เป็นช่วงเวลาเปิดประตูบานใหม่ของวงร็อกสุดล้ำขวัญใจแฟนๆวง “Slot Machine” (สล็อตแมชชีน) ที่มีสมาชิก เฟิด–คาริญญ์ยวัฒ ดุรงค์จิรกานต์ (ร้องนำ), แก๊ก–อธิราช ปิ่นทอง (เบส) และ วิทย์–เจนวิทย์ จันทร์ปัญญาวงศ์ (กีตาร์) จากค่าย Tero Music กับการทำเพลงฟีเจอริงกับศิลปินหญิงคนแรก “วี–วิโอเลต วอเทียร์” ในรอบ 20 ปี ในเพลง “AI” นำเสนอมุมมองของจักรกล หรือหุ่นยนต์ที่อยากจะมีความรู้สึก มีชีวิตจิตใจและเข้าใจความรักของมนุษย์ โดยมี “วี” ร่วมถ่ายทอดความมีชีวิตชีวา ความอ่อนโยน งดงามของมนุษย์ เป็นสีสันใหม่ ทั้ง 3 หนุ่มเล่าการทำงานและการเติบโตของวงที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 20 ปี ได้เข้าใจการมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง เริ่มจาก...

ซิงเกิลล่าสุด “AI” ฟีเจอริงวิโอเลต วอเทียร์?

เฟิด : “เราอยากจะพูดเรื่องประมาณนี้ตั้งนานแล้วจริงๆตั้งแต่ก่อนช่วงโควิด-19 ด้วยซ้ำ คนที่ฟังเพลงของ Slot Machine มาจะเข้าใจว่าแนวทางของเราเป็นประมาณนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับหนังก็คือเป็นหนังแนวไซไฟ ซึ่งอยู่ในเวลาที่มันควรจะนำออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังแล้ว มีมิวสิกวิดีโอที่ฉายเป็นภาพด้วยทั้งภาพทั้งเสียงที่สอดคล้องกันกับความคิดไอเดียของพวกเรา 3 คน ที่อยากจะพูดเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ พูดถึงความเป็นมนุษย์ความไม่สมบูรณ์แบบ ความสมบูรณ์แบบ ความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด ความอยากรู้อยากเห็นของคนนี่แหละที่สร้างและทำลายสิ่งต่างๆรอบตัว เราอยากรู้หมดทุกอย่างแต่สุดท้ายแล้วคำตอบผมว่าจริงๆแล้วเราแค่อยากเข้าใจตัวเอง อีกอย่างหนึ่งที่เอาเข้ามาบวกในเพลงก็เลยคิดว่าจับความรู้สึกของมนุษย์เข้าไปด้วยแต่ว่าถ้ามาพูดธรรมดามันไม่ใช่ Slot Machine เราก็เอามาเล่าให้มันพิสดารให้มันแปลกๆจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนกับปัญญาประดิษฐ์มีความรู้สึกต่อกัน เพลงนี้เราทำร่วมกันแต่ผมเป็นคนเขียน อีกคนนึงที่เข้ามาเหมือนกับตัดขอบคือ แม็ก-ธิติวัฒน์ The Darkest Romance รับหน้าที่โปรดิวเซอร์ เป็นศิลปินรุ่นใหม่แต่ทำงานเยอะมากหลากหลายมากแล้วสิ่งสำคัญคือเค้าเป็นแฟนเพลงของ Slot Machine มาก่อนแล้วก็สามารถที่จะวิเคราะห์ได้ทะลุปรุโปร่งมาก recap ชีวิตของเราได้”

...

"สล็อต แมชชีน" เครื่องเดิมพลังแน่น เปิดโลกฟีเจอริงศิลปินครั้งแรก

การได้มาร่วมงานกับวี–วิโอเลต?

