จากกรณีที่ ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี พร้อม ทนายเดชา และ ทนายกุ้ง ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงประเด็นปัญหาเกี่ยวกับปม ดารา ป.ปลา และมีสามีเป็นนักการเมือง ได้กู้ยืมเงิน จ่ายเช็คเด้ง 2 ล้านบาทนั้น
ล่าสุดทางด้าน ปู มัณฑนา พร้อมด้วยสามี หาญส์ ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ พร้อมทีมทนายความนำโดย ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ได้เข้าให้การต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ และแถลงข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
ลูกหมี เผชิญหน้า ปู มัณฑนา
ลั่น! ควรเอาเงินจ้างทนายมาใช้หนี้
เวลา 13.15 น. ลูกหมี รัศมี และลิลลี่ เหงียน ได้เดินมา สน.ทองหล่อ เพื่อเจรจา ปู มัณฑนา ซึ่งทาง ลูกหมี พร้อมด้วย ทนายเดชา ได้เผยว่า
"ที่เราให้พี่เขายืมเงิน ก็อยากได้เงินคืน 2 ล้าน ซึ่ง 2 ล้านนี้เป็นเงินต้นอย่างเดียว บอกตรงๆ ไม่เคยให้ใครยืมเงินและไม่เคยให้ใครปล่อยกู้ และพี่เขายืมเงิน เป็นคนจัดการเองทั้งหมด ก็ไม่รู้ว่าถ้าเราได้ดอกเบี้ย เราต้องได้เท่าไร ข้อความแชตก็มีตั้งแต่ต้นที่เราได้คุยกัน
รู้สึกว่า เขามีเงินใช้จ่ายในครอบครัวแบบดูดี ใช้จ่ายได้อย่างสบายใจ มองว่าการที่เขาเอาเงินไปจ้างทนาย น่าจะเอามาคืนเราซะจะดีกว่า คิดว่าเป็นทัศนคติที่ไม่โอเค
การฟ้องร้องครั้งนี้ไม่กังวลอะไร เพราะเจตนาของเราคืออยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าให้ใครยืมเงิน และวันนี้เป็นการเจอกันครั้งแรก ก็อยากไกล่เกลี่ยให้จบ ไม่ว่าเขาจะมาแบบไหน เราก็ยินดีทุกรูปแบบ แค่ต้องการ 2 ล้านบาทคืน ก็หวังว่าพี่เขาจะคืนเงิน"
...
ทนายเดชา แนะนำ
เป็นหนี้ต้องใช้ ไม่ใช่ฟ้องกลับ!
ด้าน ทนายเดชา เผยว่า เป็นหนี้ต้องใช้ ไม่ใช่ฟ้องกลับ ผมรู้จักทุกคนเป็นอย่างดี คิดว่าวันนี้จะตกลงกันได้ คิดว่าพี่ประมาณคงจะไม่พา ปู มาดำเนินคดีกับ ลูกหมี เรื่องดอกเบี้ย สบายใจได้ ที่บอกว่าดอกเบี้ย 1,200% ไม่มีแน่นอน มีหลักฐานการโอนเงิน และมีคลิปเสียงคู่กรณี ส่วนกฎหมายเรื่องดอกเบี้ย เราไม่เคยไปเรียกจากฝั่งลูกหนี้ ลูกหนี้เขาบอกเอง
