ไม่ได้เล่นหนังมานานถึง 10 ปี สำหรับ บีม-กวี ตันจรารักษ์ คุณพ่อดับเบิลลูกแฝด ร่วมผจญภัยสุดวายป่วงและสยองขน ในภาพยนตร์โรแมนติก-คอมเมดี้เรื่อง “ทวงคืน” ค่าย เอ็ม พิคเจอร์ส โดย ฝีมือการกำกับ แดน-วรเวช พร้อมเข้าฉาย 13 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
ก่อนที่จะได้ชมภาพยนตร์แบบเต็มๆ บีม เผยในการทำงานครั้งนี้ว่า
“ในเรื่อง เล่นเป็นไลฟ์โค้ชชื่อบริบูรณ์”
เป็นคนดีแน่เลย?
“(หัวเราะ) เอาอย่างงี้ละกัน ผมว่าในความรู้สึกคนน่ะ ไลฟ์โค้ชมันก็เหมือนคนขายประกัน มันเป็นความรู้สึกแบบอึมครึมนิดนึงอะไรอย่างเงี้ย แต่คนที่เค้าได้ประโยชน์ หรือคนที่เค้าประสบความสำเร็จจากการที่ไปโค้ชชิ่ง บางคนก็ต้องการจริงๆ คือไม่ได้ว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ไม่ดี แต่ว่าหลายคนจะเข้าใจแบบนั้น ว่าแบบมันเป็นความรู้สึกที่แบบ มันดูแย่ๆ ก็คงมีบางส่วนที่หลอก ผมว่าบางทีอะเค้าไม่ได้ตั้งใจจะหลอกนะ ก่อนที่จะเล่นผมก็ไปทำความเข้าใจกับการเป็นไลฟ์โค้ชนะ แต่ว่ามันเหมือนกับบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจในจุดที่เค้าเป็นอยู่อย่างแท้จริงก็ได้ เหมือนกับไอ้โค้ชเนี่ยที่มันเป็นอยู่ตอนเนี้ย แล้วมันก็กำลังหาทางของมันอยู่ เพียงแต่ว่าในระหว่างทางมันก็ช่วยคนนะแต่ว่ามันอาจจะช่วยด้วยวิธีที่มันแปลกประหลาดไปสักหน่อยนึง”
...
พอได้บทมาบีมต้องมีไปศึกษาเกี่ยวกับตรงนี้ไหม?
“ก็จะมาดูว่าเรามองภาพตัวนี้เป็นยังไง เราก็จะหยิบไลฟ์โค้ชคนนี้มานิดนึง เอาคนนั้นมาหน่อยนึง คือบางทีมันเป็นการแซวบ้าง”
การร่วมงานกับแดน ที่เรื่องนี้เล่นด้วยควบกำกับด้วย บีมมีส่วนแนะนำแดนอะไรบ้างมั้ย?
“ในบางซีนนะ ต้องบอกว่าการทำงานในเรื่องนี้ค่อนข้างจำกัดนิดนึง เพราะว่าเราถ่ายได้แค่ตอนกลางคืน มีทั้งเด็ก เอฟเฟกต์ ต้องแต่งนู่นแต่งนี่ มีผีด้วย ไฟก็ต้องจัดพิเศษ อะไรอย่างนี้ คือมันยากกว่าจะผ่านไปซีนนึง เวลาที่จะถ่ายมันค่อนข้างจำกัดนิดนึง ฉะนั้นเราจะต้องเตรียมตัวมากๆ”
อยู่กับแดนมาหลายปีมากเลย ณ วันนี้บีมมองเห็นเค้าเป็นแบบยังไงบ้าง
“โอ้โหตั้งแต่สิบปีที่แล้ว มันก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เราก็คิดว่าเค้าทำงานได้คล่องขึ้น จัดการตัวเองได้ดีขึ้น รู้วิธีการทำงานได้ดีขึ้น เรียกว่าความสามารถในการกำกับคือดีขึ้น แต่ก่อนอาจจะแบบว่าชอบลงมือด้วยตัวเอง แต่เดี๋ยวนี้คือเหมือนกับว่าเค้าปล่อยละ เค้าโฟลว์ เค้ามั่น เค้าไว้ใจคนอื่นมากขึ้น ที่จะให้นักแสดงทำแบบที่เค้าเสนอมามากขึ้น เค้าเปิดโอกาส เปิดช่องให้เราเล่นมากขึ้น”
กับแพทตี้ล่ะ ก็ไม่ได้ร่วมงานกันมานาน?
“น้องแพทตี้ก็คือจะเห็นเค้าเป็นคนตั้งใจอย่างนี้มาตั้งนานแล้วครับ แต่ก็รู้สึกน้องโตขึ้น ดูวิธีการแบบเล่นก็โตขึ้น การร่วมงานกันก็เลยแบบว่าจะราบรื่นขึ้น”
เห็นว่าทุกคนมีเพลงประกอบของตัวเองด้วย?
“ใช่ ของผมชื่อเพลง “สิ่งที่ควรทำก่อนตาย” ของผมจะแบบค่อนข้างดราม่ามากๆ แล้วก็มีพูด มีคำว่า “ตาย” อยู่ในเนื้อ คิดดูดิ (หัวเราะ) เนื้อหามันก็คือตามชื่อเพลงอะครับ เรามีสิ่งที่ควรต้องทำก่อนตาย ทำไมเราไม่ทำ โอกาสมันจะแบบ มันจะมีโอกาสอีกไหมอะไรประมาณอย่างงี้”
มันเป็นหนังผีที่ตลกแล้วก็ให้แง่คิดด้วยใช่ไหม?
