แอน จักรพงษ์ เปิดใจซื้อลิขสิทธิ์มิสยูนิเวิร์ส ตั้งเป้าเป็นมากกว่าประกวดนางงาม

หลังจากที่ แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้บรรลุข้อตกลงการเข้าถือครองธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe Organization (MUO) จาก Endeavor Group Holdings, Inc. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น 100% ของบริษัท IMG Worldwide, LLC ที่เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ Miss Universe โดยการทำธุรกรรมดังกล่าวจะใช้เงินประมาณไม่เกิน 14 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 550 ล้านบาท ซึ่งมาจากการใช้เงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และสัญญาซื้อขายลิขสิทธิ์อีก 250 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 800 ล้านบาท สร้างความฮือฮาให้กับเหล่าแฟนนางงามเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด แอน จักรพงษ์ ได้เปิดใจผ่านรายการ “From the Heart of The Universe” ทางช่อง JKN18 ถึงประเด็นดังกล่าวว่า เป็นคนเข้าซื้อกิจการแบบ 100% ซึ่งบริษัทอเมริกาเคยเป็นเจ้าของ ตอนนี้เป็นของคนไทย 100% และเป็นผู้หญิงคนแรกที่เป็นเจ้าของกิจการ และเป็นผู้หญิงข้ามเพศ

ก่อนจะบอกว่าเป็นเวลาปีนิดๆ ที่บินไปเจรจาต่อรองที่สหรัฐอเมริกา พูดคุยหลายครั้ง การเจรจาดีลยักษ์ระดับโลกไม่ใช่เรื่องที่เร็วหรือง่าย พอจบหมดทุกสิ่งทุกอย่างจึงออกมาประกาศ เป็นเรื่องจริงที่เราซื้อมาทั้งหมด และได้มาถึง 3 แบรนด์ ทั้ง Miss Universe Miss USA และ Miss Teen USA มีอำนาจในการควบคุมกิจการ ดูแล สร้างสรรค์ และทำโครงสร้างใหม่ทั้งหมด โดยสำนักงานยังอยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ส่วนสำนักงานที่ไทยจะอยู่ที่ตึก JKN EMPIRE แบริ่ง และเป็น Head Quarter

ทั้งนี้ แอน จักรพงษ์ เผยถึงสิ่งที่ได้จากการซื้อกิจการองค์กรมิสยูนิเวิร์สว่า ในระดับชาติ ประเทศชาติได้ทั้งงานและเศรษฐกิจ ได้ทั้งการส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ไปสู่ทั่วโลก การท่องเที่ยวจะดีขึ้น ระดับ Co-operate Level เพราะเป็นบริษัทมหาชน รายรับทั้ง 9 ด้านจะเป็นอย่างไร และในระดับ Personal Level ในฐานะเป็นผู้หญิงข้ามเพศ ตระหนักดี อย่างที่ สตีฟ จ็อบส์ กล่าวว่า รู้ถึงอดีตกาล ก็จะเข้าใจถึงปัจจุบันและอนาคตว่าทำไมฟ้าถึงลิขิตให้เราสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคน

โดยในวีทีอาร์การซื้อกิจการองค์กรมิสยูนิเวิร์ส เผยว่า การประกวด Miss Universe นอกจากจะเปิดโอกาสให้ผู้หญิงข้ามเพศ หรือผู้หญิงที่แต่งงาน ผ่านการหย่าร้าง สามารถเข้าประกวดได้ ตามแนวความคิด One Universe ที่ แอน จักรพงษ์ ตั้งปณิธานไว้ JKN ยังมีเป้าหมายในการขยายธุรกิจให้เป็นมากกว่าการประกวดนางงาม โดยกำหนดโครงสร้างรายได้หลัก 9 ประเภทจากการประกวดไว้ดังนี้

1. รายได้จากการอนุญาตสิทธิ์การประกวดให้แต่ละประเทศจัดประกวดนางงามเพื่อหาตัวแทนเข้าประกวด Miss Universe
2. รายได้จากการอนุญาตสิทธิ์ให้กับประเทศต่างๆ ในการเป็นเจ้าภาพในแต่ละปี
3. รายได้จากการรับจ้างผลิตงานการประกวด Miss Universe ในแต่ละปี
4. รายได้จากผู้สนับสนุนหลักการจัดประกวด Miss Universe
5. รายได้จากการจำหน่าย หรือให้สิทธิ์ผลิตสินค้าและบริการ ภายใต้แบรนด์อันทรงคุณค่า
6. รายได้จากการอนุญาตให้สถานีโทรทัศน์ทั่วโลกถ่ายทอดสดการประกวด
7. รายได้ผ่านรายการ Super Format อย่าง “Road to Miss Universe”
8. รายได้จากการบริหารศิลปิน จากผู้ชนะการประกวด Miss Universe
9. รายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมการประกวดทุกแพลตฟอร์มของการรับชม

แอน จักรพงษ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีข่าวออกมาอยู่แล้ว แต่เลือกจะเงียบเพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด เมื่อพร้อมจึงเลือกประกาศเวลานี้ เนื่องจากเรื่องบุคลากร ทั้งตัวกฎหมาย การถ่ายโอนงาน ตลอดจนการสร้างความเข้าใจในระดับโลก เนื่องจากองค์กรยังตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ยังเป็นแบรนด์ระดับโลก เพียงแต่เปลี่ยนเจ้าของเท่านั้น

