หลังจากที่ ไวตามิน เอ หรือ อิทธิพลธนินทร์ เดชฤกษ์ปาน ที่ปล่อยซิงเกิล เธอครางชื่อใคร พร้อมกับชวนศิลปินร่วมค่ายอาร์เอสในอดีต อาร์ม โต้รุ่ง มาฟีเจอริงกัน เรียกว่าเป็นการคัมแบ็กวงการเพลงแบบ 100% เต็มในรอบ 22 ปี สำหรับตัวพ่อขาแดนซ์ยุค 90 เจ้าของเพลงฮิตในตำนานอย่าง มองนานๆ
ล่าสุด เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์ถึงการกลับมาจับไมค์ในฐานะศิลปินหน้าใหม่วัยลุง อายุ 55 ปี แต่เอเนอร์จี้ยังฟิตปั๋ง ที่งานนี้ เจ้าตัวทุ่มแบบสุดๆ แต่งเอง ร้องเอง ทำเพลงเองทุกขั้นตอน ซึ่งเอได้เปิดใจถึงความรู้สึกหลังจากที่ปล่อยเพลงนี้ให้ฟังว่า
การคัมแบ็กกลับมาในรอบ 22 อะไรที่ทำให้รู้ว่าถึงเวลาที่ต้องคัมแบ็ก?
อย่างแรกคือมีแพชชั่นจากเพลง มองนานๆ เนื่องจากเพลงมองนานๆ ได้ผลตอบรับที่ดี เพลงยังไม่เก่า ทำให้คนย้อนกลับไปดู MV เก่าๆ ของเรา แล้วเหมือนกับปลุกกระแส ปลุกไฟในตัวเรา
ประเด็นที่ 2 ที่หยุดหายไปเพราะมีความเฟลเรื่องแผ่น mp3 ในสมัยก่อน ที่เขาดูแลเราไม่ได้ และในยุคนี้มันเป็นเรื่องของสตรีมมิ่ง ซึ่งมันก็ชัดเจนตรงไปตรงมา ในเรื่องของกำลังใจในการทำงาน ผลตอบแทนต่างๆ มันก็ทำให้เราอยู่ได้
จริงๆ ก็คิดถึงอยู่ตลอด อยากออนสเตจตลอด แต่ภาระมันมี ก็ต้องทำในสิ่งที่ดูแลตัวเองและครอบครัวให้ได้ก่อน แต่ตอนนี้เราอยู่ตัวระดับนึง ภาระหน้าที่อะไรก็เบาบางไป อายุอานามของเราก็น่าส่งท้าย ทำให้เราอยากกลับขึ้นมาอีกที
อย่างเรื่องของศิลปินยุค 90 ที่นิยมกลับมาอีกครั้ง แล้วเราก็เว้นวรรคไปนานเหมือนกัน เราก็ไม่ได้อยากเป็นศิลปิน 90 เท่าไหร่ เราอยากเป็นศิลปินปัจจุบัน ก็เลยอยากทำเพลงใหม่ขึ้นมา มีแรงบรรดาลใจใหม่ๆ
กลับมาคราวนี้มันยิ่งกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา มันเหมือนยิ่งปะทุ อัดอั้น เพราะว่าเราเบรกไปนาน เมื่อก่อนเราทำเพลงประจำ แต่พอมันหยุดไปเราก็คิดถึง เพราะเนื่องจากมันไม่เอื้ออำนวย เราก็เหมือนฝืนใจตัวเอง แต่มาคราวนี้มันเหมือนพลุ่งพล่านไปหมดเลย
...
กลับมาในวัย 55 รู้สึกยังไงบ้าง?
หลายๆ คนก็บอกว่า ไม่ต้องทำแล้ว อยู่เป็นตำนานไปดีกว่ามั้ย แต่เราเป็นคนดนตรี เป็นนักดนตรีมืออาชีพ เป็นนักร้องมืออาชีพ เป็นมืออาชีพทางด้านนี้ เป็นโปรดิวซ์เซอร์อะไรต่างๆ ทำไปเหอะ ทำไปจนกว่าเราจะไม่ไหวแล้วก็ได้
ในช่วงวัยหนุ่มเราอาจจะทำเพื่อความสำเร็จใช่มั้ย แต่ในวัยนี้ที่เรากลับมาทำอีกครั้งหนึ่ง เรารักมันและเราอยากทำ เหมือนถ้าเราจะลาวงการไป ตอนนั้นเราไม่ได้บอกลาเลย เพราะมันเงียบไปเฉยๆ เพราะว่าภาวะที่มันกระทบเรา แต่ตอนนี้เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกลา ก็ทำเพลงไปแล้วมีความสุขกับการทำ
แสดงว่ารู้สึกไม่โอเคกับการที่มีคนบอกว่า เป็นตำนานไปเลยดีกว่ามั้ย?