“ใช่ครับ คือคุณจะเอาแง่คิดก็ได้ (หัวเราะ) แต่จริงๆผมเข้าไปดูหนัง ผมไม่เคยมานั่งคิดว่าเราจะได้อะไรน้า...จากหนังเรื่องนี้ มันรู้สึกว่ามันแบบ...ชีวิตมันมีอะไรให้แบบให้แง่คิด เราไปเอากับอย่างอื่นก็ได้ อันนี้เรามาดูหนัง เราดูเพื่อความบันเทิงไง ในความรู้สึกของผม ถ้าเกิดจะมาแบบ เฮ้ย! เข้ามาดูสิ มันให้แง่คิดนะอย่ามาดูหนังดีกว่านะ มาดูเพื่อความสนุกสนานดีกว่า แล้วผมรับรองว่าเรื่องนี้มันสนุก”
อัปเดตครอบครัวหน่อย กำลังจะเป็นคุณพ่อลูกสี่แล้ว ก่อนหน้านี้ความสับสนเพศน้องแฝดสรุปเป็นผู้หญิงทั้งสองคนใช่มั้ย
“ใช่ครับ เป็นผู้หญิงสองคน แต่ทีนี้ต้องทำความเข้าใจ คือมันมีข่าวออกไปว่าเป็นผู้หญิง-ผู้ชาย คือต้องขอโทษพี่มดดำด้วยมากๆ คือช่วงนั้นมันเป็นแบบ มันเป็นช่วงที่ออยเขาท้องประมาณสี่เดือน ทีนี้ก่อนที่ไปรายการแฉ ก็คุยกับแฟนเหมือนกันแหละว่า เฮ้ย! เราจะเฉลยเพศดีไหม ถ้าเกิดเขาถามเราจะเฉลยไหม คือยังคิดไม่ตกผลึกไง พอไปอยู่ตรงหน้างานละ เสร็จแล้วพี่มดดำเขาถาม เขาก็ถามสงสัยจะเป็นชายแน่เลย เราก็รู้สึกว่าแบบไม่อยากให้พี่มดดำเสียหน้า เราก็เลยบอกว่ามีผู้หญิงครับ เราใช้คำว่ามีผู้หญิงครับ (หัวเราะ) พี่มดดำก็เลยเอาไปพูดต่อว่าหรือว่าจะมีผู้หญิงผู้ชายแน่เลย ผมก็ดันตอบแบบเล่นด้วยไง ก็เลยไม่ได้บอกว่าจริงๆเป็นผู้หญิงคู่ แต่จากหลังจากจบรายการแล้วก็บอกความจริงว่าเป็นผู้หญิงกับผู้หญิง พอไปถ่ายรายการสามแซ่บ เค้าก็ถามเหมือนกัน เราก็บอกตามความจริงไป”
...
กับแฝดพี่ธีร์ กับพับพีร์ ตอนนี้เป็นที่รักของทุกคนมากๆ
“ก็ดีใจครับ คือเค้าอยู่ในช่วงวัยที่กำลังพูดด้วย และพูดเก่ง ทีนี้ผมว่าคนทั่วไปก็คงชอบเด็กที่พูดเก่ง และก็ดูแบบ เอ๊ะ คิดได้ยังไง พูดออกมาได้ยังไง บางทีถ่ายๆอยู่ มันก็ต้องรู้สึกว่าแบบทำไมคุณพูดประโยคนี้ออกมาละลูก อย่าง ‘ระวังรถติดน้า ไม่งั้นเดี๋ยวพับพีร์จะไปช่วยน้า’ อะไรอย่างเงี้ย”
กับออย-อฏิพรณ์ เป็นแม่ที่แบบว่าสอนลูกดีมากๆ?
“เป็นคุณแม่ที่ดุนะ (หัวเราะ) แต่เค้ารู้วิธีการสอน จริงๆออยเค้าไม่ได้จบจิตวิทยาใดๆ อาศัยว่าดุ (หัวเราะ) เป็นคนเฉียบขาด เอางี้ดีกว่า เป็นคนค่อนข้างมีระเบียบวินัย จริงๆแล้ว ผมว่าเค้านิสัยคล้ายๆลูกชายคนโตนี่แหละ เค้านิสัยคล้ายพี่ธีร์ เป็นคนแบบว่าค่อนข้างละเอียด ต้องทุกอย่างมันต้องตามนี้สิ อะไรอย่างเงี้ย ฉะนั้นเวลาสอนลูก เค้าก็จะมีวิธีของเค้า”
พอเห็นภรรยาเป็นยังงี้ บีมรู้สึกยังไงบ้าง?
“รู้สึกดีมั้ง (หัวเราะ) จริงๆเราก็เห็นว่าเค้าเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วแหละ เพียงแต่คนทั่วไป ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้เห็น แต่เราอยู่กับเค้ามาตลอด เราก็รู้ว่าแบบ เค้าดุในระดับนึง (หัวเราะ) แต่ดุของเค้าคือทำให้เด็กๆ แบบโอเค เค้ามีหลายด้าน มีวิธีการพูด วิธีการรับมือเหมือนเค้าคิดมาแล้วว่าแบบนี้มันดีอะไรเงี้ย”.
...