โสดมานานจนชิน ไม่รู้สึกถึงความเหงา สำหรับ "ข้าวทิพย์ ธิดาดิน" ศิลปินสาวค่ายแกรมมี่โกลด์ หากมีใครเข้ามาที่คิดว่าใช่ก็พร้อมเปิดใจ ซึ่งตรงกันข้ามกับเพลงใหม่ “วอนอ้ายอย่าหลายใจ” แนวอ้อนหนุ่มๆ ถ้าคบกันแล้วอย่าริเจ้าชู้หลายใจเด็ดขาด อยากให้รักเดียวใจเดียว สร้างความแปลกใหม่ให้กับแฟนๆได้ไม่น้อย เพราะไม่ทำเพลงเร็วๆให้ฟ้อนๆแบบนี้มานานแล้ว ถึงขั้นแฟนๆหยิบเพลงนี้ไป “คัฟเวอร์” กันมากมาย

ข้าวทิพย์บอกเล่าถึง เพลงใหม่ “วอนอ้ายอย่าหลายใจ” กับเพลงนี้ชอบหมด ทุกตรง ทั้งเนื้อร้อง-ทำนอง หมอลำ เป็นสิ่งที่อยู่ในสายเลือด เพราะคุณพ่อเป็นพระเอกหมอลำ ก็เลยมีความสุขในสิ่งที่รัก หลังจากปล่อยเพลงนี้ออกมาแล้วแฟนๆชอบกันยิ่งทำให้แฮปปี้ พอถามว่าเนื้อหาเพลงนี้หยิบจากประสบการณ์ชีวิตของตัวเองหรือเปล่า เจ้าตัวยิ้มๆก่อนตอบว่า

“มันก็มีบ้าง โตมาขนาดนี้ก็มีแหละ คิดว่าเพลงนี้น่าจะตรงกับความรู้สึกกับชีวิตหลายคน ถ้าเกิดว่าเราไม่มั่นใจในคนคนนี้ยังไม่ตัดสินนะ จะเลือกคนนี้ ผ่านไปก่อน ส่วนฟีดแบ็กก็ดีมากค่ะ ทีแรกเพลงไอ่คำออกมาทุกคนดีใจแล้ว มีเพลงเร็วออกมา (หัวเราะ) พอเป็นเพลงนี้ออกมาเกินคาดเลย ทุกคนชอบมากเพราะ ลงตัวเสื้อผ้าหน้าผม บางคนคอมเมนต์ ข้าวทิพย์น่าจะร้องเพลงทำนองนี้นานแล้ว แบบนี้มันใช่ข้าวทิพย์เลย แฟนๆเข้ามาชื่นชมและให้กำลังใจกันในเฟซบุ๊ก ติ๊กต่อก คนเอาเพลงนี้ไปเล่นกัน ก็ดีใจ มันคือปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต”

...

กลายเป็นเพลงดังในโซเชียล ยิ่งทำให้ ข้าวทิพย์ดีอกดีใจสุดๆ “จริงๆ ข้าวทิพย์ ใฝ่ฝันเลยอยากมีเพลงฮิตที่ติดกระแสเหมือนกัน อย่างพี่ต่าย ดอกหญ้าในป่าปูน พี่ตั๊กแตนชลดามีเพลงที่ทุกคนจดจำได้ พอมีเพลงนี้ขึ้นมาแล้วทุกคนนึกถึงข้าวทิพย์ วันนี้เราไม่รู้ไปถึงขั้นไหน แต่พอเกินคาดเราก็ดีใจมากๆ ทุกคนให้การตอบรับอย่างดี”

สวยแซ่บ เซ็กซี่ขึ้น ถึงขั้นทำให้แฟนๆจ้องตาค้างไม่น้อยเลยกับลุคที่ไต่ระดับความเซ็กซี่ให้ได้ร้องว้าวกันขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเจ้าตัวก็เล่าว่าจริงๆ ลุคเซ็กซี่จะมีตั้งแต่อัลบั้มชุดที่ 1 แล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้แนวเพลงส่วนใหญ่ที่ออกมาจะเพลงช้ามาสาวเศร้าๆเหงาๆ การแต่งตัวจะแนวบ้านๆไปแต่พอวันนึงมีเพลงเร็วและได้รับบทนักแสดง บทเซ็กซี่ก็ได้แต่งตัวมากขึ้น ก็เลยได้เห็นลุคนี้กันบ่อยขึ้น แต่ก็ยอมรับว่าช่วงแรกๆมีเขินๆ เหมือนกัน พอเริ่มใส่แล้วขึ้นเวทีร้องเพลงก็รู้สึกแปลก ใส่แล้วเย็นดี แถมเวลาขึ้นคอนเสิร์ตก็มีคล่องตัว