ใช่ๆ เราไม่แคร์ตรงนั้นครับ เพราะว่าคนที่ทักหรือท้วงติงว่า เมื่อก่อนเราดังมากนะ กลับมาไม่กลัวไม่ดังเหมือนเดิมหรอ แต่พี่ว่านั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือทำแล้วเรามีความสุขมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป เราน่าจะทำนะ คนที่มีความสุขกับเบื้องหน้า พี่เชื่อว่าน่าจะมีคนที่ความมรู้สึกเหมือนกัน คือมันคิดถึง มันอยากจะทำ
แต่ว่าอาจจะเกิดจากความไม่มั่นใจในตัวเอง เช่น อายุมากไปแล้ว อะไรอย่างงี้รึเปล่า แต่พี่คิดว่า พี่ว่าพี่ไหว พี่ว่าพี่ทำได้ แล้วก็อย่างปลายปีที่ผ่านมา กระแสร่างทอง ที่คนแห่กันไปออกกำลังกาย พี่ก็ไปเหมือนกัน ก็น้ำหนักลดลง รูปร่างดีขึ้น ดูแลตัวเอง ก็รู็สึก เห้ยได้สิ ยังไหว ยังไม่ถึงขั้นลุง
แต่ตอนเปิดตัวก็ใช้คำว่าลุงนะ?
ก็วัยมันลุงแล้ว แต่เป็นลุงปึ๋งปั๋งอะไรอย่างงี้แทน (ยิ้ม)
แล้วพี่เอก็ไม่ได้กลับมาคนเดียวด้วย ดึง อาร์ม โต้รุ่ง มาด้วย?
จริงๆ แล้วตอนแรกว่าจะมาคนเดียว แต่จังหวะพอดี อาร์มเขาทักมา แล้วก็รื้อฟื้นความหลังกัน เขาก็อยากกลับมาทำอะไรสนุกๆ เราก็ได้เลย เดี๋ยวพี่จัดให้ พอดีพี่ก็ออกซิงเกิลใหม่พอดี ก็ไม่เป็นไร ก็กลายเป็นว่าเปลี่ยนคอนเซ็ปนิดหน่อย ตอนแรกว่าจะเปิดตัวก่อนใช่มั้ย แต่อาร์มมาด้วย ก็พ่วงกัน ไปพร้อมๆกันก็ช่วยกันดี
มันเป็นเหมือนการก้าวผ่านความรู้สึกอะไรหลายๆ อย่าง อายุมากขึ้น พอต้องมาทำอะไรในยุคเด็กเจนใหม่มีคววามกดดันอะไรมั้ย?
...
มันก็มีนะ แต่พี่ไม่พยายามเอาสิ่งนั้นมาครอบไว้ว่า เราจะสู้เขาไหวมั้ยนะ เราจะนู่นเราจะนี่ พอพี่ไปทำงานส่วนตัว ไปทำธุรกิจนู่นนี่ มันก็สอนเราว่า อุปสรรคมันก็มีอยู่แล้วล่ะ เราจะต้องเจอคู่แข่งใหม่ๆ อยู่แล้วล่ะ
คนที่ทำธุรกิจหรือคนที่ทำงานด้วยการยืนด้วยขาของตัวเองมาแล้วเนี่ย มันจะตอบตัวเองได้อยู่แล้วว่ามันต้องมีอยู่แล้ว อุปสรรค ทำไปเหอะ รอมันสำเร็จ หรือรอวันที่ใช่ มันจะภูมิใจมากกว่าที่เราจะมานั่งคิดว่า กลัวนู่นกลัวนี่
เพราะฉะนั้นพี่ก็เลยตัดเรื่องความกลัวหรือความกังวลอะไรไป ไม่สนใจหรอก เราแค่ทำแล้วเรามองตัวเองแล้วเรามีความสุขรึเปล่า ถ้าเรามีความสุขกับสิ่งที่เราทำอยู่ก็ไม่เป็นไร คำฟีดแบ็คมายังไงเราก็รับได้หมด
แต่เห็นบอกว่าเพลงนี้ ทำเองทั้งหมด?
