ลาสิกขาเรียบร้อยแล้ว สำหรับนักร้อง-นักแสดงหนุ่ม โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ที่ได้บวชเพื่อศึกษาธรรมะ และตอบแทนน้ำใจของชาวไทย และชาวลาว ที่ได้บริจาคเงินช่วยเหลือในโครงการ One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ เป็นเวลา 7 วัน
หลังจากที่สึกออกมาแล้ว โตโน่ ก็ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน และช่องยูทูบ อาจารย์อั๋นพาเลาะ เผยความรู้สึกหลังบวช รวมถึงเรื่องเงินบริจาคในโครงการว่าเอาไปซื้ออุปกรณ์และใช้ในส่วนไหนบ้าง ซึ่งโตโน่เล่าว่า
ประโยชน์จากการบวชในครั้งนี้ดีใจกับการได้ปฏิบัติหน้าที่กับการเป็นพระสงฆ์อย่างเต็มที่ใน 7 วันนี้ ก็ขอให้สิ่งดีๆ ที่พวกเราช่วยกันทำมาส่งกลับไปหาทุกคนให้มีแต่ความสุข รอยยิ้ม สุขภาพแข็งแรง มีแต่ความรัก ความสามัคคีต่อกันครับ คนไทยทุกๆจังหวัด รวมถึงคนลาวด้วย 7 วันที่ผ่านมาผมสบายใจมากครับ รู้สึกดีมากๆ ตอนแรกคิดว่าเวลา 7 วันมันน้อย แต่พอมันเป็น 7 วันที่เราตั้งใจมากๆ มันก็ทำให้เราได้อะไรรับคำสอนเยอะ รู้สึกปลื้มปีติ
สิ่งที่ผมได้จากการบวชครั้งนี้?
สิ่งที่ผมได้จากการบวชครั้งนี้คงเป็นเรื่องของความคิด รู้สึกหัวใจเราปลื้มปีติ ที่ผ่านมาเราเติมแต่ทางโลก แต่ไม่เคยเติมทางธรรมเลย เราหลายๆ คนรวมถึงตัวผม ที่ผมรู้สึกได้เลยว่าเราอาจจะไกลห่างออกจากศาสนา พอได้กลับมาใกล้ศาสนาบ้าง ทำให้เราได้ขัดสนิมในใจเราบ้างที่มันมีอยู่เต็มไปหมด มันก็ทำให้เรารู้สึกว่ามันปลอดโปร่งขึ้นในหลายๆ อย่างที่คิด ที่จะทำต่อไป ผมก็ขอให้สิ่งดีๆ เหล่านี้เกิดขึ้นกับทุกคนเช่นกันครับ
...
ในส่วนของการจัดสรรงบประมาณเครื่องมือแพทย์?
ก็เป็นเรื่องของโรงพยาบาลนครพนมและท่าแขกแล้วครับ ตอนนี้ทางคุณหมอและพยายามกำลังเลือกสเปกเครื่องกันอยู่ แต่ละบริษัทเขาก็จะยื่นว่าเขามีอะไรที่เหมาะสมที่สุด คนเลือกจะเป็นคุณหมอ ไม่ใช่ผม คุณหมอจากทั้งสองที่จะเป็นคนเลือกหาสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคนไทยและคนลาว
ชาวนครพนมดีใจมากกับการที่จะมีศูนย์สวนหัวใจ?
เราเตรียมการสร้าง Cath Lab สร้างศูนย์สวนหัวใจและหลอดเลือดให้กับโรงพยาบาลนครพนม น่าจะใช้เวลาพอสมควร อย่างน้อยประมาณ 6 เดือน และใช้เงินเยอะมากด้วย น่าจะประมาณ 50 กว่าล้าน ในอนาคตที่ท่านผู้อำนวยการบอกผมว่า นครพนมจะสามารถสร้างนักเรียนแพทย์ขึ้นได้ด้วย และแผนกนี้จะสามารถพัฒนาไปรักษาโรคหลอดเลือดในสมองได้อีก
ส่วนโรงพยาบาลแขวงคำม่วง สปป. ลาวตอนนี้ได้อุปกรณ์แพทย์ไป 16 อย่างแล้ว จาก 20 รายการ แต่ยังต้องรอของที่มาจากทางต่างประเทศด้วย ก็อีกสักประมาณ 3 เดือน ถึงจะได้ทยอยมามอบกันประมาณ 2-3 ครั้ง
อยากบอกอะไรกับชาวนครพนมบ้าง?
ก็ขอขอบคุณสื่อมวลชน และประชาชนทั้งคนไทยและคนลาว จากที่ตอนแรกผมมาเห็น ได้คุย และต้องการกันแค่เตียงไอซียูเด็ก พลังและกำลังทั้งหมดจากที่ทุกคนช่วยกัน ทำให้เราได้ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดแคลนทั้งกับชาวนครพนมและชาวลาว โรคเกี่ยวกับหัวใจเป็นโรคที่ชาวนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงชาวลาวเสียชีวิตมากที่สุดอันดับ 1 เลย เวลาเกิดเหตุเราต้องนั่งรถตู้ไปจังหวัดใกล้เคียง เพราะเราไม่มี โรงพยาบาลเอกชนก็ไม่มี ต่อไปนี้เรามีแล้ว แต่มันไม่ได้มีได้เพราะผม แต่มันมีได้เพราะพวกเราช่วยกันบริจาค ช่วยกันลงข่าวในสิ่งที่ดี ผมเป็นเพียงแค่ตัวเชื่อมเล็กๆ
นอกจากความสุขที่มากกว่าเงินแล้ว คือเรื่องของความสัมพันธ์ไทย-ลาว ที่เราได้เห็นความรัก ความสามัคคีต่อกันที่เราไม่ได้เห็นมานานเพราะโควิด ผมได้เห็นหน้าตาชาวบ้านทุกคนมีความสุข ทุกคนมาช่วยกัน แบ่งปันกัน เอาของของตัวเองมามอบให้เป็นของสาธารณะ เป็นสิ่งที่โลกใบนี้ขาด มันไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่ขาด ทุกประเทศในโลกใบนี้ ขาดความสามัคคี น้ำใจ สิ่งที่พวกเราทำให้เห็นใน one man the river เป็นสิ่งที่ดีงามจริงๆ ผมขออุทิศการบวชครั้งนี้ให้กับทุกคน ได้รับสิ่งดีๆ กลับไปนะครับ สาธุ