หยุดพักผ่อนไปเที่ยวจังหวัดน่านมา 3 วัน แต่แฟนรายการคิดถึงครูกะปิหนักมาก ถึงขั้นเรียกร้องให้รีบกลับมาทำงานได้แล้ว ซึ่งล่าสุด หนุ่ม กรรชัย ก็กลับมาประจำหน้าจอข่าวเที่ยงช่อง 3 และรายการ โหนกระแส เหมือนเดิมแล้ว หลังหลีกหนีความวุ่นวายไปเติมพลัง เพื่อรีเซ็ตตัวเองใหม่ ปิดรับทุกสิ่งทุกอย่าง ตัดออกจากสาระบบไป 3 วัน
ล่าสุดได้มีโอกาสเจอกับ พี่หนุ่ม ขณะมารับรางวัลในงาน Dailynews Awards 2024 ที่เอ็มสเฟียร์ เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ว่า
ก็โอเคที่หลายคนตั้งชื่อให้ ทั้งพี่หนุ่ม ครูกะปิ อาหวัง รู้สึกน่ารักดี ก็โอเค ช่วงที่พักงานแล้วไปเที่ยว รู้สึกสนุกมาก แฮปปี้มาก อยากจะเชิญชวนคนไทยทุกคนถ้าปีใหม่ไม่ได้ไปไหน อยากให้ไปเที่ยวน่าน พี่เองเพิ่งเคยได้ไป ชอบมาก น่าเที่ยวมาก มันเป็นเมืองน่ารัก เงียบๆ ถนนสวยมาก
ทริปนี้เราเหมือนได้พักผ่อน แม้จะไปแค่ 3 วัน แต่เป็น 3 วันที่ได้ตัดทุกสิ่งทุกอย่างออกจากสาระบบเลย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข่าวเลย คือจริงๆ น้อยมากที่จะมีโอกาสได้หยุด ยิ่งช่วงหลายปีหลังไม่ได้หยุดเลย ทำอยู่หน้าจอตลอด พอครั้งนี้ได้มีโอกาส ได้หยุดประมาณ 9 วัน แต่ว่าหยุดทำงานไปประมาณ 5 วัน
...
ขอบคุณมากที่หลายคนคิดถึงและอยากให้มาทำ แต่บางทีเครื่องจักรยังมีพักบ้าง เราเป็นมนุษย์ ก็ต้องขอความเห็นใจนิดหนึ่ง พักสักนิดหนึ่ง ไม่ได้หายไปไหน ก็กลับมาส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของข่าว ซึ่งเราไม่ได้ดูเลย เดี๋ยวก็ออกหมายจับ ออกหมายเรียก อย่าเรียกเลยว่า เราเป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี ฟังแล้วน่ากลัว ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในกระบอกเสียง และเราก็ไม่ได้เป็นมาเฟีย
ส่วนเรื่องผมยาวก็อยากจะปล่อยผม ถ้าสังเกตตอนไปเที่ยวน่าน ผมยาวเป็นพี่เสก โลโซ เลย ตอนนี้เล็มออกไปบ้างแล้ว เคยไว้ผมมาทุกทรงแล้ว ทั้งผมสั้น สกินเฮด มาตอนนี้มีโอกาสลองไว้ผมยาวดู ได้เปลี่ยนเป็นอีกแบบหนึ่ง อยากเป็นตัวเองให้ได้มากที่สุด โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ปกติแต่ก่อนถ้าเป็นผู้ประกาศต้องผมเรียบๆ สั้นๆ แต่ตอนนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว
ประเด็นของข่าวใหญ่ ช่อง 3 ที่เอาพนักงานออก สำหรับตนเองต้องขอแสดงความเสียใจกับพี่น้องที่ทำงานกับช่อง 3 พอมาวันนี้ต้องถูกเลย์ออฟออกไป แต่สำหรับตัวเองเชื่อว่า พนักงานช่อง 3 ทุกคนเข้าใจ เพราะเรามองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก บริษัทต้องมีโครงสร้างของเขา สำคัญที่สุดมันคือนโยบาย มันเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่บริษัทต้องมีพัฒนาเปลี่ยนแปลง มันเป็นเรื่องปกติ ผมเชื่อว่าทุกบริษัท ทุกช่อง ทุกสถานี ก็มีลักษณะแบบนี้ เพียงแต่ว่ามันไม่มีข่าวออกมา
เปรียบเสมือนที่เราเป็นโรคร้าย เราก็ต้องตัดขาข้างหนึ่งเพื่อพยุงชีวิตตัวเองให้มันรอด ถ้ามันจำเป็นต้องเป็น เป็นเรื่องของระบบและนโยบาย มันไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องที่ต้องคงอยู่เอาไว้ขององค์กรนั่นเอง
ถามว่ากระทบมั้ย ถ้าโดยตรงคงไม่มี แต่ว่าในมุมของการทำข่าว อาจจะมีบ้างแต่ไม่ได้กระทบมากมายอะไรนัก แต่มันก็ต้องเป็นไปตามระบบกลไกการทำงานอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของผู้ประกาศ ตรงนี้ยังไม่ทราบในนโยบาย อีกอย่างเป็นนโยบายภายใน จะพูดมากก็ไม่ได้ เอาไว้รอทางช่องเขาบอกเองดีกว่า ไม่ต้องตื่นตระหนกอะไร มองว่าเป็นเรื่องของปรับโครงสร้าง และมองว่าพนักงานที่โดนเลย์ออฟเข้าใจ และเขาก็ไม่ได้ออกมือเปล่า ได้เงินชดเชยตามสมควร เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหาอะไร
อย่างพนักงานของช่องฝ่ายข่าวเขาออกไป แต่เขาก็กลับมาทำให้กับ โหนกระแส ซึ่งเราก็จ้างพิเศษ เขาก็ได้ทั้งเงินชดเชยและได้เงินเดือนจากเรา ถ้าเราคิดบวกก็ดี อย่าไปคิดอะไรในแง่ลบเลย
...