เราไม่กังวลอะไร กลัวแค่เขาจะไม่จ่าย ถ้าตกลงกันได้ก็ไม่มีอะไร ซึ่งเราก็ได้โทรไปหาทนายอีกฝั่งแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้ เดี๋ยวก็คงจะได้คุยกัน เรื่องคดีพลิกคิดว่าไม่มี ไม่มีหลักฐานชัด เรากลัวแค่พลิกลิ้นอย่างเดียว ความหวังก็อยู่ที่ทนายอีกฝั่ง รอดูว่าเขาจะเอายังไง เราก็ยินดี
ลิลลี่ เหงียน ฝากถึงพี่ปู
เข้าใจว่าลำบากแต่ยืมแล้วคืนด้วย
นักแสดงสาว ลิลลี่ เหงียน ก็เป็นอีก 1 คน ที่โดน ปู มัณฑนา ยืมเงินด้วยเช่นกัน โดยเจ้าตัวได้เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อวันนี้ด้วย
"มาวันนี้ก็อยากมาเจอ แต่ยังไม่มีโอกาสได้เจรจากัน แค่ยิ้มให้กันเฉยๆ เพราะพี่ปูติดคุยกับพี่ลูกหมี ตนเองต้องรีบไปทำงานก่อน
ลิลลี่ ยอมรับว่า เรื่องที่โกรธพี่ปูมากที่สุด เพิ่งได้ฟังจากอีกคนคือ เขายืมเงินเราไป 70,000 เพื่อเอาไปใช้หนี้คนอื่น แต่ทำไมถึงไม่คืนเรา
ก่อนหน้านั้นเราคุยกันบ่อยมาก มีแค่ช่วง 2-3 วันนี้ไม่ได้คุยกัน หวังว่าพี่ปูจะคืนเงิน 70,000 นี้ก่อน ส่วนยอดรวมทั้งหมดตอนนี้ที่พี่ปูติด 670,000 บาท อยากให้พี่เขาช่วยเมตตาหนูหน่อย คืนมาก่อน 2,000-3,000 ก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้สักบาทก็จะแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
ถ้าพี่เขาจะขอเวลา 1 สัปดาห์หรือ 1 เดือน ก็จะให้โอกาสพี่เขา ได้หาเงินมาคืน เพราะเข้าใจว่าลำบากมาก แต่นั่นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ยังไงก็รออยากให้พี่เขาเอาเงินมาคืน"
ทนายประมาณ เผยอีกมุม
ปู มัณฑนา น่าสงสารที่สุด
จากนั้นช่วงบ่าย ปู มัณฑนา และ หาญส์ ได้เดินลงมาจาก สน.ทองหล่อ พร้อมกับทนาย จากนั้นก็ได้มาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่รออยู่
ซึ่งทาง ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช บอกว่า ปู มัณฑนา เป็นบุคคลน่าสงสาร ที่ถูกทำลายชื่อเสียง จากนั้นทางทนายก็ได้โชว์ชาร์ตสเตทเมนต์อันใหญ่ซึ่งเป็นเงินที่ทาง ลูกหมี โอนมา และ ปู ได้โอนกลับ ในตอนแรกโอนมา 9.5 หมื่น มาปล่อยกู้ก่อน จากนั้นโอนมา 8.5 แสนบาท ปล่อยกู้ 3 เดือน ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อ 3 เดือน ซึ่งก็ต้องจ่ายเช็คเป็นเงิน 1 ล้านบาท
แล้วก็มีการโอนไปโอนมา ซึ่งรวมๆ แล้วอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1,825 ต่อปี และให้ ปู จ่ายเช็คใบที่ 2 เป็นเงิน 9 แสนบาท เช็ค 2 ใบรวมเป็นเงิน 1.9 ล้านบาท ซึ่งนี่คือต้นกำเนิดของหนี้ 2 ล้านบาท
...