แก๊ก : “เราก็เล็งคนที่มีศักยภาพ ซึ่งเราก็ชอบงานของน้องวีอยู่แล้ว มีความสากล จริงๆเค้าก็ชอบแนวร็อก เค้าก็มาเติมเต็มในส่วนของมนุษย์ที่สวยงามเห็นภาพ”

ฟีเจอริงครั้งแรกทำไมถึงต้องเป็นวี? แก๊ก : “จริงๆก็ยังเกร็งๆ เราอยากร่วมงานกับศิลปินหลายคน ทุกคนเก่งแต่มันน่าจะเป็นที่เรามากกว่า ไดเรกชันหรือไอเดียบางอย่างที่คนที่จะเข้ามาอยู่กับเราก็อยู่ยากนะ (หัวเราะ) พอมีน้องมามันเหมือนพี่ชาย 3 คนอยู่ดีๆมีน้องสาว มันคลิกเลย ไม่ได้ต้องอธิบายเค้าเยอะ เค้าเองเป็นคนมาเติมเต็มพวกเราด้วยซ้ำว่าพี่อยากได้ยังไง หนูมีอย่างนี้ หนูมีมิตินี้นะ เป็นมนุษย์คนแรกเลยมั้งที่มาถามพวกผมว่าท่อนแรกตอนถ่าย MV อยากได้อินเนอร์ยังไง ซึ่งพวกเรามีสิ่งนี้อยู่กับงานของเราเอง เลยรู้สึกว่าเออ อันนี้คือพวกเดียวกับเรา”

ภาพดูคนละขั้วแต่เป็นความต่างที่ลงตัว? วิทย์ : “ด้วยตัวเราเองด้วยที่เราพยายามจะเล่าถึงความต่างตรงนั้น เลยรู้สึกว่าหน้าน้องเนี่ยลอยเข้ามาตั้งแต่ตอนที่เราเลือก วีคือช้อยส์แรกและเป็นช้อยส์เดียวด้วยมั้ง คือถ้าไม่มีน้องก็ยังงงอยู่เลยว่าจะยังไง”

ตอนชวนคิดมั้ยว่าถ้าวีไม่ร่วมด้วยจะทำยังไง? วิทย์ : “ก็เหมือนผู้ชายจีบสาว บางทีหน้าที่กลัวไม่ใช่หน้าที่เรา เราบอกเค้าไปว่าเราต้องการอะไรเต็มที่เค้าปฏิเสธ ก็แค่นั้น แต่ถ้าไม่ปฏิเสธก็อีกเรื่อง”

ตัวดนตรีก็หนักแน่น วีต้องมาจูนยังไง? เฟิด : “ผมว่าเป็นส่วนเติมเต็มของกันและกันคือวีเค้าก็จะมีความอ่อนช้อยเป็นเส้นโค้งแล้วมาอยู่ในความหนักแน่นเป็นเส้นตรงของวงเรา ตอนแรกเป็นเวอร์ชันที่ไม่มีน้องเรา เราก็เบ่งบานงดงามในเวอร์ชันของเรา เราอยากจะอ่อนโยนแค่ไหนมันก็ไม่อ่อนเท่าวี พอมันมีวีเข้ามาก็ใช่เลย เค้ามีวิธีการใช้เสียง ทุกสิ่งทุกอย่างมันเพอร์เฟกต์มากในทุกมิติ”

ติดใจการมีศิลปินมาฟีเจอริงมั้ย?

เฟิด : “ติดใจครับ ดีครับ สมมติเราเต็มที่ 100% เราก็ทำได้ร้อย แต่ใจเรามันเกินร้อย ถ้ามีคนอื่นมาทบกัน พอมันมีความผสมผสาน ทำให้มันเติมเต็มซึ่งกันและกันแล้วมันได้สิ่งใหม่”

แพลนฟีเจอริงต่อไป? เฟิด : “ก็จริงๆ ก็เริ่มๆลองกันบ้างครับ น้องวีเป็นศิลปินท่านแรกที่มาอยู่ในการทำเพลง แต่ว่าการเพอร์ฟอร์มร่วมกันก็ทำมาตลอด ก็คุยกันก็อยากร่วมงานกับศิลปินหลายท่าน อย่างกับกระแสวงการ T-POP ผมถือว่าผมชอบมากๆเลยที่ค่านิยมปัจจุบันให้คุณค่ากับความสามารถกับคุณภาพมากขึ้น เพราะฉะนั้นมันเลยทำให้มีคนเก่งๆเกิดขึ้นมาเยอะมาก มีโอกาสขึ้นมาเยอะมาก แล้วเรารู้สึกว่าเราก็เป็น Slot Machine เครื่องเดิม ที่เราหาเพื่อนมาหยอดเหรียญบ้างมั้ย เราเปลี่ยนคนโยกบ้างมั้ย”

อาจจะได้เห็นศิลปินมาร่วมงานด้วยมากขึ้น? วิทย์ : “คิดว่าใช่ครับ แต่ถ้าถามว่าเมื่อไหร่ คงยังตอบไม่ได้ เป็นเรื่องของโชคชะตา”

...