จริงๆ แล้วหลายๆ คนอาจจะไม่รู้ เมื่อก่อนพี่ก็ทำเองทั้งหมดนะ เนื้อร้อง ทำนอง เรียบเรียง พี่ก็ทำเองทั้งหมด 1 อัลบั้ม เมื่อก่อนมี 10 เพลง มีเพลงที่พี่ไม่ถนัดที่จะทำ อย่างมากไม่เกิน 2 เพลง
และส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพลงช้า แต่เพลงเร็วก็รวบทุกเพลง พอมายุคนี้มันก็เป็นเรื่องที่เราเคยทำมาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอาจจะมากขึ้นด้วยซ้ำไป เพราะเมื่อก่อนมีค่าย อันนี้เราก็ต้องทำงานเบท้องหลังด้วย หลังบ้านด้านดิจิตอลอะไรต่างๆด้วยตัวเอง เพิ่มมากขึ้นอีกด้วยซ้ำไป
...
เพลงนี้มันได้แรงบันดาลใจมาจากอะไรยังไง?
เอาเป็นว่ามันเป็นคอนเซ็ปต์ละกัน จริงๆ แล้ว คนเป็นนักแต่งเพลงหรือโปรดิวเซอร์ก็ทำได้ทุกแนวแหละ แต่ทีนี้พอมีอาร์มเข้ามาปุ๊บ เราก็ย้อนไปดูว่า อาร์มเค้าจะออกแนวจิ๊กโก๋ๆ หน่อย แฟนๆ เขาก็บแบบว่า มาโต้รุ่งกันหน่อย เราก็เลยคิดว่า น่าจะหาคำที่เรากับอาร์มจะมาแชร์คอนเซ็ปต์กันคนละครึ่งหนึ่ง จิ๊กโก๋ผสมกับสายแดนซ์ ในท่อนที่พี่ร้องมันก็จะเป็นแบบแดนซ์ๆ หน่อย แต่พอท่อนฮุก เนื้อร้อง หรือชื่อเพลงอย่าง เธอครางชื่อใคร มันก็โจ๋ะๆ ดีเหมาะกับอาร์ม แล้วก็ผสมกับพี่เข้าไป เลยเป็นคอนเซ็ปต์แบบนี้
พอปล่อยเพลงออกมาเป็นไงบ้าง?
เหมือนเลี้ยงลูกเลย ก็เฝ้าดูการเติบโตของมัน ถ้าดูคลิปตัวเอง ส่วนตัวก็น่าจะดูเป็นร้อยรอบละมั้ง (ปั่นวิวๆ) ไม่หรอก ดูไปมันก็เช็กตัวเองไง ว่าถ้าเป็นคนอื่นเขามอง เขาจะมองเป็นแบบไหนนะ
กลุ่มแฟนๆ เขาจะคิดถึงเราบ้างมั้ยน้า หรือจะมีอะไรบกพร่องที่เราจะพอพัฒนาไปต่อได้อีกมั้ย ก็ทั้งตื่นเต้น ทั้งประคบประหงม ทั้งเรียนรู้ ทั้งเช็กกระแส
ฟีดแบ็กดีมากครับ ถ้าตีว่า 95% ขึ้นไป หลายๆ คนก็ชื่นชม และให้กำลังใจครับ จะมี 1% นิดหน่อยที่ อาจจะไม่เข้าหู แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นครับ เหรียญมี 2 ด้านเสมอครับ สบายมาก
...
แล้วด้วยความที่เราก็อยู่ตรงนี้มานาน มันก็ต้องมีทั้งคำชม แล้วก็คำวิจารณ์?
คำวิจารณ์เราก็ดูเฉยๆ ว่ามันตรงกับที่เขาวิจารณ์มั้ย หรือแค่ป่วนเฉยๆ ในอินเตอร์เน็ต บางทีเราก็ต้องเจออยู่แล้ว มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่เท่าที่ดูก็คือป่วน ก็ไม่สนใจ
ถ้าอยากฟังเพลงนี้ต้องติดตามจากที่ไหนได้?
ชื่อเพลงนี้ค่อนข้างจะยูนีค เสริชได้ทุกช่องทางเลยครับ เธอครางชื่อใคร ก็มีอยู่เจ้าเดียวในโลกออนไลน์ครับ หรือทาง ไวตามินเอ มิวสิค ทุกช่องทางเหมือนกันครับ ในสื่อโซเชียลมีเดีย