จากนั้นทนายประมาณก็ได้มีการอธิบายถึงเงินทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 - 2 พ.ค. 2567 มีทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย พร้อมกับบอกว่า ลูกหมี ได้ลดยอดให้จาก 2.2 ล้าน เหลือ 2 ล้าน และได้มีการไปแจ้งความว่า ปูเป็นลูกหนี้ตน 2 ล้านบาท และยังไม่คืนเงิน
นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ในวันที่ 29 มี.ค. ลูกหมีได้ทำสัญญากู้เปล่าๆ มาให้ ปู เซ็น และปูก็เซ็นกลับไป อีกทั้งยังได้เผยแชตที่ลูกหมีกับปูคุยกัน เป็นข้อความในทำนองที่ ลูกหมี ทักหา ปู มัณฑนา ให้โอนเงินและดอกเบี้ยคืนให้
อยากให้ลูกหมีเอาความจริงมากพูด เดือน ม.ค. กับ ก.พ. ยังซัดทั้งต้นทั้งดอกกับเขา พอเดือน เม.ย. ปู เงินช็อต เพราะโดนเพื่อนโกง คือเงินมันขาดมือ มันไม่ใช่เหตุที่จะไม่ชำระหนี้ แต่มันเป็นเหตุที่เจ้าหนี้ลูกหนี้เป็นเพื่อนกัน
คุณต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย ผ่อนสั้นผ่อนยาวกัน ไม่ใช่พอจ่ายช้าแค่วันเดียว แจ้งความเลย และสัญญากู้เงิน 2 ล้าน ไม่ใช่มูลหนี้ที่มีอยู่จริง มีดอกเบี้ยผิดกฎหมายรวมอยู่ในนั้น
วันนี้เลยจำเป็นที่ต้องพา ปู มา สน. เพื่อไกล่เกลี่ย และยื่นข้อเสนอว่า 1.4 ล้าน เป็นเงินที่ปูกับหาญส์พร้อมจะรับผิดชอบ จะแยกสดก้อนเดียว หรือแยกก้อนจ่ายก็ไม่มีปัญหา
แต่ปัญหาอยู่ที่คุณทำให้ชื่อเสียงครอบครัวเขาเสียหายทุกวันนี้คุณจะรับผิดชอบยังไง มี 2 แนวทาง คือผมจะไกล่เกลี่ยเลย เอาคดีเช็คแยกจากคดีหมิ่นประมาท เหลือคดีหมิ่นประมาทผมก็จัดไปเลย ที่ทำให้เขาเสียชื่อเสียง และหลักการที่ 2 คุณจะรับผิดชอบยังไงในเรื่องที่ทำลงไปตั้งแต่ 13 มิ.ย. จนถึงวันนี้
...
หาญส์ เพิ่งรู้ ลูกหมี มีปัญหา
เตรียมฟ้องหมิ่นฯ คนทำลายชื่อเสียงครอบครัว
ด้าน หาญส์ ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ สามีของ ปู มัณฑนา นักการเมืองและอดีตนักแสดงชื่อดัง เผยว่า คนเรามีหนี้ ก็จำเป็นต้องชดใช้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าวงเงินหนี้ 2 ล้าน ไม่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว อย่าเรียกว่าเป็นคดี เรียกว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ วันนี้ดีกว่า เป็นเรื่องราวที่เป็นการประนีประนอมไกล่เกลี่ยดีกว่า ถ้าไม่ได้ ก็ค่อยมาว่ากัน
ผมก็เพิ่งมาทราบว่า ลูกหมีกับปูมีการดำเนินเรื่องราวที่เราได้ยินมานี้ พอผมทราบ ก็ได้จัดตั้งบริษัทขึ้นมา เพื่อจะได้ดูแลเรื่องเงินทั้งหมด มีอะไรก็โทรเข้าบริษัทได้เลย แต่เจ้าหนี้ต้องเป็นเจ้าหนี้ที่ชัดเจน และเราจะดำเนินการตรงนั้นให้
และยังบอกอีกว่า หลังจากที่เกิดเรื่องก็ได้ให้ ปู โทรไปหา ลูกหมี ซึ่งเขาโทรไม่รับ ไลน์ไม่อ่าน และตัว หาญส์ เองเจอหน้าลูกหมีแค่ 2 ครั้ง คุยไม่เคยเกิน 10 คำ อยู่ดีๆ ก็แอดไลน์และส่งบันทึกประจำวันมาให้
โดย หาญส์ ถามกลับเรื่องดอกเบี้ยที่ลูกหมีส่งมาบอกว่า คิดดอกเบี้ยไม่เป็น แต่ส่งดอกเบี้ยมาทวงทุกวัน เรื่องนี้จะรับผิดชอบยังไง และสิ่งที่ทำให้โมโหมากที่สุดคือ ลูกผม เพราะกระทบกับลูกมาก และเสียหายต่อตระกูลทั้งหมด สิ่งที่ลูกหมีพูด จะรับผิดชอบยังไง
...
ณ วันนี้ยังไม่เป็นคดีความ แต่มารับทราบข้อกล่าวหาและไกล่เกลี่ย แต่ว่าในโซเชียลมีเดีย หรือบุคคลอวตารได้โพสต์ลงไปหมดแล้วว่า รองนางสาวไทยชื่อ ย่อ ป. แต่อดีตดาราเป็นนักการเมือง เขียนภาษาอังกฤษว่า Golden Snow เขียนรูปหาร ก็คือ หาญส์ ซึ่ง หาญส์กับปู ใน 70 ล้านคนไทย มีคู่เดียว เพราะฉะนั้นคนที่หมิ่นผม ไม่ต้องไปลบ เพราะได้ให้เจ้าหน้าที่แคปไว้หมดแล้ว จะฟ้องเป็นรายคน ให้เตรียมเงินไว้ด้วย
ปู มัณฑนา เล่าอีกมุม
เชื่อเวรกรรมมีจริง
ขณะที่ ปู มัณฑนา ก็ได้เผยกับสื่อว่า จุดเริ่มต้นของลูกหมีคือรู้จักกันจากเพื่อนๆ ที่ตีกอล์ฟและได้คุยกัน ลูกหมีบอกว่าไม่มีงานทำ และไม่มีละครเลย ไม่มีรายได้
ลูกหมีมาคุยกับปูบอกว่า ได้ปล่อยเงินกู้ ดอกเบี้ย 10-15% และได้ลงทุนเกี่ยวกับหุ้นกับเพื่อนอีก 3 คน ถ้าปูมีงานอะไรให้หุ้นด้วย ให้บอกลูกหมี
"ก็เลยบอกเขาพี่จะทำอีเวนต์และละคร ก็จะพาเขาเข้ามาทำด้วย ซึ่งลูกหมีบอกว่าอยากเป็นเลขาฯ ของ พี่หาญส์เข้าไปประชุม ซึ่งเราก็พาเขาเข้าไปประชุมซอฟต์พาวเวอร์
และเราก็เข้าไปหาผู้ใหญ่เพื่อจะทำละครให้ช่อง 7 ให้ลูกหมีเล่นเป็นแม่พระเอก เพื่อจะได้มีรายรับ แต่ทางผู้ใหญ่เบรกไว้ก่อน เพราะเศรษฐกิจไม่ดี แต่จะให้ทำรายการสดแทน แต่สุดท้ายยังสรุปไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี
พยายามหางานให้เขาทุกอย่าง เลยแนะนำเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่ทำธุรกิจให้ลูกหมีรู้จัก และให้เขาคุยตรงกันเลย แต่เขาบอกว่าไม่อยากคุยหลายคน ขอเป็นคุยกับปูโดยตรง แต่ถ้าพี่ปูจะไปทำธุรกิจอะไรก็เป็นเรื่องของพี่ปู ซึ่งพี่ปูก็ส่งดอกกับลูกหมีโดยตรง 2 คน จะได้ไม่ต้องคุยกันหลายคน
และเพื่อความสบายใจเขาก็ขอเช็คพี่ปูเพื่อค้ำประกันเอาไว้ พี่ปูก็ให้ทุกอย่าง เขาก็จะเขียนมาว่า พี่ปูคะ ขอเช็ค 3 ใบ เขียนยอดเท่านี้ ลงวันนี้เท่านี้นะคะ ซึ่งเราก็ตามเขาทุกอย่าง และเขาก็ให้เซ็นสัญญาเงินกู้ โดยให้คนรถไปเอากระดาษเปล่ามาเซ็น
แต่เราก็บอกว่าให้เขียนรายละเอียดลงไปได้ไหม ว่าพี่ลูกหมีได้รับดอกเบี้ยรายวันรายเดือนเท่าไหร่ เขาบอกว่าไม่ต้อง เดี๋ยวผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นวันที่ 2 มี.ค. จากนั้นวันที่ 18 มี.ค. เขาก็ส่งสัญญามาบอกว่าให้เราเก็บสัญญาเงินกู้นี้ไว้ จากนั้น 4 เม.ย. แจ้งความ เพราะขาดส่งดอกไป 1 วัน"