ช่วงหลังๆ Slot Machine ดูมีชีวิตชีวาและเติบโต ได้มาคุยกันมั้ย?

เฟิด : “ผมรู้สึกว่าเป็นไทม์มิงที่มันสมบูรณ์แบบเหมือนกันครับ พอเราพูดมาถึงตรงนี้ผมรู้สึกว่าเมื่อก่อนเราทำเหมือนตัวเองเป็น AI เราพยายามจะกะเกณฑ์ทุกอย่าง พยายามจะตีกรอบ ยึดมั่นในกรอบที่ว่าเราต้องไม่มีกรอบแต่มันกลายเป็นว่ากรอบมันหนากว่าเดิม มันเหมือนหุ่นยนต์เครื่องจักรอะไรสักอย่างที่พยายามกำหนดทิศทางทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของตัวเอง แต่พอมาถึงตอนนี้มันมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น มีความอิสระมากขึ้น มีลมหายใจ มีความรู้สึกและอยู่กับมันได้ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ มันไม่เชิงแบบชินชาแต่มันเข้าใจ แล้วมันสบายๆเลยดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ชีวิตมันก็มหัศจรรย์ ทั้งๆที่มีชีวิตมาตลอด แต่เพิ่งได้สัมผัสและเข้าใจความรู้สึกคำว่าชีวิตชีวามันเป็นยังไงการใช้ชีวิต การมีลมหายใจ การได้มีอยู่กับปัจจุบันอยู่กับสิ่งรอบข้างมากขึ้นกับสิ่งใกล้ตามาก”

วิทย์  : “ผมว่ามันมีความเข้าใจอย่างที่เฟิดบอก”

เรามองเห็นตัวเองในเรื่องนี้จากอะไร? เฟิด : “ถ้าส่วนตัวผมต้องตอบว่าโควิด เพราะในช่วงเวลานั้นมีอะไรหลายอย่าง ธุรกิจที่บ้านเพิ่งเริ่มต้นในช่วงเวลาที่มันไม่ควรจะเริ่มเพราะเราทำอพาร์ตเมนต์เพื่อให้คนเข้ามาอยู่อาศัย แต่ตอนนั้นคนต้องอยู่บ้านห้ามติดต่อกัน แล้วก็คุณพ่อเสีย ก็คือเคยมีอะไร มันไม่มีหมดเลย แล้วมันเป็นความจริงซึ่งหน้าแบบตู้มเดียว แล้วทำให้เราละลายทุกอย่าง อัตตา ตัวตน ต้องถูกบังคับให้เรียนรู้แบบเป็นคอร์สเข้มข้นกระชับเลย สำหรับผมมองเห็นประโยชน์จากช่วงเวลานั้น แล้วก็เป็นช่วงเวลาที่มันสำคัญจริงๆที่ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงไปเลย”

วิทย์  : “สำหรับผม โควิดก็ส่วนหนึ่ง แต่อาจจะไม่ได้กระทบมากเพราะว่าด้วยความชอบจัดการการเงิน แต่ผมว่ามันคือช่วงเวลา ด้วยวัย ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ตอนแรกคำตอบอาจจะโฟกัสที่ศาสนา การทำสมาธิแตะแบบแผ่วๆ แต่คำถามคือแล้วเราจะไปรู้เรื่องนี้จากไหนถ้าเราไม่ได้ถึงวัยนี้ บางทีถึงวัยหนึ่งเราจะทำคอนเทนต์แบบนี้ใช้ชีวิตแบบนี้ เราจะใช้ชีวิตที่แบบไม่ได้คาดหวังจะบินสูงกว่านี้แล้ว แต่ลอยให้ได้ตลอด”

...