“ตอนนี้แฟนๆเริ่มชินกับลุคเซ็กซี่บ้างแล้วค่ะ แรกๆมีที่แฟนๆจะบอกว่าสั้นไปหรือเปล่า เซ็กซี่ไปไรไปหรือเปล่า ตอนนี้ถึงแต่งเซ็กซี่นิดๆ หน่อยๆ แต่ไม่ได้ น่าเกลียดเกินไป ยังอยู่ในความพอใจในตัวตนของ เรา เรารู้ ลิมิตของเรา อะไรที่โป๊เกินไป เราก็ไม่กล้าใส่เหมือนกัน ถามว่าแต่งตัวเซ็กซี่แบบนี้ทำให้มั่นใจขนาดไหนเหรอ? เอาเป็นว่าตอนนี้ข้าวทิพย์มองเป็นงานมากกว่า นักร้องอยู่บนเวทีก็จำเป็นต้องสวย ดึงดูดผู้ชม แต่เรายังอยู่ในความพอดี ถ้ามีโชว์เยอะ เรานี่แหละที่รู้สึกไม่สบายใจและเขิน ไม่กล้าใส่เอง”

นอกจากเสียงเพราะๆโดนใจแฟนๆแล้ว เรื่องการแสดงก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน จนมีผลงานละครบ่อยๆ ล่าสุดกับละครเรื่อง “ดอกหญ้าป่าคอนกรีต” ที่เพิ่งลาจอไปแต่ก็มีเรื่องใหม่ให้แฟนๆได้ติดตามกัน ซึ่งในเรื่องบทบาทการแสดงเจ้าตัวไม่เคยคิดมาก่อนจะมีโอกาสก้าวมาเป็นนักแสดง ได้เป็น “นางเอก” กับใครเค้าหรอก...

“ข้าวทิพย์ไม่เคยคิดตัวเองจะมาเป็นนักแสดงเลยค่ะ เพราะว่าการเป็นนักร้องเป็นความฝันสูงสุดของเรา อยากเป็นนักร้องตั้งแต่จำความได้ ไม่คิดได้ฝันว่าเราจะได้มา อยู่ในแกรมมี่โกลด์ด้วยซ้ำทุกอย่างมันเกินคาดมาก ยิ่งได้เป็นนักแสดงเกินคาดเข้าไปอีก จากสาวบ้านนอกคนนึง จากอำนาจเจริญ ทำไร่ทำสวน รับจ้างร้อง เต้นบ้าง ไม่คิดหรอกวันนึงเราจะมาเป็นนักแสดงเพราะวงการมีนักแสดงสวยๆเก่งๆ เยอะมาก ได้ทำตรงนี้ถือเป็นความโชคดีค่ะ”

เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ

...

แล้วตอนนี้ข้าวทิพย์ยังมีความฝันอะไรที่อยากทำอีกมั้ย “ตอนนี้ค่อยๆสร้าง ซื้อที่ติดถนนให้พ่อ 1 ไร่ แต่ก่อนซื้อที่ไป 15 ไร่ ติดกับทุ่งนาตัวเอง และซื้อที่ติดถนนอีกที่นึงว่าจะสร้างร้านผ้าไทย เรากู้ธนาคารค่อยๆผ่อน อยากสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองด้วย ให้ที่บ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น งานในวงการบันเทิงก็มีอายุการใช้งาน การร้องเพลงเป็นอะไรที่ไม่แน่ไม่นอน นักร้องใหม่ๆก็เยอะ เราแก่ไปอาจจะไม่ได้รับบทนางเอกหรือบทเมนหลัก เลยค่อยๆวางแผน เผื่อวันนึงได้กลับไปอยู่บ้านทำธุรกิจ เล็กๆ ปลูกผัก ปลูกข้าวหรือขายผ้าไทยก็อยู่ได้ เพราะเป็นคนชอบผ้าไทย ตอนนี้ขายผ้าไทยออนไลน์ทางเฟซบุ๊ก ข้าวทิพย์ผ้าไทย ทำมา 4-5 ปีเรื่อยๆ ทำให้พี่สาวพอมีรายได้ และเป็นการช่วยชุมชน ชาวบ้านมีรายได้เสริมเข้ามาบ้าง”