เมื่อถามว่าทำไมอยู่ๆ เรากลายเป็นลูกหนี้ได้ ปู บอกว่า เพราะลูกหมีไม่ยอมคุยกับเพื่อนพี่ปูโดยตรง เพราะเขาทำธุจกิจหลายอย่าง ซึ่งเขาไม่คุย แต่มาคุยผ่านพี่ปู 2 คน และขอเช็คพี่ปูไว้เป็นหลักค้ำประกัน
และด้วยความบริสุทธิ์ใจเราไม่โกงอยู่แล้ว ไม่ว่าเขาจะให้เราทำอะไร เราก็โอเคๆ กับเขาทุกอย่าง เราจริงใจกับเขา หาเงินให้เขาทุกอย่าง ภายใน 4 เดือน เราหาเงินให้เขา 6 แสนบาท แต่เขากลับมาทำกับพี่ปู ครอบครัวพี่ปู และลูกแบบนี้ไม่ได้ เราต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะเขา
สุดท้าย ปู ได้ฝากถึงลูกหมี บอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำกับพี่ปู ลูก และครอบครัว ก็จะดำเนินคดีทุกคนให้ถึงที่สุด เวรกรรมมีจริงค่ะ
โดยทนายได้อธิบายความเพิ่มเติมถึงเรื่องธุรกิจว่า "พี่ปูมีเพื่อนที่ลงทุนทำธุรกิจขายกระเป๋า ซึ่งบางทีกลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้มีเงินทุน เขาก็จะมีหยิบยืมเงินก้อนนึงเพื่อที่จะไปซื้อ แล้วเดี๋ยวเอาไปขายและเอากำไรมาแบ่งให้กับพี่ปู
ซึ่งพี่ปูก็เลยแนะนำคนกลุ่มนี้ให้กับ ลูกหมี เพื่อสนใจ แต่ลูกหมีไม่ได้อยากจะคุยตรงกับคนฝั่งโน้น ก็เลยให้เอาเงินไปก็ได้ จะได้เหมือนได้กำไรด้วย ซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะทำธุรกิจกระเป๋าอะไร แต่เขาสนใจแค่ดอกเบี้ยที่ได้รับในแต่ละยอดที่ได้มา ซึ่งเขาคิดว่าเป็นการกู้ยืมเงิน ไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าพี่ปูเอาไปทำอะไร"
ลูกหมี ยืนยันไม่เคยร่วมลงทุนกับ ปู
ลั่นถ้าพร้อมจ่ายทุกอย่างจบ
จากนั้นทางด้าน ลูกหมี พร้อมด้วยทนายเดชา ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ บอกว่า เมื่อสักครู่ได้มีการไกล่เกลี่ยว่า ปู จะจ่าย 1.4 ล้าน แต่ทางเราต่อรองเหลือ 1.6 ล้าน แต่ยังไม่จบต้องรอไกล่เกลี่ยอีกรอบ พร้อมกับชูเอกสารการกู้เงินให้ดูว่า ได้มีการกู้เงินมา 2 ล้านบาท และดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่ใช่ดอกเบี้ยร้อยละ 1,825 ตามที่อีกฝ่ายเข้าใจ เราไม่ได้คิดดอกเบี้ยเกินอัตรา
ส่วนที่บอกว่า ฝ่ายลูกหมีส่งกระดาษเปล่าไปให้เซ็นนั้น ลูกหมีปฏิเสธเสียงหนักแน่นบอกว่า ไม่ใช่ เรามีเขียนเอกสารทั้งหมดเลย ลูกหมีเซ็นคนแรก พยานเซ็นคนที่ 2 และเขาเซ็นคนที่ 3 มีหลักฐาน ยืนยันไม่ใช่กระดาษเปล่า และทุกครั้ง ปู จะเป็นฝ่ายเสนอดอกเบี้ย
