โดยพนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยื่นคำร้องขอฝากขัง แพท ณปภา ตันตระกูล รายละเอียดระบุว่า พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานพบว่า เบนซ์ เรซซิ่ง ได้โอนเงินให้แพท ณปภา ระหว่างเดือนเมษายน 2559 ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560 จำนวน 18 ครั้ง เป็นเงิน 1,983,000 บาท

ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่โอนให้กับนายอัครกิตติ์ ซึ่งต่อมา แพท ณปภา ได้โอนเงินคืนให้กับนายอัครกิตติ์ จำนวน 443,872 บาท ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 1,539,128 บาท แพท ณปภา ได้ถอนเงินดังกล่าวมอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

คณะพนักงานสอบสวนเชื่อว่าการกระทำของ แพท ณปภา เป็นความผิดฐานฟอกเงิน และสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุได้มีการสมคบกัน จึงออกหมายเรียก แพท ณปภา มารับทราบข้อกล่าวหา และขออำนาจศาลฝากขัง

ในชั้นสอบสวน แพท ณปภา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และคดีนี้พนักงานสอบสวนได้สอบสวนผู้ต้องหาในคดียังไม่แล้วเสร็จ จะต้องสอบพยานอีก 7 ปาก รอผลตรวจสอบพิมพ์ลายนิ้วมือจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร และรวบรวมพยานเอกสารหลักฐานประกอบสำนวนการสอบสวน และท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว แพท ณปภา

...

โดยล่าสุดศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราว แพท ณปภา แล้ว โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 แสนบาท และให้มารายงานตัวกับศาลในวันที่ 3 ก.ค.นี้ โดยเจ้าตัวบอกว่ารู้สึกโล่งอก และจะเดินทางกลับไปเลี้ยงลูกที่บ้านต่อไป โดยที่ผ่านมาไม่ได้หลีกเลี่ยงเข้าพบเจ้าหน้าที่ตามหมายเรียกแต่อย่างใด เเต่เป็นช่วงติดกับวันหยุดทำให้เตรียมเอกสารต่างๆไม่ทัน

ด้านนายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางนาวสาวณปภา ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 500,000 บาท ในการยืนต่อศาลขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งศาลก็ได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากไม่มีพฤติกรรมหลบหนี โดยมีข้อแม้ว่า ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

อีกทั้งในส่วนการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนนั้น นางสาวณปภา ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาไว้ จำนวน 2 ข้อหา

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ให้นางสาวณปภาชี้แจ้งที่มาของเงินจำนวน 1.9 ล้านบาท ที่นายอัครกิตติ์ สามี โอนเข้าบัญชี ซึ่งในประเด็นดัวกล่าวนางสาวณปภา และที่มาของเงินบัญชี ซึ่งติดปัญหาเรื่องบัญชีรายรับรายจ่าย จำนวน 622 รายการ ซึ่งใน 18 รายการ จำไม่ได้ว่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

นายอาคม ยังระบุเพิ่มเติมว่า ตนเองได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อศาล ให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบพยานหลักฐานว่าถูกต้องหรือไม่ ก่อนจะส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องคดี เนื่องจากลูกความของตนเองอยู่ในสถานะใกล้ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว และในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ศาลอาญารัชดา ได้นัดให้นางสาวณปภามารายงานตัวอีกครั้ง.