ถามว่าจะทำยังไงให้ปัง สนุกสนาน และได้แรงบันดาลใจกลับมา แอนตอบว่า นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เข้าไปซื้อกิจการ เพราะตั้งเป้าหมายว่าถ้าไม่ดีขึ้น เราคงไม่เข้าไปทำ และเจ้าของเดิมก็กรุณาฟัง และแน่นอนว่าเป็นงานที่ถนัดกว่าสำหรับเรา จึงได้เกิดการเจรจาขึ้น การเจรจาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเราเป็นคนไทย การซื้อกิจการของอเมริกา และบอกจุดประสงค์ว่าถ้าจะทำ ขอเป็นเจ้าของแบบ 100% ก่อนจะบอกว่าจะมีการแถลงข่าวและเชิญสื่อมวลชนอีกครั้ง

ในช่วงท้าย แอน จักรพงษ์ พูดถึงความเป็นมืออาชีพ 3 ระดับในการบริหารมิสยูนิเวิร์ส ซึ่งระดับที่ 1 คือระดับชาติ โดยการใช้มิสยูนิเวิร์สในการเป็นเจ้าภาพการจัดงานในประเทศไทยทุกๆ 2 ปี แต่ตรงนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ ประเทศไทยได้รายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุด การมีตรงนี้ทำให้เงินหมุนเวียน เศรษฐกิจดีขึ้น เพราะมีการท่องเที่ยวที่แข็งแรง และ JKN มีความมุ่งมั่นใช้ Miss Universe เป็นเครื่องมือหรือยานพาหนะนำ Soft Power 5 ด้าน (Food, Fashion, Festival, Film และ Fighting) จากประเทศไทยไปสู่ทั่วโลก ทำให้คนอยากมาเที่ยวเมืองไทย

ระดับที่ 2 Co-operation สามารถสร้างรายรับถึง 9 ด้าน ก่อนจะทิ้งท้ายว่าจะอธิบายรายละเอียดในวันแถลงข่าว

ระดับที่ 3 Personal ถึงตรงนี้แอนพูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า ไม่เคยคิดว่าการที่เราเติบโตขึ้นมาแล้วถูกบูลลี่ทั้งชีวิต เรารู้ตัวว่าเป็นผู้หญิงข้ามเพศ ทำให้เกิดแรงกดดัน เรียนรู้ ฟันฝ่า เกิดมาเป็นผู้หญิงข้ามเพศก็ต้องทรานส์ฟอร์มให้ได้ ต้องต่อสู้เพื่อให้คนยอมรับ ไปเรียนต่างประเทศต้องหาเงินเรียนให้ได้ ชีวิตนี้ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ทำ แม้กระทั่งการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อ 5 ปีที่แล้ว

พอถึงวันที่เห็นความเป็นยูนิเวิร์ส มันคือความหวัง แรงบันดาลใจ ความฝันของผู้หญิงทุกคน ตลอดจนแฟนคลับทุกท่านที่เห็นคนที่สวมมงกุฎเป็น row model แม้ 1 ปี เปลี่ยน 1 ครั้ง แต่ก็ยังเป็นตำนาน พอถึงวันที่จูนให้เรามาเจอบริษัทนี้ และถามตัวเองว่าอยากจะทำมั้ย ภารกิจจักรวาลนี้ นั่งคิดบางครั้งน้ำตาก็ไหล (ร้องไห้) ก็คิดว่าทำไมต้องเป็นเรา ก็คิดอยู่นานว่าเราพร้อมมั้ย เราจะเสียสละตัวเองในการดูแลตรงนี้ไปตลอดได้มั้ย

ใครอาจจะบอกว่าเราพร้อม แต่จริงๆ เราเรียนรู้ตลอดเวลา เราเรียนรู้และอดทนมากที่สุดคนนึง พูดด้วยความตื้นตัน เพราะเหนื่อยเหลือเกินกับภารกิจ พอได้พูดแล้วโล่งใจ รู้สึกอยากทำให้ได้ดี ถ้าทุกคนสนับสนุนแอนก็จะทำ พร้อมทั้งขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจมาตลอด เพราะทุกคนทำให้ตัดสินใจว่าตนจะทำ และจะขอรับใช้ทุกคนอย่างดีที่สุด

ก่อนจะปิดท้ายว่าจะมีการแถลงข่าวการเป็นเจ้าของ MISS UNIVERSE ORGANIZATION (MUO) โดยมี PAULA SHUGART และ AMY EMMERICH พูดคุยผ่าน Zoom ภายใต้ชื่องาน The Evolution of The Universe หรือ ปฏิรูปจักรวาล ในวันที่ 27 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ถ่ายทอดสดทางช่อง JKN18

รวมไปถึงงานแถลงข่าว "JKN presents MISS UNIVERSE'S EXTRAVAGANZA" มีนางงามมาร่วมในงาน และเปิดให้ทุกท่านเข้าร่วมฟรี รายละเอียด วัน/เวลา และสถานที่ จะแจ้งอีกครั้ง.