตรงไหนมันอ่อนไปหรือมันเป็นยังไง มาหาเหตุผลที่ถูกต้องเพื่อให้มันดีที่สุด"

ตั้งแต่วันแรกที่เราก่อตั้งบริษัท ทวินเฟลม ขึ้นมา เราเห็นการเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง?

"ก่อตั้งบริษัท ทวินเฟลม เมื่อช่วงเดือนตุลา 2560 ปีนี้ก็เป็นปีที่ 7 แล้ว สิ่งที่เราเห็นชัดๆ ก็คือพัฒนาการของพนักงาน ในตอนก่อตั้งมีอยู่ประมาณ 13 คน พอถึงวันนี้มี 100 กว่าคน แล้วบริษัทก็เติบโตใหญ่ขึ้นทำงานกันมากขึ้น

และสิ่งสำคัญก็คือพนักงานที่ทำงานอยู่นี่ 98% ทุกคนสนุกและรักที่จะทำงานให้บริษัท ซึ่งเราก็มีความรู้สึกว่าโชคดี และอีกอย่างหนึ่ง คุณยิ่งลักษณ์ วัชรพล เจ้าของ ก็ดูแลพนักงานทุกคนดีมาก สิ่งที่สำคัญก็คืออุปกรณ์และความพร้อม เขาทุ่มเทให้เต็มที่ บุคลากรซึ่งเป็นฝ่ายผลิตก็ต้องช่วยกัน

อย่างที่บอกทุกคนให้ความร่วมมือทุกคนทุ่มเทในการทำงาน เพราะฉะนั้น 2 ส่วนนี้ถ้าไปด้วยกันได้ นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่มันเดินมาตลอดจนถึงปีนี้ เรามีความรู้สึกว่าเรารักพวกเขาทุกคนและรักบริษัท"

ละครที่ออกมาแต่ละเรื่องฟีดแบ็กก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ชื่นใจไหม?

"นั่นแหละมันเป็นกำลังใจสำหรับพวกเราเลยนะ สำคัญมากเลย แต่ก็ต้องมองด้วยนะว่า เราทุ่มเทถูกทางมั้ย ไม่ใช่สิ่งที่เราทุ่มเทไปไม่เห็นจะดีเลย อย่างนี้ไม่ได้ เราต้องปรับตัวเราเอง อันนี้สำคัญ"

ในซีซั่น 3 จะมีทั้งหมดกี่ตอน?

"7 เรื่อง 16 ตอน เพราะตอน ตรวนครวญ มี 4 ตอน

เราใช้ในการเลือกเรื่องที่จะนำมาอยู่ในซีซั่น 3 ยังไง

"เราจะมีการคุยกันก่อนว่าเราจะเขียนเรื่องอะไร ทีมเขียนบท 4 คนก็มาคุย เขาจะมาเสนอว่าแบบนี้ดีมั้ย ถ้าเราว่ามันไม่ดี เขาก็จะมาเสนอใหม่ พอเรื่องเขาเล่าออกมาว่ามันน่าสนใจเราโอเค ไปเขียนทรีตเมนต์ออกมา ถ้าโอเคก็ไปทำบทมา เราก็จะมาตรวจอีกทีว่าบทโอเคมั้ย มีเหตุมีผลรับรองดีมั้ย เรื่องเราดูแล้วมันเชื่อได้มั้ย สนุกมั้ย ให้ความคิดหรือมุมมองที่น่าติดตาม เป็นขั้นตอนออกมา"

ฝากติดตามละครบ้านโชคดีซีซั่น 3 ตอน เงาบาป จะออนแอร์เป็นตอนแรก?

"จากซีซั่น 1 หรือซีซั่น 2 เรื่องที่บริษัททวินเฟลมทำ แล้วออนแอร์ทางไทยรัฐช่อง 32 ต่อไปนี้เราอันเดอร์ ให้กับทางไทยรัฐด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะต้องทำให้ดีกว่าเมื่อก่อนนี้ ก็คือเหมือนเรารับความรับผิดชอบในส่วนนี้ของไทยรัฐมา เราต้องยิ่งทำให้ดีกว่า ละเอียดกว่า เราก็เลยอยากให้ติดตามกัน ดูความเปลี่ยนแปลง ในแง่มุมของทางภาพและเรื่องราว

ผมว่าน่าสนใจแล้วก็ ถ้าพูดถึงตัวบท ผมเป็นคนดูเองมีความมั่นใจว่า เป็นงานที่ควรค่าแก่การสนับสนุน ขอให้ผู้ชมติดตามดูและให้คอมเมนต์ข้อคิดเห็นต่างๆ เพราะสิ่งต่างๆที่เราได้รับมันจะมาเป็นตัวแปรที่ทำให้เรากลับไปผลิตงาน ว่าจะเสริมแต่งอะไรให้มันดูสมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ขอฝากไว้ด้วยนะครับ"

ติชมได้นะครับรอกำลังใจจากทุกคน อยากจะฝากให้มาชมกันเยอะๆ เป็นกำลังใจให้พวกเราฝ่ายผลิต ผลงาน ละครไม่ใช่แค่เรื่องบ้านโชคดีอย่างเดียว อาจจะเป็น เรื่องอื่นๆ ต่อๆ ไป ถ้าคนดูมีฟีดแบ็กกลับมาดี ผลงานเราก็ออกสู่สายตาผู้ชมเยอะขึ้นและก็ดียิ่งๆ ขึ้นไปด้วยครับ".