“สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์” ร้องเพลง “น้ำตาแสงไต้” ในละครฉากสุดท้าย “พันท้ายนรสิงห์” เป็นคนแรก แต่ไม่ได้มีการบันทึกเสียง คนดูร้องไห้กันทั้งโรง
“บุญช่วย หิรัญสุนทร” นักร้องประจำคณะละครศิวารมณ์ ได้ร้องบันทึกเสียงเพลงนี้เป็นคนแรกในปี 2492 “ชรินทร์ นันทนาคร” ได้ร้องบันทึกเสียงเป็นคนต่อมา
ผู้ประพันธ์คำร้องคือ ครูมารุต-ทวี ณ บางช้าง และ ครูเนรมิต-อำนวย กลัสนิมิ ประพันธ์ทำนองโดย “ครูแจ๋ว-สง่า อารัมภีร” (ศิลปินแห่งชาติ 2531) ได้แรงบันดาลใจลึกมากมาจากเพลงเขมรไทรโยคและเพลงลาวครวญ
ภาพยนตร์ “พันท้ายนรสิงห์” ฉายครั้งแรก 1 เมษายน 2493 ที่ศาลาเฉลิมกรุง พระเอกนางเอกคือ “ชูชัย พระขรรค์ชัย-สุพรรณ บูรณพิมพ์” แต่จัดแสดงครั้งแรกในปี 2487 ที่ศาลาเฉลิมไทย โดยคณะศิวารมณ์ นี่คือการเดินทางอันลึกซึ้งยาวนานถึง 78 ปี ของเพลง “น้ำตาแสงไต้”
24 ตุลาคม 2565 ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ ม.มหิดล ณ มหิดลสิทธาคาร “ภูมิ แก้วฟ้าเจริญ” ได้ร้องเพลง “น้ำตาแสงไต้” ถวายหน้าพระที่นั่ง “กรมสมเด็จพระเทพฯ”
ผู้อำนวยดนตรีคือ “ดร.ธนพล เศตะพราหมณ์” โดยนักดนตรีวง ยิปซีแบนด์ เป็นการรังสรรค์ดนตรีผสมผสานยุโรปและไทยโดยคนรุ่นใหม่ที่กำลังเป็น “ต้นแบบ” รุ่นใหม่ คณะดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล
ผ่านการบ่มเพาะรากเหง้าแห่ง “จิตวิญญาณไทย” ให้ดำรงสืบต่อและแผ่ขยาย ผ่านนักศึกษารุ่น-ต่อรุ่นด้วยตระหนักลึกซึ้งดนตรีคือ “มนตรา” ไม่ต่างไปจากอาวุธ ชนิดหนึ่ง
“ภูมิ แก้วฟ้าเจริญ” ครวญคร่ำ “น้ำตาแสงไต้” สะกดให้เราสะอื้นไห้น้ำตารินไหลลงมาเงียบเชียบราว “ต้องมนตรา”
...
“น้ำตาเกียรติภูมิ” สุดที่จะหาคำใดมา เสกสรรบรรยาย “เกียรติยศสุดงดงาม” ในฤกษ์ผาวารกาลมหามงคลยิ่งล้ำนี้ได้เลย.
“ดร.ศาสตร์ธนิก จุลมณี”
‘‘แจ๋วริมจอ’’
jaewrimjor@gmail.com