แก๊ก : “ช่วงตั้งแต่เริ่มเล่นดนตรีจนถึงช่วงโควิดก็เจอช่วงที่ยากลำบาก ถ้าเปรียบตัวเองเป็นข้าราชการคนนึง ตอนนี้ก็คงเป็นปลัดกระทรวง (หัวเราะ) ที่แบ่งงานให้น้องๆ ที่ผ่านมามันก็คุ้มค่า”

สำหรับเฟิดก็มีความรักก็มาเติมเต็มด้วย? เฟิด : “ก็เป็นส่วนประกอบหลายๆอย่าง สุดท้ายแล้วมันเหมือนที่เพื่อนๆบอก มันเป็นด้วยช่วงวัยประสบการณ์ชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างมันประกอบกัน”

"สล็อต แมชชีน" เครื่องเดิมพลังแน่น เปิดโลกฟีเจอริงศิลปินครั้งแรก

แล้ววันนี้ Slot Machine เครื่องนี้ยังแรงมั้ย ยังคงลุ้นตื่นเต้นกับอะไร?

เฟิด : “เราก็ยังเจนเนอเรตตัวเอง ยังไม่มีทีท่าว่ามันจะผุพัง ข้างนอกรูปลักษณ์มันก็อาจจะเปลี่ยนไปตามเวลา แต่ว่าจุดกำเนิดของพลังงาน
ผมคิดว่ามันยั่งยืนขึ้น”

วิทย์ : “ก็เป็นสล็อตแมชชีนแบบนี้ที่อยู่ในกาสิโนที่เดิม อาจจะมีกาชาปองมาตั้งข้างๆ เราก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่เอเนอร์จีหรืออะไรผมว่าอยู่ที่คนตัดสินว่าเราใช่กับสิ่งที่คุณชอบมันใช่หรือเปล่า”

ไปออกรายการต่างๆกระแสดีเหมือนเปิดมุมฮาให้แฟนๆเห็นความมีชีวิตชีวาอีกรูปแบบหนึ่ง? เฟิด : “ไปออก Buff Talk กับถ้าโลกนี้ไม่มี gps ก็ดีครับ ทำให้เห็นแง่มุมที่จริงๆแล้วเราก็เป็นคนสนุกสนาน เคยคุยกับเพื่อนๆบอกจริงๆวงร็อกอะมันต้องมีอารมณ์ขัน เราเป็นอย่างนี้กันอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาอาจจะไม่ค่อยกล้าที่จะให้คนเห็นมุมนี้เพราะว่าเราไม่ชอบการเป็นตัวตลก เพลงเราค่อนข้างจะขายปรัชญา ขายความน่าเชื่อถือ ก็คิดว่ามันไม่ค่อยสอดคล้องกันเท่าไหร่ ถ้าจะมาตลกตั้งแต่วันแรกๆคนจะไม่เชื่อ ทำไมพี่ตลกแต่พี่พูดเรื่องจริงจัง พอมันมาถึงเวลานี้ ความเข้าใจของคนมีมากพอแล้วทีี่่เราจะผ่อนคลายได้ ให้เห็นในแง่มุมนี้ เหมือนให้มันมีโฆษณาคั่นบ้าง มีอะไรสนุกๆบ้าง”

...

วิทย์ : “เวลามันได้ ถ้ารีบตลกวันนั้น วันนี้อาจจะไม่มีพื้นที่ให้ตลก ในรายการนั้นยากกว่าทำเพลงอีกนะ”

แก๊ก : “เข้าทางพอดี พอไปออกรายการนี้คนข้างบ้านที่ไม่เคยทัก ยังมาทักสนิทเลย คนมาทักเรามากขึ้น ทำให้เข้าถึงง่ายขึ้น”

วิทย์ : “ไปสยามก็เจอเด็กๆมาทักเรา มุมที่คนได้รู้จักมากขึ้น คนไม่เคยเห็นว่าอยู่ด้วยกันก็เป็นอย่างนี้ เอาจริงๆผมก็ต้องระวังตัว บางทีเราซื้อไอติมมากินนั่งยองๆกับพื้นกับแฟน ก็ต้องวางตัวมากขึ้น”

เฟิด : “มันเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำไมทำให้อยู่กันนาน มันมีพาร์ตนี้เป็นตัวเชื่อม เพราะว่าตอนทำงานต่อให้มันซีเรียสเราก็เล่นมุกกันอำกัน” แก๊ก “สบาย มันเหมือนมันใช้ชีวิตแบบผ่อนคลายมากขึ้นครับ แล้วก็คือทุกคนก็น่ารักกล้าเข้ามา”

จากการเปิดตัวเองทำให้มีแฟนเพลงกลุ่มใหม่เยอะ?