เรื่องการลงทุน เราไม่ทราบ เพราะเป็นการคุยกันแค่ ลูกหมีกับพี่ปู ส่วนเขาจะเอาเงินไปลงทุนอะไรก็เป็นเรื่องของเขา เขาบอกว่าเงินที่เอาไปลงทุนกระเป๋า แต่เขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขา
เรื่องที่เขาจะฟ้องกลับที่ทำให้เขาเสียชื่อเสียง ก็เอาเป็นเรื่องๆ ไป จ่ายหนี้ให้หมดก่อนดีกว่า เพราะเราก็มียอดที่เราบวกมาให้เขา 1.8 ล้าน แต่เขาคิดเป็น 1.4 ล้าน ก็เลยบอกว่า งั้นให้ 1.6 ล้าน จะได้จบ แต่จะจบรึเปล่า ก็รอดู
ซึ่งปัญหาอยู่ที่เราโอนเงินให้เขาตรงทุกครั้ง แต่เขาโอนให้เราไม่ตรง มันก็เลยต้องเลื่อนๆ มาโดยตลอด ดอกเบี้ยรายชั่วโมงเป็นข้อเสนอจากพี่ปู เพราะเงินอยู่กับเรา และเขาก็มาเสนอหมดเลย เรามีคลิปเสียงพร้อมนะคะ
ลูกหมียังเผยต่อว่า ที่เขาบอกว่ามาเสนองานให้ อันนี้ไม่ใช่ เราคุยกันตามปกติทั่วไป ไม่ได้ไปกราบขอร้องให้เขาหางานให้ และนักเรียนมาสอนเดินแบบก็มีมาเรื่อยๆ พร้อมยืนยันคำที่ พี่ปูพูดว่า เวรกรรมมีจริง อันนี้แน่นอน คุณทำอะไรกับลูกหมีไว้ อันนี้ลูกหมีจะรับผิดชอบ และคุณทำอะไรกับใครอื่นๆ ไว้ เดี๋ยวคุณก็ตามรับผิดชอบเช่นกัน
ยอมรับว่าไม่กังวล ถ้าอีกฝ่ายจะฟ้องหมิ่นประมาท เพราะเราพูดตามความจริงทุกอย่าง พร้อมสู้ ที่ปูบอกว่า จ่ายช้าแค่วันเดียว และมาโดนฟ้อง ลูกหมีถามกลับว่า จะดูทั้งหมดมั้ยว่า ช้าไปกี่วัน ซึ่งก็ไม่ใช่ครั้งเดียวแน่นอน
ถามว่าถ้าอีกฝ่ายพร้อมจ่ายเงินทั้งหมดวันนี้ เราพร้อมจบมั้ย ซึ่งลูกหมีบอกว่า ถ้าพร้อมจ่าย 1.6 ล้านวันนี้ ไม่ใช่ 1.4 ล้านตามที่เขาเสนอ ก็พร้อมจบ จากนี้ก็มองหน้าได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ขอให้จบเป็นเรื่องๆ ไป ต่างคนต่างอยู่ และในข่าวต่างๆ ที่เราออกไปพูด เราไม่ได้พูดถึงนามสกุลเลย แต่เราพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เจอ มันเป็นเรื่องของเรา
พร้อมยืนยันว่าเงินที่เขายืมไป ไม่ใช่การร่วมลงทุน แต่เป็นการกู้เงิน และชาร์ตที่ทนายประมาณเอามาโชว์ให้ดู มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น 2 มี.ค. 2567 ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่เอามาแจ้งความเลย.