กลายเป็นเรื่องที่แฟนๆ ให้ความสนใจหลังจากเดี่ยว 13 ของ โน้ต อุดม แต้พานิช จบลงกับกรณีที่โน้ตพูดถึง หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ในบางช่วงบางตอนว่า ได้เชิญหมอบีมาช่วยปราบผีที่บ้าน แต่หมอบีกลับไม่ได้ทำอะไรเลย ก่อนบอกจะรีบกลับไปเฝ้าร้านว่า
"สุดท้ายอุ๋มอิ๋มปราบไม่อยู่ ผมติดต่อหมอบี ทูตสื่อวิญญาณ หมอบีมาที่บ้าน หมอบีดูเป็นหมอปราบผีที่ดูมีการศึกษามาก เข้ามาปุ๊บ ก็เดินดู บอกตรงนี้ไม่มีนะ ขออนุญาตเข้าห้องนอน ยืนอยู่ตรงนั้นครับ ที่เดียวกันเลย
เขาบอกอันนี้ไม่ใช่ผี อันนี้เป็นอสุรกาย มันน่ากลัวกว่าเยอะ แล้วมันก็เหมือนกอลั่ม แต่เละเฟะกว่า ตัวใหญ่กว่า ให้บุญมันก็ไม่เอาด้วย มันมาได้เพราะผมว่ามีคนทำของใส่พี่โน้ต ขอนั่งสมาธิสักครู่ ให้พี่โน้ตออกไปก่อน ก่อนที่หมอจะบอกว่าห้องพี่โน้ตมีของอยู่ครับ
ผมเห็นเป็นยันต์สีแดงๆ อยู่ พลิกเตียงเจอยันต์เขมรแดงๆ อยู่ และมีอีกอันอยู่ใต้เตียง และมีอีกอันอยู่ที่โต๊ะหัวเตียง ลายมือเดียวกัน ซึ่งโน้ตไม่เชื่อ คิดว่าเป็นช่างไม้ที่รักในการออกแบบ แต่ตู้กับเตียงซื้อมาคนละวาระแล้วเป็นยันต์เดียวกันได้อย่างไร
...
หมอบีบอกว่าโดนทำของ เขาทำอันนี้มาทำผีตัวนี้มาด้วยสั่งมาให้เฝ้าพี่โน้ต หมอบีบอกว่าผมเห็นเฉยๆ ผมแก้ไม่ได้ แล้วหมอบีก็ลาไปเฝ้าร้านกาแฟ และปล่อยให้ผมอยู่กับอสุรกาย
ทุกวันนี้ก็อยู่กับมันอยู่ ก่อนไปหมอบีบอกว่า วันที่ 7 เมื่อ 7 ปีที่แล้วเดือนกันยา คนคนนั้นทำของใส่พี่โน้ต 7 ชั่วโมงที่แล้วยังจำไม่ได้เลยว่าทำอะไรมา เอาเป็นว่าตอนนี้ผมอยู่กับมัน อยู่ได้เพราะอานิสงส์จากการบวช"
ต่อมา หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ได้พูดถึงเรื่องนี้ในรายการทูตสื่อข่าว เพราะมีแฟนๆ ที่ติดตามเข้ามาคอมเมนต์ถามถึงเรื่องที่ โน้ต อุดม เล่าในเดี่ยว 13 มาเยอะมาก ซึ่งหมอบีก็ได้อธิบายว่า
"ผมเป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในเรื่องราวด้วย สิ่งที่เขาพูดก็ไม่หมดผมพูดได้ เพราะผมเป็นคนที่ถูกอ้างอิง สิ่งที่พี่โน้ตพูดก็ไม่หมด เพราะเขาบอกว่าผมไม่ได้ทำอะไรเลย และรีบกลับร้าน ซึ่งร้านมันปิดแล้ว ผมไม่ได้กลับร้าน ไปกินข้าว
และผมบอกวิธีการแก้ไปหมดแล้ว บอกข้อ 1-2-3-4-5 ว่าควรทำอะไร พี่จะทำหรือไม่ทำก็เรื่องของพี่ ขนาดผมจะยกของให้ฟรีๆ ยังไม่เอาเลย พูดตรงๆ ผมกล้าพูด เพราะผมถูกอ้างอิง
ผมบอกให้แก้อะไรบ้าง จะให้ของแต่เขาบอกว่าไม่เอาเพราะมันไม่ตรงกับความเป็นอาร์ติสต์ของเขา ผมแฮปปี้กับเขานะ ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะ และผมยังระบุวันว่าวันวันนี้พี่ไปไหนมา ผมบอกวันที่ บอกเที่ยวบินด้วยว่าพี่ไปกับใคร แต่เขาจำไม่ได้
เราก็ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ แต่พี่เขาไม่ได้บอกว่าผมบอก แล้ววันนั้นผมก็ที่พี่โชว์ผมก็นั่งอยู่ใกล้มาก แต่เขาไม่เห็น นั่งตรงหน้าแต่เขาก็แซวอยู่ นั่งรอบเดียวกับพี่จา พนม หลังจากนั้นทีมงานก็มาสัมภาษณ์ผมก็ตอบแบบนี้แหละ แต่ไม่ได้ลง ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร
ของพวกนี้ก็ว่ากันไป ใครดูแล้วชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ มันก็แล้วแต่สิทธิ์ของแต่ละบุคคล เราต้องยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างไม่เห็นเป็นไรเลย
ไอ้ที่บวชผมก็บอกให้เขาบวช แต่การที่เขาไปบวชอาจจะไม่ได้นึกถึงสิ่งที่ผมเคยบอก ผมบอกให้บวช แล้วให้เป็นทำนั่นนี่ก็ว่าไป สิ่งนั้นจะได้ไม่ตามต่อ
หรือว่าให้เอาสิ่งหนึ่งไปไว้ที่บ้านก็ได้ หรือไม่ก็ไม่สนใจก็ได้ เขาก็ไม่ได้เลือกอะไร ก็เลยให้ไปหาว่าย้อนกลับไป 7 ปีที่แล้วไปไหนมา จะได้เอาสิ่งนั้นกลับไปไว้ที่เดิม ก็บอกไป 4 อย่าง แต่อย่าไปซีเรียส ผมไม่ได้ซีเรียสอะไร"
...