เฟิด : “แฟนๆทุกวงการเลย ทุกช่วงอายุ ทุกคนก็น่ารัก เค้าได้เห็นในมุมผ่อนคลาย มุมน่ารักของพวกเราในมุมที่ไม่ใช่ศิลปินหรือกรอบที่เค้าวางไว้”

เหมือนตกแฟนๆกลุ่มใหม่ๆมาฟังเพลงเราด้วย? วิทย์ : “ใช่ครับ ข้อดีของการที่เราไปอยู่ในอีกที่นึงที่เราไม่เคยไป มันทำให้เค้าเข้าใจว่าบนเวทีเรามันคือพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์มาก มันแปลกมากที่ผมรู้สึกว่าตอนที่เราโชว์มันยิ่งเข้มข้นขึ้นโดยบรรยากาศ ยิ่งเปิดยิ่งได้อีกด้านกลับมาเป็นแรงสะท้อน”

เฟิด : “ทำให้แฟนๆมีความเข้าใจในเชิงลึกมากขึ้นว่าบนเวทีคือเหมือนเราทำพิธีกรรม เข้าโหมดของพวกเรา แล้วเราก็มีโหมดอื่นๆนะ ทำให้บนเวทียิ่งเข้มข้น ตื่นตาตื่นใจมากขึ้น ยิ่งซาบซึ้ง appreciate ตรงนั้นมากขึ้น ซึ่งมันมาช่วยเพิ่มพลังให้พวกเราด้วย”

รู้สึกยังไงกับการเดินทางของวงเราที่ยิ่งมีชีวิตชีวามากขึ้น?

เฟิด : “มีความสุขมาก รู้สึกสนุกแล้วก็รู้สึกว่าชีวิตมันไม่ได้ยาก มันง่ายขึ้น มันไม่ต้องจำกัดตัวเองอยู่แค่โหมดเดียว มิติเดียวว่าเราเป็นศิลปินเราจะต้องจริงจังกับชีวิต ส่วนตัวผมคือทุกสิ่งทุกอย่างปลายทางมันคืองาน มันถูกกลั่นออกมาเป็นงาน เพราะฉะนั้นมันต้องบังคับตัวเอง ต้องมีวินัยไม่ว่าคนจะเห็นหรือไม่เห็น แต่พอคนได้เห็นในมุมอื่นๆมากขึ้นมันเหมือนเราไม่ต้องบังคับตัวเอง ไม่ต้องจำกัดตัวเอง เราก็เป็นเราโดยที่แบบเป็นอิสระจากกรอบคิดของตัวเอง ชีวิตมันเลยมีความสุขมากขึ้น แล้วมันทำให้ทำงานได้มีอิสระมากขึ้น มันไม่ต้องมีกรอบแค่เป็นอย่างที่เป็น ไม่ต้องไปคิดพะวงอะไรมากมาย ง่าย สบายขึ้นเยอะ”

แก๊ก : “ยิ่งทำงานมาเยอะยิ่งเห็นว่าศัตรูตัวจริงคือตัวเอง ไม่มีคู่แข่งไม่มีใครทำร้ายอะไรเราได้นอกจากตัวเราเอง”

วิทย์ : “ก็น่าจะเป็นเรื่องการจัดการตัวเอง เหตุการณ์ใหญ่ๆอย่างโควิดทำให้รู้สึกว่าถ้าเรามีการจัดการตัวเองที่ดีประมาณนึง มีการวางแผน ทำให้อะไรที่หนักผ่อนเป็นเบา มันอาจจะมีโควิดหรืออะไรในรูปแบบอื่นเราก็จะจัดการได้ดี ผมว่าแก่นของมันจริงๆคืออนาคตมันเป็นสิ่งที่เราคาดเดาไม่ได้ เรากำลังเผชิญหน้ากับความไม่รู้ เพราะฉะนั้นคือสิ่งที่รู้จัดการได้ก็จัดการให้ดีที่สุดก่อน ที่เหลือก็เอนจอยไปกับมันทุกๆอย่าง ทั้งเรื่องดนตรี เรื่องการใช้ชีวิต”

เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย

คลิกอ่าน “คนดังนั่งคุย” เพิ่มเติม