ขอถามถึงกระแสคู่จิ้นหวานเจี๊ยบกับ "เต๋า ภูศิลป์" ที่แฟนๆก็ยังเชียร์ให้เป็นแฟนกัน รู้สึกยังไงบ้าง “ดีใจค่ะ พอเรามีโอกาสแสดงละครด้วยกัน ร้องเพลงด้วยกัน มีคนเชียร์ จิ้นและอินกับเพลงกับละคร ดีใจได้จับมือเดินไปข้างหน้า มีงานต่อมีงานเรื่อยๆ สำหรับเรามีความรู้สึกดีๆในสถานะเป็นเพื่อนกัน”

ลุ้นไม่ขึ้น “ยังไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนสนิทกัน มีอะไรปรึกษากันได้ อนาคตก็ไม่รู้จะเป็นยังไง”

สถานะหัวใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง “โสดค่ะ มีคนเข้ามาแซวเล่นๆบ้าง”

...

จริงๆ เราเปิดใจมั้ยกับเรื่องนี้ “เปิดตลอดค่ะ มีคนเข้ามาคุยๆ ก็จะบอกเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องไปก่อน ถ้าวันนึงมันใช่หรือคลิกกันลงตัว ค่อยว่ากัน”

ไม่ได้กลัวการเริ่มต้นคุยกับใครใช่มั้ย “ไม่ๆ เปิดใจคุยได้ เมื่อก่อนอาจจะคิดว่ากลัวคนทำให้เราเสียใจ ทำให้อกหักแต่สถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปมาก เห็นคู่รักเพื่อนๆคบกันมานานก็เลิกกันไป มันไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แต่เมื่อก่อน มีผลมากกับการเป็นนักร้องนักแสดงกับการมีแฟน ทุกวันนี้คนยอมรับได้ ทันสมัยขึ้นและมุมมองความรักเปลี่ยนไป เราเคยไม่ได้ห่วงเรื่องนี้มีก็โอเค จริงๆรอความลงตัว คนที่เข้าใจเราจริงๆ เข้ากับเราได้”

เคยเช็กดวงเนื้อคู่ประมาณไหน “ไม่เคยเลยค่ะ เนื้อคู่เราจะเป็นยังไง อายุเราถึงตอนนี้แล้ว ไม่ใช่เด็ก เราพิจารณาเองได้ เมื่อก่อนมีสเปก ขอดูดี เป็นลูกครึ่ง เหมือนกัปตันอเมริกาที่เราชอบ แต่จริงๆความลงตัวในชีวิตอาจจะไม่เป็นขนาดนั้นก็ได้ ขอแค่คนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจก็พอ”

โสดนานขนาดไหน “ประมาณ 7-8 ปีแล้วค่ะ ไม่ใช่ว่าระหว่างนั้นจะไม่มีคนมาคุยเลย ก็มีเข้ามาคุยแต่ไม่ถึงขั้นแฟน ยังไม่ลงตัว มันดูหลายๆอย่าง”

เหงามั้ย “ไม่เหงาเลยค่ะ ง่วงมากกว่า (หัวเราะ) ทำงานหนักๆ กลับถึงบ้านอยากนอนเลยไม่มีโอกาสได้เหงา เวลาถ่ายละครเจอเพื่อนสนุกสนานกันทำงานแต่ละวันแทบไม่ได้พักเลย เวลาไปถ่ายละครแล้วมันมีฟีลที่เราเป็นตัวละครตัวนึงมารับบทคู่รักกันเราก็เอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้น มันฟีลทำให้เรารู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ขาดความรัก จบเรื่องก็ตัดไป มาเรื่องใหม่ก็คนใหม่ เหมือนผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป เราเรียนรู้ชีวิตคนไปด้วย ความสุขวันนี้ก็ถือสมบูรณ์แบบ การเป็นนักร้อง นักแสดง ทำให้พ่อแม่มีความสุข ภูมิใจที่เห็นผลงานของเรา เป็นความฝันสูงสุดของเราแล้ว”.

...

ภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต