คบหากันมา 8 ปีแล้ว สำหรับพระเอกหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ และ จันจิ จันจิรา เลยถูกยกให้เป็นอีกคู่รักมาราธอนของวงการบันเทิง แต่ถึงจะรักกันมานาน แต่ทั้งคู่แทบจะไม่มีโมเมนต์หวานๆ หรือภาพคู่สุดหวานมาให้ได้เห็นกันเท่าไหร่ และไม่ค่อยจะพูดถึงเรื่องราวความรักให้ได้ฟังอีกด้วย
ล่าสุด จันจิ ได้มานั่งเปิดใจเล่าถึงเรื่องราวความรักเป็นยังไงมายังไง ถึงได้เป็นแฟนกับพระเอกซุป'ตาร์ขวัญใจสาวๆ ทั่วประเทศอย่าง มาริโอ้ ที่รายการ ยังไงไหนเล่า EP.51 จันจิ เล่าหมดไปไงมาไง ถึงได้หัวใจพี่มาริโอ้ งานนี้ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเล่าไปเขินไปว่า
เคยเจอมาริโอ้ตั้งแต่ตอนจันจิเป็นแดนเซอร์แล้ว เคยเต้นในคอนเสิร์ต เคยเจอ รู้จักพี่เขามานานแล้ว เขาก็จะเป็นอย่างนี้ มีมาดของเขา มันเข้าถึงยาก จะนิ่งๆ แต่เรากรี๊ดเขา ตอนนั้นเขาเป็นพี่มาก ซึ่งเราชอบฝรั่ง ชอบความฝรั่ง แต่เอาจริงๆ ถ้าจะคบใครก็ไม่ได้ดูที่หน้าฝรั่งอย่างเดียว ต้องดูว่าเข้ากับเราได้มั้ย
เริ่มต้นจากที่เรากรี๊ดเขา และได้เจอเขา ช่วงที่เป็นพี่มาก ตอนนั้นเขาโสด ไม่ใช่ไปกรี๊ดเขาตอนที่เขามีแฟนไม่ได้นะ กรี๊ดก็ดูสถานการณ์ว่ามันพอจะมีความเป็นไปได้มั้ย ถ้าไม่มีก็พอ แต่สุดท้ายอยู่ดีๆ ก็ได้มาคุยกัน
...
และจันจิเป็นคนที่เข้าไปจีบก่อน แต่ต้องรู้จักกันอยู่แล้วถึงจะไปจีบนะ ต้องดูแนวโน้มว่าเขาก็ดูโอเคกับเรา ไม่ได้ไปทะเล่อทะล่าใส่เขา ตอนนี้ก็คบกันมา 8 ปีแล้ว
เมื่อก่อนเรายังเด็กจะเป็นพวกคิดเร็วทำเร็ว อยากเจอก็ไปหา แต่เป็นพฤติกรรมที่ไม่ค่อยดี เพราะคิดเร็วทำเร็วไปหน่อย ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็จะไม่ทำขนาดนี้
ในตอนนั้นเป็นแบบ ชอบเขา จีบเขา คุยกับเขา ไปหาเขา พูดง่ายๆ เลย แรด (หัวเราะ) คือถ้าเราชอบเขา แล้วไม่ไปคุยกับเขาโอกาสจะเกิดขึ้นได้ยังไง
ตอนนั้นก็เน้นคุย MNS บีบี เป็นคนที่ทุ่มเทในความรัก แต่ไม่ได้เปย์นะ แต่ว่าทุ่มเทให้ทางใจ ดูแลทางใจถึงที่ เป็นคนที่พูดบอกรักด้วย และแสดงการกระทำด้วย (ยิ้มเขิน)
เวลาไปเที่ยวผู้ชายก็ไม่ตาม อยากทำอะไรก็ทำ ไปเที่ยวก็ได้ เพราะธรรมชาติของเขาไม่ค่อยมาเข้มงวดกับเราเรื่องนี้ เขาก็อยู่ในโลกของเขา และเขาเป็นคนไม่เที่ยวด้วย แต่ถ้ามีเรื่องงอนกัน ก็จะเป็นเรื่องที่พูดไม่เข้าหูกัน ตอนเป็นเด็กขอโทษกันยาก แต่พอโตขึ้นก็ขอโทษกันง่ายขึ้น
ถามว่าอยากมีครอบครัว ปัจจุบันพี่เขาเป็นคนประมาณนี้ เราเป็นคนประมาณนี้ เราไม่ได้อยากจบที่การมีลูก หรือแต่งงานมีครอบครัว เอาแค่วันนี้เราแฮปปี้มีความสุขหรือยัง ถ้ามันดีแล้วก็ให้มันดีต่อไป ถ้าคาดหวังอนาคตแล้วมันไม่เกิดขึ้นเราก็จะพังเอง เอาวันนี้ให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องความสวีตของเขาก็สวีต เราจะคุยกันเสียงสองเสียงสาม (ยิ้มเขิน).